xs
xsm
sm
md
lg

“ศุภจี”ถกเลขาธิการหอการค้ามุสลิมโลก โชว์ไทยพร้อมเป็นแหล่งความมั่นคงอาหาร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



“ศุภจี”ถกเลขาธิการหอการค้ามุสลิมโลกเพื่อการค้าและการพัฒนา (ICCD) กระชับความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน และอุตสาหกรรมฮาลาลระหว่างไทยกับประเทศในกลุ่ม OIC ชูไทยมีผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรองฮาลาลมากกว่า 2 แสนรายการ พร้อมเป็นแหล่งความมั่นคงทางอาหารให้กับชาวมุสลิมทั่วโลก

นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.2568 ที่ผ่านมา ได้หารือกับ ยูซุฟ ฮัสซัน คาลาวี่ เลขาธิการหอการค้ามุสลิมโลกเพื่อการค้าและการพัฒนา (Islamic Chamber of Commerce and Development : ICCD) เพื่อกระชับความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน และอุตสาหกรรมฮาลาลระหว่างประเทศไทยกับกลุ่มประเทศสมาชิกองค์การความร่วมมืออิสลาม (OIC) โดยมี น.ส.สุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) และนายนันทพงษ์ จิระเลิศพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เข้าร่วม

โดยกระทรวงพาณิชย์ได้แสดงความยินดีที่ได้พบกับเลขาธิการ ICCD และยืนยันว่า ประเทศไทยให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับประเทศมุสลิมกว่า 57 ประเทศ โดยเฉพาะในภูมิภาคตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นตลาดส่งออกสำคัญ แหล่งพลังงานหลัก และเป็นจุดยุทธศาสตร์เชื่อมโยงห่วงโซ่การค้าโลก โดยไทยในฐานะผู้ผลิตอาหารรายสำคัญของโลก พร้อมทำหน้าที่เป็น Food Security Hub ให้แก่ประเทศ OIC ด้วยศักยภาพการผลิตอาหารฮาลาลคุณภาพสูง


ทั้งนี้ ปัจจุบันประเทศไทยมีผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองฮาลาลมากกว่า 200,000 รายการ โดยคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย (CICOT) ขณะที่การส่งออกสินค้าอาหารฮาลาลไทยไปยังประเทศสมาชิก OIC ช่วง 10 เดือน ปี 2568 (ม.ค.-ต.ค.) มีมูลค่า 4,872 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ท่ามกลางตลาดอาหารฮาลาลโลกที่มีมูลค่าประมาณ 1.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และจำนวนประชากรมุสลิมทั่วโลกกว่า 2,000 ล้านคน ซึ่งยังมีโอกาสอีกมากสำหรับสินค้าฮาลาลไทย โดยสินค้าอาหารฮาลาลสำคัญที่ไทยส่งออก ได้แก่ ข้าว น้ำตาล อาหารทะเลกระป๋อง ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง ผลไม้สดและแปรรูป ข้าวสาลี เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ และผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปต่าง ๆ

นางศุภจีกล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ยังดำเนินนโยบายเชิงรุกเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาล ทั้งการให้ความรู้และส่งเสริมตลาดผู้ประกอบการใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ การผลักดันกิจกรรมส่งเสริมการค้าครอบคลุมทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการจับคู่ธุรกิจ การเชิญผู้ซื้อรายสำคัญเยือนไทย และการจัดหรือเข้าร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติ เช่น THAIFEX–HOREC ASIA 2026 (11–13 มี.ค.2569) THAIFEX–ANUGA ASIA 2026 (26–30 พ.ค.2569) เป็นต้น

ขณะเดียวกัน โดยไทยยังเชื่อมประสานความร่วมมือผ่านสมาคมการค้านักธุรกิจไทยมุสลิม (TMTA) ซึ่งเป็นตัวแทนประเทศไทยใน ICCD และมีบทบาทสำคัญในการผลักดันสินค้าและบริการฮาลาลไทยสู่มาตรฐานสากล ทั้งด้านการค้า การท่องเที่ยวมุสลิม และการพัฒนามาตรฐาน Muslim-Friendly Hospitality (GMHI) โดยไทยพร้อมแลกเปลี่ยนแนวทางความร่วมมือ ทั้งเรื่องข้อมูลด้านการค้าและความต้องการสินค้าในตลาดฮาลาล การจัดทำโครงการสร้างเครือข่ายทางธุรกิจและขยายตลาด เช่น Business Matching และการประสานความร่วมมือด้านการพัฒนา SMEs และนวัตกรรมในอุตสาหกรรมฮาลาล เพื่อให้ไทยเป็นแหล่งความมั่นคงทางอาหารให้แก่ประชาคมมุสลิมทั่วโลก โดยพร้อมยินดีทำงานร่วมกับ ICCD เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้า และการพัฒนาที่ยั่งยืนแก่ประเทศสมาชิก OIC อย่างเป็นรูปธรรม
กำลังโหลดความคิดเห็น