xs
xsm
sm
md
lg

PCE ปี 69 เร่งเครื่องโรงสกัด –โรงกลั่นเฟส 3 จับมือ Nisshin OiliO ดันส่งออกแตะ 50%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



“เพชรศรีวิชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ ” กางแผนปี 2569 เดินหน้าโรงสกัดน้ำมันปาล์มดิบ เฟส 3 และโรงกลั่นน้ำมันปาล์มกึ่งบริสุทธิ์เกรดพรีเมี่ยมไตรมาส 3 ปี 69 ดึงพันธมิตรญี่ปุ่น ISF ในเครือ Nisshin OiliO ขยายตลาดส่งออกเป็น 50% ของรายได้ทั้งหมด ต่อยอดสินค้า High-Margin รับดีมานด์ครึ่งปีหลังหนุนกำไรโตเด่น ปักหมุดรายได้ปีหน้า3-3.4 หมื่นล้านบาท



 
นายพรพิพัฒน์ ประสิทธิ์ศุภผล รองกรรมการผู้จัดการสายงานกลยุทธ์และพัฒนาองค์กร บริษัท เพชรศรีวิชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) (PCE) เปิดเผยแผนดำเนินงานสำหรับปี 2569 ว่า บริษัทฯตั้งเป้าปรับโครงสร้างช่องทางจำหน่ายเพื่อขยายฐานลูกค้าต่างประเทศให้เป็นสัดส่วน 50% ของรายได้จากการขายทั้งหมด จากระดับปัจจุบันที่ราว 40% โดยจะลดสัดส่วนการขายในประเทศเหลือ 50% จากเดิม 60% เพื่อกระจายความเสี่ยงและเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นจากการขายสินค้าเชิงมูลค่าสูง

 
"ตามแผนการขยายตลาดในต่างประเทศ PCE จะร่วมมือกับ The Nisshin OiliO Group, Ltd ซึ่งเป็นเครือธุรกิจที่มีเครือข่ายจำหน่ายครอบคลุมกว่า 50 ประเทศ และมีความเชี่ยวชาญในกลุ่ม Specialty Fat และผลิตภัณฑ์น้ำมันที่ใช้เป็นวัตถุดิบต่อยอด เช่น Cocoa Butter และไขมันสำหรับอุตสาหกรรมเบเกอรี่ ช็อกโกแลต และเวชสำอาง โดยพันธมิตรรายนี้มีจุดแข็งด้านการเป็น B2B Specialty Supplier ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงของ PCE เข้าถึงตลาดเชิงอุตสาหกรรมได้รวดเร็วและมีช่องทางการจัดจำหน่ายระดับโลก" 
ในแง่ผลิตภัณฑ์ บริษัทฯให้ความสำคัญกับการพัฒนาและต่อยอดผลิตภัณฑ์กลุ่มน้ำมันปาล์มและน้ำมันเมล็ดในปาล์มกึ่งบริสุทธิ์ (High Margin Value) ที่เป็นวัตถุดิบสามารถใช้งานได้ทั้งด้านการประกอบอาหาร เช่น ไขมันสำหรับช็อกโกแลต และสินค้าอุปโภคบริโภค หรือ อุตสาหกรรม Oleochemical เช่น ส่วนผสมในเวชสำอาง สบู่ ยาสระผม เป็นต้น ซึ่งเป็นสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูงกว่า CPO ธรรมดา และมีโอกาสทำกำไรได้มากกว่าการจำหน่ายสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วไป 

สำหรับตลาดในประเทศ PCE ตั้งเป้าขยายฐานสู่กลุ่ม B2C โดยมุ่งเน้นการวางจำหน่ายน้ำมันปาล์มสำหรับประกอบอาหารภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯให้ครอบคลุมทุกช่องทางจำหน่าย พร้อมกันนี้ยังมีแผนเสนอผลิตภัณฑ์น้ำมันปาล์มกึ่งบริสุทธิ์ให้กับแบรนด์และร้านอาหารญี่ปุ่นชั้นนำในประเทศ เพื่อเพิ่มการรับรู้แบรนด์และสร้างฐานลูกค้าปลีกที่มั่นคง 

ทั้งนี้ ผลจากการลงทุนโรงสกัด CPO เฟส 2 มูลค่าลงทุน 180 ล้านบาท ที่ได้สร้างเสร็จและอยู่ระหว่างการทดสอบระบบ จะเริ่มให้ผลเชิงพาณิชย์ในปี 2569 ซึ่งจะสนับสนุนปริมาณทะลายปาล์มที่เข้ามาในไตรมาส 2/2569 และเมื่อโรงสกัดและโรงกลั่นเฟสถัดไปเดินเครื่องได้เต็มที่ ขณะที่การลงทุนเพื่อขยายกำลังการผลิต ยังคงเดินหน้าสร้างโรงสกัดน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) เฟส 3 มูลค่าลงทุน 310 ล้านบาท คาดแล้วเสร็จภายในไตรมาส 3 ปี 2569 พร้อมกับสร้างโรงกลั่น CPO เพื่อผลิตสินค้า High-Margin เช่น น้ำมันเมล็ดในปาล์ม และน้ำมันปาล์มกึ่งบริสุทธิ์ ซึ่งมีกำหนดแล้วเสร็จภายในไตรมาส 3/2569 เช่นเดียวกัน ทั้งสองโครงการนี้จะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตและรองรับการแปรรูปให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ให้มาร์จิ้นสูงขึ้น

นอกจากนี้ยังเตรียมพร้อมต่อยอดไปยังอุตสาหกรรม Oleochemicalโดยมีมูลค่าลงทุนในโรงงาน Fatty Acid 50 ล้านบาท เพื่อเจาะตลาด Consumer Product อาทิ สารลดแรงตึงผิวซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของสบู่ ครีมอาบน้ำ หรือแม้แต่ผลิตวัตถุดิบสำหรับเวชสำอาง 
กำลังโหลดความคิดเห็น