ตลาดหลักทรัพย์ฯ ประกาศผลประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ประจำปี 2568 มีบริษัทผ่านเกณฑ์รวม 265 บริษัท เพิ่มขึ้นจาก 219 บริษัทในปี 2567. บจ. มีผลคะแนนเฉลี่ยสูงขึ้นในทุกมิติ ESG โดยมิติสิ่งแวดล้อม (E) มีคะแนนเฉลี่ยเกิน 80 คะแนนเป็นครั้งแรก
ปี 2569 SET ESG Ratings จะยกระดับสู่มาตรฐานการประเมิน FTSE Russell ESG Scores
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยประกาศผลการประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ประจำปี 2568 โดยมีบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่ผ่านเกณฑ์การประเมินรวม 265 บริษัท เพิ่มขึ้นจาก 219 บริษัทในปีที่ผ่านมา และในปีนี้ บจ. มีคะแนนเฉลี่ยสูงขึ้นในทุกมิติของ ESG แสดงให้เห็นถึงความพร้อมของ บจ. ในการก้าวสู่การประเมินตามมาตรฐานสากล FTSE Russell ESG Scores ในปี 2569
ผลการประเมินประกอบด้วย ระดับ AAA จำนวน 102 บริษัท ระดับ AA จำนวน 80 บริษัท ระดับ A จำนวน 67 บริษัท และระดับ BBB จำนวน 16 บริษัท คิดเป็นมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม 70% เมื่อเทียบกับมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดทั้งหมดของ SET และ mai (ณ 11 ธันวาคม 2568)
นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานพัฒนาความยั่งยืนตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลอด 11 ปีที่ผ่านมา การประเมิน SET ESG Ratings ได้กลายเป็น benchmark ด้านความยั่งยืนที่สำคัญของตลาดทุนไทย ช่วยผลักดันให้ บจ.พัฒนาจากการทำกิจกรรม CSR มาสู่การผนวกความยั่งยืนเข้าไปในกระบวนการทางธุรกิจอย่างเป็นระบบ และการประเมินดังกล่าว บจ. ไทยนำไปใช้อย่างแพร่หลาย สะท้อนจากการมี บจ. สมัครเข้าร่วมประเมินเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี ปัจจุบัน SET ESG Ratings ถูกนำไปใช้ในการลงทุนในหลายมิติ เช่น ผู้จัดการกองทุนใช้เรตติ้งเป็น Universe ของกองทุน Thailand ESG Funds (TESG) ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ (AUM) ถึง 7.6 หมื่นล้านบาท นักวิเคราะห์ใช้เป็นข้อมูลประกอบในบทวิเคราะห์หุ้น และธนาคารใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงในการพิจารณาปรับผลตอบแทนทางการเงินของลูกค้า บจ. ให้สอดคล้องตามผลของเรตติ้งที่บริษัทได้รับ
“ปีนี้ บจ. มีคะแนนเฉลี่ยสูงขึ้นในทุกมิติ โดยเฉพาะมิติสิ่งแวดล้อมที่มีคะแนนเกิน 80 คะแนนเป็นครั้งแรก เนื่องจาก บจ. ส่วนใหญ่ให้ความสำคัญเพิ่มขึ้นในการตั้งเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) และการกำหนดบทบาทของคณะกรรมการบริษัทและผู้บริหารให้ต้องกำกับดูแลความเสี่ยงและติดตามผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อย่างไรก็ตาม การเก็บรวบรวมข้อมูล GHG Emission Scope 3 การเชื่อมโยงผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืนไปสู่ตัวเลขทางการเงิน และการทำให้ผู้ลงทุนเห็นโอกาสทางธุรกิจจากการบริหารจัดการประเด็นความยั่งยืนที่สำคัญ (Material Issues) ยังคงเป็นความท้าทาย โดยเฉพาะ บจ. ขนาดกลางและเล็ก” นายศรพลกล่าว
SET ESG Ratings คัดเลือกจาก บจ. ที่สมัครใจเข้าร่วมการประเมิน และมีผลคะแนนจากการตอบแบบประเมินผ่าน 50% ในมิติ E S และ G และต้องผ่านเกณฑ์คุณสมบัติตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนด อาทิ
เป็นบริษัทที่มีผลการประเมินคุณภาพรายงานด้านบรรษัทภิบาล (CGR) ตั้งแต่ 3 ดาวขึ้นไป
ไม่เป็นบริษัทหรือมีกรรมการหรือผู้บริหารของบริษัทที่ถูกกล่าวโทษหรือได้รับการตัดสินความผิดเรื่อง ESG จากหน่วยงานทางการหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ไม่เป็นบริษัทที่ถูกขึ้นเครื่องหมาย CB, CC, CF, CS
ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะติดตามคุณสมบัติของ บจ. ตลอดกระบวนการ หาก บจ. ขาดคุณสมบัติตามเกณฑ์หลังจากที่ประกาศเรตติ้งไปแล้ว อาจถูกถอดออกจาก SET ESG Ratings ได้ รวมถึงมีกระบวนการขึ้นข้อความหมายเหตุประกอบเรตติ้ง เพือให้ผู้ลงทุนพิจารณาข่าวหรือข้อมูล ESG ของบริษัทเป็นการเพิ่มเติม
การประกาศผล SET ESG Ratings ปี 2568 เป็นการประกาศผลปีสุดท้าย โดยผลการประเมินดังกล่าวจะยังคงใช้เป็นเกณฑ์ในการจัดทำดัชนี SET ESG รอบทบทวนเดือนธันวาคม 2568 และรอบทบทวนเดือนมิถุนายน 2569 รวมถึงสามารถใช้เป็น Universe ของกองทุน TESG ได้ถึงเดือนธันวาคม 2569 ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเริ่มประกาศผลตามมาตรฐานการประเมิน FTSE Russell ESG Scores ตั้งแต่ปี 2569 เป็นต้นไป ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญของการยกระดับการประเมิน
ความยั่งยืนในตลาดทุนไทยสู่มาตรฐานสากล
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ประกาศผลประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ประจำปี 2568 มีบริษัทผ่านเกณฑ์รวม 265 บริษัท เพิ่มขึ้นจาก 219 บริษัทในปี 2567
บจ. มีผลคะแนนเฉลี่ยสูงขึ้นในทุกมิติESG โดยมิติสิ่งแวดล้อม (E) มีคะแนนเฉลี่ยเกิน 80 คะแนนเป็นครั้งแรก
ปี 2569 SET ESG Ratings จะยกระดับสู่มาตรฐานการประเมิน FTSE Russell ESG Scores