เปิด 5 รูปแบบโมเดลธุรกิจแฟรนไชส์ “กาแฟพันธุ์ไทย” สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการเป็นเจ้าของแฟรนไชส์ร้านกาแฟสายเลือดไทย พร้อมงบการลงทุนและขั้นตอนการสมัครและสิ่งที่ได้เมื่อเป็นเจ้าของแฟรนไชส์
ธุรกิจร้านกาแฟอย่างแบรนด์ดัง “พันธุ์ไทย” ที่รุกตลาดมากว่า 13 ปี ซึ่งกาแฟพันธุ์ไทยเป็นแบรนด์ในเครือ PTG เปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 19 กันยายน ปี 2555 โดยเน้นขายกาแฟไทยคุณภาพดีจากแหล่งต่างๆ โดยเฉพาะ “ดอยช้าง อาราบิก้าแท้ 100%” และวัตถุดิบอื่นๆ จากชุมชน อีกทั้งยังสนับสนุนชุมชนและเกษตรกรไทยให้ ‘อยู่ดีมีสุข’ ควบคู่การดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นธุรกิจที่เติบโตค่อนข้างเร็วเพราะในปัจจุบันมีสาขามากถึง 1,900 สาขาทั่วประเทศ โดยมุ่งเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ใน 2570 และตั้งเป้าขยายสาขาให้ถึง 5,000 สาขาภายในปี 2571
แล้วถ้าหากผู้ประกอบการต้องการเป็นเจ้าของแฟรนไชส์กาแฟพันธุ์นั้นจะต้องมีการวางแผนหรือเตรียมตัวอย่างไรบ้าง พร้อมกับทราบถึงโมเดลธุรกิจแฟรนไชส์ว่ามีทั้งหมดกี่โมลเดล ทั้งนี้เราได้รวบรวมโมเดลธุรกิจแฟรนไชส์มาให้ทั้ง 5 รูปแบบโมเดล สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจร้านกาแฟสายเลือดไทย
5 รูปแบบโมเดลธุรกิจแฟรนไชส์ “กาแฟพันธุ์ไทย”
1.รูปแบบ Kiosk มีขนาดเริ่มต้นที่ 15 ตารางเมตร เงินลงทุนเริ่มต้นที่ 1.18 ล้านบาท
2.รูปแบบ Food Trailer มีขนาดเริ่มต้นที่ 9 ตารางเมตร เงินลงทุนเริ่มต้นที่ 1.58 ล้านบาท
3.รูปแบบ Food Truck มีขนาดเริ่มต้นที่ 9 ตารางเมตร เงินลงทุน 1.68 ล้านบาท
4.รูปแบบ Build in มีขนาดเริ่มต้นที่ 40 ตารางเมตร เงินลงทุน 2.33 ล้านบาท
5. รูปแบบ Stand Alone มีขนาดเริ่มต้นที่ 60 ตารางเมตร เงินลงทุน 3.43 ล้านบาท
ขั้นตอนสู่การเริ่มเป็นเจ้าของแฟรนไชส์
1.ส่งใบสมัครและผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการ ระยะเวลาในการดำเนินการประมาณ 30 วัน
2.เซ็นใบจองและจำระค่าจองสิทธิ์ ชำระภายใน 7 วันหลังจากได้รับสิทธิ์
3.ออกแบบและก่อสร้างร้าน โดยออกแบบใช้เวลา 14-30 วัน และก่อสร้างร้านประมาณ 30-60 วัน
4.อบรมหลักสูตรกาแฟพันธุ์ไทย โดยมีทฤษฎี 5 วันและปฏิบัติอีก 12 วัน
ข้อแนะนำการเลือกทำเลเปิดร้าน
1.อยู่ใกล้แหล่งชุมชนและกลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็น ชุมชน ออฟฟิศ สำนักงาน สถานที่ราชการและกลุ่มเป้าหมาย เช่น กลุ่มพนักงานออฟฟิศและกลุ่มลูกค้าสัญจร
2.สามารถขายได้ทั้งวัน ทำเลที่เลือกควรจะขายได้ทั้งวันตั้งแต่ เช้า กลางวันและเย็น หรืออย่างน้อย 2 ช่วงคือ เช้ากับกลางวัน
3.ตั้งอยู่บนถนนสายหลักที่สามารถมองเห็นได้ง่าย ร้านที่ตั้งจะต้องไม่มีสิ่งกีดขวางและห่างจากสาขาใกล้เคียงอย่างน้อย 15 กิโลเมตร (ไม่รวมทำเลพิเศษหรือพื้นที่ปิด)
4.ร้านต้องมีพื้นที่จอดรถให้กับลูกค้าและผู้ส่งเดลิเวอรี่ ทางร้านจะต้องมีพื้นที่สำหรับจอดรถมอเตอร์ไซค์สำหรับผู้ส่งอาหารเดลิเวอรี่และอยู่ในพื้นที่ Delivery Service
คุณสมบัติผู้สมัครแฟรนไชส์
1.มีความพร้อมด้านการลงทุน
2.มีเวลาบริหารร้านและมีความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจ
3.มีใจรักการบริการ
4.ต้องจดทะเบียนนิติบุคคลที่จดทะเบียนในประเทศเท่านั้น
5.ต้องเข้าอบรมในหลักสูตรที่กาแฟพันธุ์ไทยกำหนดและผ่านการทดสอบของธุรกิจพันธุ์ไทย
6.มีความเข้าใจและสามารถปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไขและมาตรฐานที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด
สิ่งที่ได้จากแฟรนไชส์กาแฟพันธุ์ไทย
1.สิทธิในการใช้เครื่องหมายการค้ากาแฟพันธุ์ไทย
2.ได้รับการส่งเสริมการขายและการตลาด
3.ได้รับการสำรวจและประเมินทำเลพื้นที่เปิดร้าน
4.ได้รับการคิดค้นสูตรเครื่องดื่มใหม่
5.การออกแบบร้านสาขาและการตกแต่งร้านสาขา
6.มีทีมงานช่วยดูแลการจัดการร้าน พัฒนายอดขายตลอดอายุสัญญา
7.ได้รับการอบรมบริหารจัดการและพนักงาน
8.มีระบบเครื่องบันทึกเก็บเงินสด (POS) ระบบสั่งซื้อสินค้า
9.มีทีมงานดูแลเปิดร้านสาขา
10.มีการตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐานของสาขา
11.มีคู่มือการปฏิบัติงานและการบริหารจัดการร้าน
12.ได้ร่วมกับธนาคารชั้นนำในการหาสินเชื่อสำหรับแฟรนไชส์
โดยในเว็บไซส์ https://www.punthaicoffee.com/franchise/step จะมีให้กรอกข้อมูลสำหรับ 5รูปแบบโมเดลธุรกิจแฟรนไชส์ที่ผู้ประกอบการต้องการและมีการคำนวณเงินลงทุนก่อสร้างร้านไว้ให้
ที่มา : punthai coffee
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *