xs
xsm
sm
md
lg

“EV ขึ้นยกแผงปีหน้า หลังรัฐหั่นอุดหนุน ตลาดรถไทยสะเทือนทั้งระบบ”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



สิ้นสุดมาตรการ EV 3.0 ในวันที่ 31 ธันวาคมนี้ ดันต้นทุนรถยนต์ไฟฟ้าพุ่งทันที ทั้งกลุ่มผลิตในไทยและรถนำเข้า ขณะตลาดรวมปี 2569 ถูกคาดว่าจะชะลอตัวจากแรงกดดันด้านราคา และการเปลี่ยนยุทธศาสตร์ผู้บริโภคกลับสู่รถไฮบริด

อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยกำลังเข้าสู่จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ เมื่องวดสิ้นสุดมาตรการ EV 3.0 ในวันที่ 31 ธันวาคม 2568 ทำให้ราคาจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าทุกรุ่นในตลาดต้องขยับขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยภาครัฐเตรียมก้าวเข้าสู่เฟส EV 3.5 ซึ่งมีระดับการอุดหนุนที่ “ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ” ส่งผลให้ผู้ประกอบการเตรียมปรับกลยุทธ์ด้านราคาและกำลังการผลิตครั้งใหญ่ในปี 2569


สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่ประกอบในประเทศไทย ซึ่งเคยได้รับเงินสนับสนุนสูงสุด 150,000 บาท จะเหลือเพียง 50,000 บาทเท่านั้น เท่ากับว่าต้นทุนเพิ่มขึ้นราว 100,000 บาทต่อคัน ส่งผลให้ราคาขายปลีกมีแนวโน้มขยับขึ้นเฉลี่ย 70,000–120,000 บาท ตามแต่ละรุ่นและการปรับตัวของค่ายรถ

ขณะที่รถยนต์ไฟฟ้านำเข้า ได้รับผลกระทบหนักกว่าเดิม ทั้งการ “หายไปของเงินอุดหนุน 75,000 บาทเต็มจำนวน” และการ “กลับมาเก็บภาษีสรรพสามิตเต็มอัตรา 10%” จากเดิมลดเหลือ 2% ในช่วงมาตรการ EV 3.0 ส่งผลให้ราคาจำหน่ายต้องปรับขึ้นสูงสุด 120,000–300,000 บาท ตามเซกเมนต์



สถานการณ์ดังกล่าวทำให้บรรยากาศในตลาดรถยนต์ไทยปี 2569 ถูกคาดหมายว่าจะเผชิญแรงกดดันหลายด้าน โดยเฉพาะในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่เคยขยายตัวแรงในระยะสองปีที่ผ่านมา ภายใต้เงื่อนไขราคาที่แข่งขันได้จากเงินอุดหนุนของรัฐ ขณะที่ปีหน้าราคา EV จะสะท้อนต้นทุนที่แท้จริงมากขึ้น กระทบกำลังซื้อกลุ่มเริ่มต้นและกลุ่มครอบครัวอย่างชัดเจน

นักวิเคราะห์หลายสำนักระบุว่า ตลาด EV อาจเข้าสู่ภาวะ “เติบโตช้าลง” หรือ อาจหดตัวในบางช่วงไตรมาส โดยคาดว่ายอดขายรวมปี 2569 จะขึ้นอยู่กับ 3 ปัจจัยหลัก คือ การส่งเสริมการผลิตในประเทศของค่ายจีน, การเข้าสู่ตลาดของรถไฮบริดรุ่นใหม่จากค่ายญี่ปุ่น และมาตรการทางการเงินจากธนาคารพาณิชย์ที่เข้มงวดขึ้นในกลุ่มสินเชื่อรถยนต์


ด้านภาพรวมตลาดรถยนต์ไทยปีหน้า คาดว่าจะมีความ ‘ผันผวนสูง’ โดยเฉพาะช่วงครึ่งปีแรกหลังหมดมาตรการ EV 3.0 ซึ่งผู้ประกอบการต้องบาลานซ์ต้นทุนใหม่ ขณะที่ผู้บริโภคมีกำลังซื้อชะลอลงจากภาวะเศรษฐกิจค่าครองชีพสูง ทั้งนี้ กลุ่มรถไฮบริด (HEV) มีแนวโน้มกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง โดยได้รับแรงสนับสนุนจากต้นทุนที่นิ่งกว่า และภาพลักษณ์ “จ่ายน้อยกว่าแต่ประหยัดจริง” ซึ่งสอดคล้องกับสภาพตลาดช่วงหลังยุครถไฟฟ้าราคาดิ่ง

ผู้ผลิตหลายค่ายเตรียมใช้กลยุทธ์โปรโมชั่นแรงในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2568 โดยเฉพาะงาน Motor Expo และต่อเนื่องจนถึงสิ้นมาตรการ เพื่อดึงยอดก่อนการปรับราคาครั้งใหญ่ในปีถัดไป ขณะที่ผู้บริโภคจำนวนมากเร่งตัดสินใจซื้อก่อนขึ้นปีใหม่ ทำให้ตลาดปลายปีมีแนวโน้มร้อนแรงผิดปกติ ก่อนจะชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัดในไตรมาสแรกปีหน้า


ทั้งนี้ ภาครัฐถูกจับตาว่าจะมีมาตรการชดเชยเพิ่มเติมหรือไม่ เพื่อรักษาโมเมนตัมการเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ไฟฟ้าที่ไทยตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางการผลิตในภูมิภาค แต่ในระยะสั้น “ผลกระทบด้านราคา” คือความจริงที่ผู้บริโภคและค่ายรถต้องเผชิญพร้อมกันในปี 2569

อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยปี 2569 กำลังเข้าสู่ “ช่วงเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ที่สุด” เมื่อมาตรการ EV 3.0 จะหมดอายุลงในวันที่ 31 ธันวาคมนี้ ขณะที่โครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ใหม่ปี 2569 ถูกปรับให้เข้มข้นขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ กระทบทั้งรถยนต์ไฟฟ้า (BEV), รถปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) และรถไฮบริด (HEV/MHEV) ซึ่งล้วนต้องแก้สมการต้นทุนใหม่ตั้งแต่ต้นปีหน้า


กำลังโหลดความคิดเห็น