ฮ่องกงเดินเกมรุกฆาต! หน่วยงานกำกับดูแลประกันภัยงัดข้อเสนอสุดโหด เตรียมไฟเขียวให้บริษัทประกันภัยลงทุนใน ‘คริปโทเคอร์เรนซี’ ได้ แต่แลกมาด้วยเงื่อนไขมหาหิน ต้องตั้งสำรองเงินกองทุนเต็มจำนวน 100% (Risk Charge) เพื่อปิดประตูความเสี่ยง พร้อมขีดเส้นแบ่งชัดเจนระหว่างเหรียญเก็งกำไรกับ ‘Stablecoin’ ที่มีสินทรัพย์หนุนหลัง หวังดึงเม็ดเงินสถาบันเข้าสู่ระบบอย่างมั่นคง ท่ามกลางความพยายามปั้นเกาะฮ่องกงสู่ศูนย์กลางสินทรัพย์ดิจิทัลแห่งเอเชีย
ในขณะที่ทั่วโลกกำลังจับตาความเคลื่อนไหวของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล สำนักงานคณะกรรมการกำกับและบริหารจัดการด้านการประกันภัยของฮ่องกง (Insurance Authority - IA) ได้เปิดเผยร่างกรอบการดำรงเงินกองทุนรูปแบบใหม่ ที่อาจพลิกโฉมพอร์ตการลงทุนของบริษัทประกันภัย โดยเนื้อหาสำคัญที่ระบุในเอกสารลงวันที่ 4 ธันวาคม เผยให้เห็นถึงท่าทีที่ “ระมัดระวังขั้นสูงสุด” ของเรกูเลเตอร์
กฎเหล็ก ถือ 1 บาท สำรอง 1 บาท
ภายใต้ข้อเสนอนี้ บริษัทประกันภัยที่ต้องการจะพาตัวเองเข้าสู่โลกคริปโตฯ จะต้องเผชิญกับ “ค่าใช้จ่ายความเสี่ยง” (Risk Charge) ที่สูงถึง 100% สำหรับการถือครองสินทรัพย์คริปโตฯ ทั่วไปที่ไม่มีสินทรัพย์หนุนหลัง (Unbacked Crypto Assets)
ความหมายในทางปฏิบัติคือ หากบริษัทประกันต้องการลงทุนใน Bitcoin หรือ Altcoins มูลค่าเท่าใด ก็จะต้องกันเงินทุนสำรองไว้เต็มจำนวนเท่านั้น (Fully Backed) เพื่อรองรับความผันผวนของราคาที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ มาตรการนี้ส่งสัญญาณชัดเจนว่า ฮ่องกงอนุญาตให้ “เล่น” ได้ แต่ต้องเป็นผู้เล่นที่มี “สายป่านยาว” และฐานะทางการเงินแข็งแกร่งดั่งหินผาเท่านั้น
Stablecoin ลูกรักที่ได้รับการยกเว้น
อย่างไรก็ตาม กฎระเบียบนี้ไม่ได้เหมาเข่งไปเสียทั้งหมด เรกูเลเตอร์ได้ขีดเส้นแบ่งแยกประเภทสินทรัพย์อย่างชัดเจน โดย “Stablecoin” ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกฎหมายฮ่องกง จะได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างออกไป
ค่าใช้จ่ายความเสี่ยงของ Stablecoin จะถูกคำนวณโดยอิงจากสินทรัพย์สกุลเงินเฟียต (Fiat Currency) ที่หนุนหลังอยู่ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าทางการฮ่องกงให้ค่ากับสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีกลไกรักษาเสถียรภาพราคา มากกว่าเหรียญที่ลอยตัวตามกระแสเก็งกำไร
ปลดล็อกสภาพคล่องโลก เชื่อมท่อ Global Liquidity
ความเคลื่อนไหวในฝั่งประกันภัย สอดรับกับจังหวะก้าวของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และสัญญาล่วงหน้า (SFC) ที่เพิ่งประกาศแผนยกเครื่องกฎเกณฑ์การเทรดคริปโตฯ ครั้งใหญ่ โดยเตรียมอนุญาตให้กระดานเทรด (Exchange) ที่ได้รับใบอนุญาตในฮ่องกง สามารถเชื่อมต่อกับ “Global Order Books” หรือกระดานซื้อขายระดับโลกได้เป็นครั้งแรก
มาตรการนี้ถือเป็นการทลายกำแพงที่เคยทำให้ตลาดฮ่องกงเป็นเกาะโดดเดี่ยว (Isolated Trading Model) และมีสภาพคล่องต่ำ การเชื่อมท่อสู่ตลาดโลกจะช่วยดึงดูดนักลงทุนสถาบันและเพิ่มปริมาณการซื้อขายให้ทัดเทียมกับคู่แข่งอย่างสหรัฐฯ
ฮ่องกงก้าวที่มั่นคงสู่ Hub แห่งเอเชีย
ข้อเสนอทั้งหมดนี้ คาดว่าจะเข้าสู่กระบวนการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ (Public Consultation) ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายนปีหน้า นับเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่แสดงให้เห็นว่า ฮ่องกงไม่ได้ต้องการแค่ความเป็น “เลิศ” ในด้านนวัตกรรม แต่ต้องยืนอยู่บนพื้นฐานของ “ความมั่นคงทางการเงิน” (Financial Stability)** อย่างเคร่งครัด การเปิดประตูให้บริษัทประกันลงทุนคริปโตฯ ด้วยกฎเกณฑ์ที่รัดกุม จึงเป็นก้าวที่กล้าหาญและรอบคอบไปพร้อมๆ กัน