ยักษ์ใหญ่วิดีโอแพลตฟอร์มโลก ‘YouTube’ ขยับตัวเงียบแต่สะเทือนเลื่อนลั่น! เปิดฟีเจอร์ใหม่ให้ครีเอเตอร์ในสหรัฐฯ เลือกรับรายได้เป็น ‘Stablecoin’ สกุล ‘PYUSD’ ของ PayPal ได้ทันที หวังตัดตอนขั้นตอนธนาคารที่ล่าช้าและยุ่งยาก นักวิเคราะห์ชี้เป้านี่คือการเปิดท่อส่งน้ำเลี้ยงมูลค่ามหาศาลกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์สู่โลกสินทรัพย์ดิจิทัล เปลี่ยนสถานะ Stablecoin จากเครื่องมือเก็งกำไรสู่ ‘โครงสร้างพื้นฐานทางการเงิน’ ที่จับต้องได้จริง
วงการสื่อและฟินเทคทั่วโลกต้องจับตามองอีกครั้งเมื่อ YouTube แพลตฟอร์มวิดีโออันดับหนึ่งของโลก ได้เริ่มเปิดใช้งานระบบการชำระเงินรูปแบบใหม่ (Integration) อย่างเงียบๆ โดยอนุญาตให้ Content Creators ในสหรัฐอเมริกา สามารถแปลงรายได้ค่าโฆษณาเป็น “ดอลลาร์ดิจิทัล” หรือ Stablecoin ได้ทันที ผ่านความร่วมมือกับโครงสร้างพื้นฐานของ PayPal
รายงานจาก Fortune ระบุว่า เมย์ ซาบาเนห์ (May Zabaneh) ผู้บริหารฝ่ายคริปโตฯ ของ PayPal ได้ยืนยันถึงความร่วมมือดังกล่าว โดยระบุว่า YouTube ได้เพิ่มเหรียญ PYUSD (PayPal USD) เป็นหนึ่งในทางเลือกสำหรับการจ่ายเงิน (Payout Option) ให้กับครีเอเตอร์ที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์
เปิดท่อเงินแสนล้าน เดิมพันใหญ่ที่ไม่ต้องผ่านแบงก์
นัยสำคัญของการเปลี่ยนแปลงนี้อยู่ที่ “ขนาด” ของเม็ดเงิน ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา YouTube ได้จ่ายเงินให้กับครีเอเตอร์ไปแล้วรวมกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3.4 ล้านล้านบาท) หรือเฉลี่ยปีละ 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ การเปิดประตูให้เม็ดเงินมหาศาลนี้ไหลเข้าสู่ระบบ Stablecoin ได้โดยตรง แม้จะเป็นเพียงทางเลือก (Opt-in) แต่ก็นับเป็นการเขย่าโครงสร้างการเงินเดิมอย่างมีนัยสำคัญ
กระบวนการนี้ทำงานผ่าน Hyperwallet ของ PayPal ซึ่งเป็นท่อส่งเงินหลักของ YouTube โดยครีเอเตอร์สามารถเลือกให้ระบบแปลงรายได้เป็น PYUSD และเก็บไว้ในกระเป๋าเงิน PayPal หรือจะเลือกโอนออกไปยังกระเป๋าเงินดิจิทัลภายนอก (External Wallet) บนบล็อกเชนก็ได้ ซึ่งถือเป็นการ “Bypass” หรือข้ามขั้นตอนของระบบธนาคารดั้งเดิมที่มักจะมีระยะเวลารอคอย (Settlement Delays) และค่าธรรมเนียมซับซ้อน
จาก ‘ทางเลือก’ สู่ ‘ทางรอด’ ของระบบจ่ายเงินข้ามชาติ
แม้ปัจจุบันฟีเจอร์นี้จะเริ่มนำร่องในสหรัฐฯ แต่โมเดลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นศักยภาพของ Stablecoin ในฐานะเครื่องมือการจ่ายเงินสำหรับแรงงานอิสระ (Gig Economy) และครีเอเตอร์ทั่วโลก ที่มักประสบปัญหาเรื่องการโอนเงินข้ามพรมแดน
การผนวก PYUSD เข้าไปในเมนูการจ่ายเงินของแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ระดับนี้ เปรียบเสมือนการสร้างสะพานเชื่อมระหว่างโลก Web2 และ Web3 ที่สมบูรณ์แบบที่สุด โดยที่ YouTube ไม่จำเป็นต้องผันตัวมาถือครองคริปโทฯ เอง แต่ใช้ PayPal เป็นตัวกลางในการจัดการเรื่องการจัดเก็บ (Custody) และการปฏิบัติตามกฎระเบียบ (Compliance)
จับตา ‘PYUSD’ ไม่ใช่แค่ Supply แต่คือ Velocity
ปัจจุบัน PYUSD มีมูลค่าตลาด (Market Cap) อยู่ที่ประมาณ 3.9 พันล้านดอลลาร์ การเข้ามาของ YouTube อาจไม่ได้ทำให้ยอดการออกเหรียญ (Issuance) พุ่งสูงขึ้นแบบก้าวกระโดดในชั่วข้ามคืน แต่สิ่งที่น่ากลัวกว่าคือ “ความเร็วในการหมุนเวียน” (Velocity) และ “ความต่อเนื่อง” (Stickiness) ของผู้ใช้งาน
หากครีเอเตอร์เริ่มคุ้นชินกับการรับเงินเป็น Stablecoin และเลือกที่จะ “เก็บ” (Hold) หรือ “ใช้จ่าย” (Spend) ต่อบนโลก On-chain แทนที่จะแลกกลับเป็นเงินสดทันที นี่จะเป็นจุดเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคครั้งใหญ่ที่สถาบันการเงินดั้งเดิมต้องทบทวน
รับเทรนด์กฎหมายสหรัฐฯ สู่ยุคโครงสร้างพื้นฐานที่ถูกคุมเข้ม
ความเคลื่อนไหวนี้สอดรับกับทิศทางนโยบายในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ที่กำลังเร่งคลอดกฎหมายกำกับดูแล Stablecoin (Payment Stablecoin Frameworks) เพื่อยกระดับจากสินทรัพย์ทดลอง ให้กลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินที่ตรวจสอบได้
รายงานจาก Citi คาดการณ์ว่ามูลค่าการออก Stablecoin อาจพุ่งแตะระดับ 4-5 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2573 หากมีการใช้งานในภาคธุรกิจจริง (Base Case) ซึ่งกรณีของ YouTube และ PayPal นี้ถือเป็น “Use Case” ระดับองค์กร (Enterprise Adoption) ที่ชัดเจนที่สุดว่า Stablecoin กำลังจะกลายเป็นเรื่องปกติใหม่ (New Normal) ของระบบการเงินโลก