แผนที่งานพิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืน
คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ เชิญชม “พิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืน”
ภายใต้แนวคิด “มองเมืองผ่านเลนส์วิทยาศาสตร์”
คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจัดงาน
“พิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืน” (Night at the Museum) ระหว่าง วันที่ 12-14ธันวาคม 2568 เวลา 16.00 - 22.00 น. ณ พิพิธภัณฑ์และภาควิชาต่าง ๆ ในคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ ภายใต้แนวคิด
“มองเมืองผ่านเลนส์วิทยาศาสตร์”
เพื่อให้สาธารณชนเห็นความเชื่อมโยงระหว่างเมือง วิทยาศาสตร์
และชีวิตประจำวัน
ผ่านการอธิบายปรากฏการณ์ในสังคมเมืองด้านสิ่งแวดล้อม พลังงาน
ทรัพยากรธรรมชาติ และการออกแบบเชิงสร้างสรรค์
เพื่อสื่อว่าวิทยาศาสตร์ช่วยให้เมืองน่าอยู่และยั่งยืนได้อย่างไร
งานแถลงข่าว“พิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืน” (Night at the Museum)
จัดขึ้นเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2568 ณ ห้อง 224 อาคารชีววิทยา 1
คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ โดยมี ศ.ดร.ประณัฐ โพธิยะราช
คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ เป็นประธานในงานแถลงข่าวครั้งนี้
จากนั้นได้นำสื่อมวลชนเยี่ยมชมพิพิธภัณฑสถานธรรมชาติวิทยาแห่งจุ
ฬาฯ และนิทรรศการจากภาควิชาต่าง ๆ ในคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ
ศ.ดร.ประณัฐ โพธิยะราช คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ
เปิดเผยว่า “พิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืนที่คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ
มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนได้เห็นว่าวิทยาศาสตร์และสังคมเมืองจะ
อยู่ร่วมกันได้อย่างไร
และจะช่วยให้คุณภาพชีวิตของเราดีขึ้นได้อย่างไร
โดยมีการเปิดพิพิธภัณฑ์ทั้ง 4 แห่งของคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ
รวมทั้งนิทรรศการให้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ในภาควิชาต่าง ๆ
มาจัดแสดง ไฮไลต์งานในปีนี้ เช่น “ปูราชินี” ซึ่งเป็นปูที่หาได้ยาก
ค้นพบโดยอาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ แร่หายาก
พิพิธภัณฑ์พืชมีชีวิต (Living Plant Museum)
จัดแสดงต้นไม้หายากในสวนขนาดใหญ่ การ ผ่างูเหลือม
ตัวเงินตัวทอง ฯลฯ
“พิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืนแตกต่างจากการชมพิพิธภัณฑ์ในเวลาเปิดทำการ
ปกติ ในปีนี้เราเตรียมสถานที่ให้กว้างขวางขึ้น
มีการวางแผนเรื่องแสงสว่างให้เหมาะสม
เพื่อให้ผู้ชมได้รับประสบการณ์ในการชมพิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืน
นอกจากนี้มีการจัดบริการเครื่องดื่มหรืออาหารให้ผู้เข้าชมงาน
ขอเชิญผู้สนใจเข้าชมพิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืนที่คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ
12-14 ธันวาคมนี้
เพื่อจะได้เห็นว่าวิทยาศาสตร์และสังคมเมืองจะอยู่ร่วมกันได้และทำให้คุ
ณภาพชีวิตดีขึ้นอย่างไร”
การจัดงาน “พิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืน” ในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของงาน
“Night at the Museum” ประจำปี 2568
เป็นการรวมพิพิธภัณฑ์ของคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ ให้ชมยามค่ำคืน
ได้แก่ พิพิธภัณฑสถานธรรมชาติวิทยาฯ พิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีทางภาพ
ศาสตราจารย์ศักดา ศิริพันธุ์ฯ พิพิธภัณฑ์ธรณีวิทยา และพิพิธภัณฑ์พืช
ศาสตราจารย์กสิน สุวตะพันธุ์ พร้อมด้วยภาควิชา หน่วยงานต่าง ๆ
ของคณะวิทยาศาสตร์ ศูนย์เครือข่ายการเรียนรู้เพื่อภูมิภาค
สถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำ รวมทั้งคณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาฯ
นิทรรศการและกิจกรรมต่าง ๆ ที่น่าสนใจ ประกอบด้วย
พิพิธภัณฑสถานธรรมชาติวิทยาฯ – นิทรรศการ “กู้โลก –
Chamber Secret”
ถ่ายทอดความลับของระบบนิเวศและบทบาทของสิ่งมีชีวิต
ตั้งแต่ด้วงหลากชนิด กะท่างน้ำ “ลิงทุบหอย” โลกแห่งนก ไปจนถึง
แมงมุมสองเพศ พร้อมนิทรรศการสัตว์เลื้อยคลานและ “ฮีโร่จิ๋ว”
หอยทากผู้ย่อยสลายอินทรียวัตถุ ตลอดจน “ปูราชินี”
นิทรรศการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
พระบรมราชชนนี พันปีหลวง
“พระมารดาแห่งความหลากหลายทางชีวภาพ”
สะท้อนคุณค่าแห่งการอนุรักษ์
นิทรรศการ “Geo-Lens: มองโลกใหม่ด้วยสายตานักธรณีวิทยา”
นำเสนอหิน แร่ ฟอสซิล และภูมิประเทศผ่านอุปกรณ์หลากหลาย
ตั้งแต่เลนส์ขยายถึงกล้องจุลทรรศน์
พร้อมภาพถ่ายธรรมชาติระดับโลกและตัวอย่างจริง
เพื่อให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสเรื่องราวของโลกที่ซ่อนอยู่ในรายละเอียดเล็กที่
สุด ชมโครงสร้างภูมิประเทศแบบสามมิติผ่าน stereoscope
และแว่นตาสามมิติ ทำให้ภูมิประเทศที่ดู “เรียบ” ต่อสายตา
แท้จริงมีความซับซ้อนซ่อนอยู่
ส่องแร่และฟอสซิลขนาดเล็กภายใต้กล้องจุลทรรศน์
เพื่อเห็นรายละเอียดของโลกสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กระดับไมโคร
สำรวจแร่และ Rare Earth Elements
เพื่อทำความเข้าใจว่าแร่ขนาดจิ๋วเหล่านี้คือรากฐานของเทคโนโลยีสมัย
ใหม่ ตั้งแต่สมาร์ทโฟน รถไฟฟ้า ไปจนถึงระบบพลังงานสะอาด
พิพิธภัณฑ์พืช ศ.กสิน สุวตะพันธุ์
นิทรรศการ “พืชเพื่อชีวิตดี๊ดี (Plant for a Better Life)”
นำเสนอการใช้ประโยชน์จากพืชด้านอาหาร สมุนไพร
และมิติทางวัฒนธรรมตามหลักวิทยาศาสตร์
เพื่อให้ผู้เข้าชมได้เข้าใจพืชในฐานะแหล่งทรัพยากรสำคัญของมนุษย์
นิทรรศการ “Geo-Lens: มองโลกใหม่ด้วยสายตานักธรณีวิทยา”
นำเสนอหิน แร่ ฟอสซิล และภูมิประเทศผ่านอุปกรณ์หลากหลาย
ตั้งแต่เลนส์ขยายถึงกล้องจุลทรรศน์
พร้อมภาพถ่ายธรรมชาติระดับโลกและตัวอย่างจริง
เพื่อให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสเรื่องราวของโลกที่ซ่อนอยู่ในรายละเอียดเล็กที่
สุด ปีนี้มีการนำเสนอโลกของ หิน แร่ ฟอสซิล และภูมิประเทศ ผ่าน
“เลนส์”
ของอุปกรณ์เชิงวิทยาศาสตร์ที่นักธรณีวิทยาใช้จริงในการศึกษาและสำ
รวจโลก ตั้งแต่ระดับทวีปจนถึงระดับไมครอน นำพาผู้เข้าชมมองเมือง
ธรรมชาติ และโลก ผ่านการรับรู้แบบนักธรณีวิทยา
โดยกิจกรรมประกอบด้วย
พิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีทางภาพ ศ.ศักดา ศิริพันธุ์ฯ
นิทรรศการ “Through the Lens” นำเสนอชุดภาพถ่าย Faces of
Bangkok และการเดินทางของแสงผ่านเลนส์
เพื่อให้ผู้เข้าชมได้เข้าใจเทคโนโลยีการมองเห็นและศิลปะการถ่ายภาพ
ภาควิชาคณิตศาสตร์และวิทยาการคอมพิวเตอร์
กิจกรรม “Puzzle City” นำเสนอกิจกรรมปริศนาเชิงตรรกะ เช่น
การแก้ปมเชือก การทายไพ่ด้วยแพตเทิร์น และเส้นทางลับในเมืองวิทย์
เพื่อให้ผู้เข้าชมได้ฝึกคิดอย่างเป็นระบบและสนุกกับหลักการทางคณิตศ
าสตร์
ภาควิชาเคมี
นิทรรศการ “Light Up the City: GLOWMISTRY”
นำเสนอการทดลองเคมี เช่น สีย้อมเรืองแสง ย้อมครามธรรมชาติ
การสร้างผลึก และกลไกเคมีสนุก ๆ
เพื่อให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสเสน่ห์ของเคมีใกล้ตัว พร้อมกิจกรรม “Bingo
ตารางธาตุ”
ภาควิชาฟิสิกส์
กิจกรรม “คืนดาวกลางใจจุฬาฯ”
นำเสนอการชมท้องฟ้ายามค่ำคืนผ่านกล้องโทรทรรศน์
การถ่ายภาพดวงจันทร์ และเกมความรู้เรื่องดวงดาว
เพื่อให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสประสบการณ์เชิงดาราศาสตร์อย่างใกล้ชิด
ภาควิชาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม
กิจกรรม “Mission R: ภารกิจพิชิตขยะ” นำเสนอฐานเรียนรู้ 3 ด้าน
ได้แก่ Reduce, Reuse และ Recycle ผ่านเกมและสื่อสร้างสรรค์
เพื่อให้ผู้เข้าชมได้ฝึกทักษะการจัดการขยะอย่างยั่งยืน
ภาควิชาเคมีเทคนิค
นิทรรศการ “City to Factory: มองเมืองผ่านโรงงานจำลอง”
นำเสนอโรงงานเคมีจำลอง สไลด์ฟิล์มย้อนยุค และการทดลอง
“เสกอสรพิษจากไฟ”
เพื่อให้ผู้เข้าชมได้เรียนรู้หลักการผลิตและเคมีอุตสาหกรรม
ภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล
นิทรรศการ “มุมมองของผังเมืองผ่านสิ่งมีชีวิตในทะเล”
นำเสนอการเปรียบเทียบระบบนิเวศทะเลกับผังเมือง
พร้อมเวิร์กชอปประดิษฐ์เครื่องประดับจากวัสดุเหลือทิ้ง
เพื่อให้ผู้เข้าชมได้เข้าใจความสัมพันธ์ของมนุษย์กับทะเลในมุมใหม่
ภาควิชาชีวเคมี
นิทรรศการ “แสงแห่งชีวเคมี”
นำเสนอแบคทีเรียและโปรตีนเรืองแสง
พร้อมการประยุกต์ใช้สารเรืองแสงในการตรวจเชื้อและงานวิทยาศา
สตร์ เพื่อให้ผู้เข้าชมได้เข้าใจความลึกลับของสิ่งมีชีวิตระดับโมเลกุล
ภาควิชาจุลชีววิทยา
นิทรรศการ “Jullie and the Hidden Microverse”
นำเสนอโลกจุลชีพที่ซ่อนอยู่ในชีวิตคนเมือง
เพื่อให้ผู้เข้าชมได้ค้นพบบทบาทของจุลินทรีย์ในสิ่งแวดล้อมรอบตัว
ภาควิชาวัสดุศาสตร์
กิจกรรม “Materials Quest: Seen through the Lens”
นำเสนอกิจกรรมสร้างสรรค์ 3 ฐาน ได้แก่ การทำพวงกุญแจจากฟิล์มหด
ระบายสีปูนปาสเตอร์ และสร้างกำไลจากวัสดุต่าง ๆ
เพื่อให้ผู้เข้าชมได้สำรวจคุณสมบัติของวัสดุผ่านการลงมือทำ
ภาควิชาเทคโนโลยีทางอาหาร
นำเสนอผลิตภัณฑ์เด่นจากอาจารย์และผลงานของนิสิตที่ได้รับรางวัล
พร้อมจัดแสดงเครื่องจักรและอุปกรณ์ผ่านจอทีวีให้ผู้ร่วมงานได้ชม
นอกจากนี้ยังมีแผนกิจกรรมให้ผู้เข้าร่วมร่วมสนุกผ่านการ
จับฉลากหรือสุ่มตอบคำถามเกี่ยวกับความเชื่อผิด ๆ ด้านอาหาร (Food
Myths)
ศูนย์บริหารหลักสูตรวิทยาศาสตร์บูรณาการ
กิจกรรม “From Cell to Shelf: จุลินทรีย์น่ารู้สู่อาหารน่าชิม”
นำเสนอเส้นทางจากจุลินทรีย์สู่ผลิตภัณฑ์อาหารผ่าน 5 สถานี
ทั้งเพลตเพาะเชื้อ ผลผลิตจากจุลินทรีย์ โมเดลเครื่องมืออุตสาหกรรม
อุปกรณ์ควบคุมคุณภาพ และสินค้าจริง
เพื่อให้ผู้เข้าชมเข้าใจกระบวนการผลิตอาหารยุคใหม่
ศูนย์เครือข่ายการเรียนรู้เพื่อภูมิภาค
กิจกรรม “สำรวจธรรมชาติ – ตาดู หูฟัง”
นำเสนอการสื่อสารของแมลงกลางคืน เช่น
แสงของหิ่งห้อยและเสียงจั๊กจั่น พร้อมเวิร์กชอปทำของเล่นเลียนเสียง
เพื่อให้ผู้เข้าชมได้เรียนรู้ธรรมชาติผ่านประสาทสัมผัส
สถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำ
กิจกรรม “Underwater Explorer Night”
นำเสนอการฝึกบังคับโดรนใต้น้ำ (ROV) ในสระจำลอง
พร้อมภารกิจสำรวจสัตว์ทะเล
เพื่อให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสโลกใต้ทะเลและเทคโนโลยีทางน้ำอย่างใกล้ชิด
คณะศิลปกรรมศาสตร์
การแสดงวงเครื่องสายสากลในวันที่ 12 และ 13 ธันวาคม 2568
เวลา 18.00-19.00 น.
การเสวนา ในหัวข้อ
- “ปูราชินี”
สัตว์ในพระนามพระมารดาแห่งความหลากหลายทางชีวภาพ
โดยภาควิชาชีววิทยา
- พระพันปีหลวง ผู้ชุบชีวิต “ผ้าไทย” โดยภาควิชาวัสดุศาสตร์
- ยาดมไทย: เปลี่ยนผ่านภูมิปัญญา สู่มาตรฐานสากล
โดยภาควิชาจุลชีววิทยา และภาควิชาพฤกษศาสตร์
- “Mona Lisa: Night Light Scan”
โดยศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการอนุรักษ์งานศิลปะ (SCICCA)
ทั้งนี้
พิพิธภัณฑสถานธรรมชาติวิทยาแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็น
หนึ่งในพิพิธภัณฑ์ของคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เป็นเครือข่ายพิพิธภัณฑ์สังกัดมิวเซียมสยามและร่วมโครงการ Muse
Pass มาตั้งแต่ปี 2559 ต่อมาพัฒนาเป็น Thailand Museum Pass
ในปี 2562 และร่วม จัดงาน “เทศกาลชมพิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืน (Night
at the Museum)” เป็นประจำทุกปี โดยในปี 2567
ที่ผ่านมามีผู้เข้าชมพิพิธภัณฑ์ของคณะวิทยาศาสตร์ตลอดสามคืนที่จัดง
านมากกว่า 10,000 คน
ผู้สนใจเข้าชมนิทรรศการ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
https://www.facebook.com/share/14QoFGP3QQY/
คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ เชิญชม “พิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืน”
ภายใต้แนวคิด “มองเมืองผ่านเลนส์วิทยาศาสตร์”
คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจัดงาน
“พิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืน” (Night at the Museum) ระหว่าง วันที่ 12-14ธันวาคม 2568 เวลา 16.00 - 22.00 น. ณ พิพิธภัณฑ์และภาควิชาต่าง ๆ ในคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ ภายใต้แนวคิด
“มองเมืองผ่านเลนส์วิทยาศาสตร์”
เพื่อให้สาธารณชนเห็นความเชื่อมโยงระหว่างเมือง วิทยาศาสตร์
และชีวิตประจำวัน
ผ่านการอธิบายปรากฏการณ์ในสังคมเมืองด้านสิ่งแวดล้อม พลังงาน
ทรัพยากรธรรมชาติ และการออกแบบเชิงสร้างสรรค์
เพื่อสื่อว่าวิทยาศาสตร์ช่วยให้เมืองน่าอยู่และยั่งยืนได้อย่างไร
งานแถลงข่าว“พิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืน” (Night at the Museum)
จัดขึ้นเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2568 ณ ห้อง 224 อาคารชีววิทยา 1
คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ โดยมี ศ.ดร.ประณัฐ โพธิยะราช
คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ เป็นประธานในงานแถลงข่าวครั้งนี้
จากนั้นได้นำสื่อมวลชนเยี่ยมชมพิพิธภัณฑสถานธรรมชาติวิทยาแห่งจุ
ฬาฯ และนิทรรศการจากภาควิชาต่าง ๆ ในคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ
ศ.ดร.ประณัฐ โพธิยะราช คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ
เปิดเผยว่า “พิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืนที่คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ
มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนได้เห็นว่าวิทยาศาสตร์และสังคมเมืองจะ
อยู่ร่วมกันได้อย่างไร
และจะช่วยให้คุณภาพชีวิตของเราดีขึ้นได้อย่างไร
โดยมีการเปิดพิพิธภัณฑ์ทั้ง 4 แห่งของคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ
รวมทั้งนิทรรศการให้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ในภาควิชาต่าง ๆ
มาจัดแสดง ไฮไลต์งานในปีนี้ เช่น “ปูราชินี” ซึ่งเป็นปูที่หาได้ยาก
ค้นพบโดยอาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ แร่หายาก
พิพิธภัณฑ์พืชมีชีวิต (Living Plant Museum)
จัดแสดงต้นไม้หายากในสวนขนาดใหญ่ การ ผ่างูเหลือม
ตัวเงินตัวทอง ฯลฯ
“พิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืนแตกต่างจากการชมพิพิธภัณฑ์ในเวลาเปิดทำการ
ปกติ ในปีนี้เราเตรียมสถานที่ให้กว้างขวางขึ้น
มีการวางแผนเรื่องแสงสว่างให้เหมาะสม
เพื่อให้ผู้ชมได้รับประสบการณ์ในการชมพิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืน
นอกจากนี้มีการจัดบริการเครื่องดื่มหรืออาหารให้ผู้เข้าชมงาน
ขอเชิญผู้สนใจเข้าชมพิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืนที่คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ
12-14 ธันวาคมนี้
เพื่อจะได้เห็นว่าวิทยาศาสตร์และสังคมเมืองจะอยู่ร่วมกันได้และทำให้คุ
ณภาพชีวิตดีขึ้นอย่างไร”
การจัดงาน “พิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืน” ในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของงาน
“Night at the Museum” ประจำปี 2568
เป็นการรวมพิพิธภัณฑ์ของคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ ให้ชมยามค่ำคืน
ได้แก่ พิพิธภัณฑสถานธรรมชาติวิทยาฯ พิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีทางภาพ
ศาสตราจารย์ศักดา ศิริพันธุ์ฯ พิพิธภัณฑ์ธรณีวิทยา และพิพิธภัณฑ์พืช
ศาสตราจารย์กสิน สุวตะพันธุ์ พร้อมด้วยภาควิชา หน่วยงานต่าง ๆ
ของคณะวิทยาศาสตร์ ศูนย์เครือข่ายการเรียนรู้เพื่อภูมิภาค
สถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำ รวมทั้งคณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาฯ
นิทรรศการและกิจกรรมต่าง ๆ ที่น่าสนใจ ประกอบด้วย
พิพิธภัณฑสถานธรรมชาติวิทยาฯ – นิทรรศการ “กู้โลก –
Chamber Secret”
ถ่ายทอดความลับของระบบนิเวศและบทบาทของสิ่งมีชีวิต
ตั้งแต่ด้วงหลากชนิด กะท่างน้ำ “ลิงทุบหอย” โลกแห่งนก ไปจนถึง
แมงมุมสองเพศ พร้อมนิทรรศการสัตว์เลื้อยคลานและ “ฮีโร่จิ๋ว”
หอยทากผู้ย่อยสลายอินทรียวัตถุ ตลอดจน “ปูราชินี”
นิทรรศการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
พระบรมราชชนนี พันปีหลวง
“พระมารดาแห่งความหลากหลายทางชีวภาพ”
สะท้อนคุณค่าแห่งการอนุรักษ์
นิทรรศการ “Geo-Lens: มองโลกใหม่ด้วยสายตานักธรณีวิทยา”
นำเสนอหิน แร่ ฟอสซิล และภูมิประเทศผ่านอุปกรณ์หลากหลาย
ตั้งแต่เลนส์ขยายถึงกล้องจุลทรรศน์
พร้อมภาพถ่ายธรรมชาติระดับโลกและตัวอย่างจริง
เพื่อให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสเรื่องราวของโลกที่ซ่อนอยู่ในรายละเอียดเล็กที่
สุด ชมโครงสร้างภูมิประเทศแบบสามมิติผ่าน stereoscope
และแว่นตาสามมิติ ทำให้ภูมิประเทศที่ดู “เรียบ” ต่อสายตา
แท้จริงมีความซับซ้อนซ่อนอยู่
ส่องแร่และฟอสซิลขนาดเล็กภายใต้กล้องจุลทรรศน์
เพื่อเห็นรายละเอียดของโลกสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กระดับไมโคร
สำรวจแร่และ Rare Earth Elements
เพื่อทำความเข้าใจว่าแร่ขนาดจิ๋วเหล่านี้คือรากฐานของเทคโนโลยีสมัย
ใหม่ ตั้งแต่สมาร์ทโฟน รถไฟฟ้า ไปจนถึงระบบพลังงานสะอาด
พิพิธภัณฑ์พืช ศ.กสิน สุวตะพันธุ์
นิทรรศการ “พืชเพื่อชีวิตดี๊ดี (Plant for a Better Life)”
นำเสนอการใช้ประโยชน์จากพืชด้านอาหาร สมุนไพร
และมิติทางวัฒนธรรมตามหลักวิทยาศาสตร์
เพื่อให้ผู้เข้าชมได้เข้าใจพืชในฐานะแหล่งทรัพยากรสำคัญของมนุษย์
นิทรรศการ “Geo-Lens: มองโลกใหม่ด้วยสายตานักธรณีวิทยา”
นำเสนอหิน แร่ ฟอสซิล และภูมิประเทศผ่านอุปกรณ์หลากหลาย
ตั้งแต่เลนส์ขยายถึงกล้องจุลทรรศน์
พร้อมภาพถ่ายธรรมชาติระดับโลกและตัวอย่างจริง
เพื่อให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสเรื่องราวของโลกที่ซ่อนอยู่ในรายละเอียดเล็กที่
สุด ปีนี้มีการนำเสนอโลกของ หิน แร่ ฟอสซิล และภูมิประเทศ ผ่าน
“เลนส์”
ของอุปกรณ์เชิงวิทยาศาสตร์ที่นักธรณีวิทยาใช้จริงในการศึกษาและสำ
รวจโลก ตั้งแต่ระดับทวีปจนถึงระดับไมครอน นำพาผู้เข้าชมมองเมือง
ธรรมชาติ และโลก ผ่านการรับรู้แบบนักธรณีวิทยา
โดยกิจกรรมประกอบด้วย
พิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีทางภาพ ศ.ศักดา ศิริพันธุ์ฯ
นิทรรศการ “Through the Lens” นำเสนอชุดภาพถ่าย Faces of
Bangkok และการเดินทางของแสงผ่านเลนส์
เพื่อให้ผู้เข้าชมได้เข้าใจเทคโนโลยีการมองเห็นและศิลปะการถ่ายภาพ
ภาควิชาคณิตศาสตร์และวิทยาการคอมพิวเตอร์
กิจกรรม “Puzzle City” นำเสนอกิจกรรมปริศนาเชิงตรรกะ เช่น
การแก้ปมเชือก การทายไพ่ด้วยแพตเทิร์น และเส้นทางลับในเมืองวิทย์
เพื่อให้ผู้เข้าชมได้ฝึกคิดอย่างเป็นระบบและสนุกกับหลักการทางคณิตศ
าสตร์
ภาควิชาเคมี
นิทรรศการ “Light Up the City: GLOWMISTRY”
นำเสนอการทดลองเคมี เช่น สีย้อมเรืองแสง ย้อมครามธรรมชาติ
การสร้างผลึก และกลไกเคมีสนุก ๆ
เพื่อให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสเสน่ห์ของเคมีใกล้ตัว พร้อมกิจกรรม “Bingo
ตารางธาตุ”
ภาควิชาฟิสิกส์
กิจกรรม “คืนดาวกลางใจจุฬาฯ”
นำเสนอการชมท้องฟ้ายามค่ำคืนผ่านกล้องโทรทรรศน์
การถ่ายภาพดวงจันทร์ และเกมความรู้เรื่องดวงดาว
เพื่อให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสประสบการณ์เชิงดาราศาสตร์อย่างใกล้ชิด
ภาควิชาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม
กิจกรรม “Mission R: ภารกิจพิชิตขยะ” นำเสนอฐานเรียนรู้ 3 ด้าน
ได้แก่ Reduce, Reuse และ Recycle ผ่านเกมและสื่อสร้างสรรค์
เพื่อให้ผู้เข้าชมได้ฝึกทักษะการจัดการขยะอย่างยั่งยืน
ภาควิชาเคมีเทคนิค
นิทรรศการ “City to Factory: มองเมืองผ่านโรงงานจำลอง”
นำเสนอโรงงานเคมีจำลอง สไลด์ฟิล์มย้อนยุค และการทดลอง
“เสกอสรพิษจากไฟ”
เพื่อให้ผู้เข้าชมได้เรียนรู้หลักการผลิตและเคมีอุตสาหกรรม
ภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล
นิทรรศการ “มุมมองของผังเมืองผ่านสิ่งมีชีวิตในทะเล”
นำเสนอการเปรียบเทียบระบบนิเวศทะเลกับผังเมือง
พร้อมเวิร์กชอปประดิษฐ์เครื่องประดับจากวัสดุเหลือทิ้ง
เพื่อให้ผู้เข้าชมได้เข้าใจความสัมพันธ์ของมนุษย์กับทะเลในมุมใหม่
ภาควิชาชีวเคมี
นิทรรศการ “แสงแห่งชีวเคมี”
นำเสนอแบคทีเรียและโปรตีนเรืองแสง
พร้อมการประยุกต์ใช้สารเรืองแสงในการตรวจเชื้อและงานวิทยาศา
สตร์ เพื่อให้ผู้เข้าชมได้เข้าใจความลึกลับของสิ่งมีชีวิตระดับโมเลกุล
ภาควิชาจุลชีววิทยา
นิทรรศการ “Jullie and the Hidden Microverse”
นำเสนอโลกจุลชีพที่ซ่อนอยู่ในชีวิตคนเมือง
เพื่อให้ผู้เข้าชมได้ค้นพบบทบาทของจุลินทรีย์ในสิ่งแวดล้อมรอบตัว
ภาควิชาวัสดุศาสตร์
กิจกรรม “Materials Quest: Seen through the Lens”
นำเสนอกิจกรรมสร้างสรรค์ 3 ฐาน ได้แก่ การทำพวงกุญแจจากฟิล์มหด
ระบายสีปูนปาสเตอร์ และสร้างกำไลจากวัสดุต่าง ๆ
เพื่อให้ผู้เข้าชมได้สำรวจคุณสมบัติของวัสดุผ่านการลงมือทำ
ภาควิชาเทคโนโลยีทางอาหาร
นำเสนอผลิตภัณฑ์เด่นจากอาจารย์และผลงานของนิสิตที่ได้รับรางวัล
พร้อมจัดแสดงเครื่องจักรและอุปกรณ์ผ่านจอทีวีให้ผู้ร่วมงานได้ชม
นอกจากนี้ยังมีแผนกิจกรรมให้ผู้เข้าร่วมร่วมสนุกผ่านการ
จับฉลากหรือสุ่มตอบคำถามเกี่ยวกับความเชื่อผิด ๆ ด้านอาหาร (Food
Myths)
ศูนย์บริหารหลักสูตรวิทยาศาสตร์บูรณาการ
กิจกรรม “From Cell to Shelf: จุลินทรีย์น่ารู้สู่อาหารน่าชิม”
นำเสนอเส้นทางจากจุลินทรีย์สู่ผลิตภัณฑ์อาหารผ่าน 5 สถานี
ทั้งเพลตเพาะเชื้อ ผลผลิตจากจุลินทรีย์ โมเดลเครื่องมืออุตสาหกรรม
อุปกรณ์ควบคุมคุณภาพ และสินค้าจริง
เพื่อให้ผู้เข้าชมเข้าใจกระบวนการผลิตอาหารยุคใหม่
ศูนย์เครือข่ายการเรียนรู้เพื่อภูมิภาค
กิจกรรม “สำรวจธรรมชาติ – ตาดู หูฟัง”
นำเสนอการสื่อสารของแมลงกลางคืน เช่น
แสงของหิ่งห้อยและเสียงจั๊กจั่น พร้อมเวิร์กชอปทำของเล่นเลียนเสียง
เพื่อให้ผู้เข้าชมได้เรียนรู้ธรรมชาติผ่านประสาทสัมผัส
สถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำ
กิจกรรม “Underwater Explorer Night”
นำเสนอการฝึกบังคับโดรนใต้น้ำ (ROV) ในสระจำลอง
พร้อมภารกิจสำรวจสัตว์ทะเล
เพื่อให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสโลกใต้ทะเลและเทคโนโลยีทางน้ำอย่างใกล้ชิด
คณะศิลปกรรมศาสตร์
การแสดงวงเครื่องสายสากลในวันที่ 12 และ 13 ธันวาคม 2568
เวลา 18.00-19.00 น.
การเสวนา ในหัวข้อ
- “ปูราชินี”
สัตว์ในพระนามพระมารดาแห่งความหลากหลายทางชีวภาพ
โดยภาควิชาชีววิทยา
- พระพันปีหลวง ผู้ชุบชีวิต “ผ้าไทย” โดยภาควิชาวัสดุศาสตร์
- ยาดมไทย: เปลี่ยนผ่านภูมิปัญญา สู่มาตรฐานสากล
โดยภาควิชาจุลชีววิทยา และภาควิชาพฤกษศาสตร์
- “Mona Lisa: Night Light Scan”
โดยศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการอนุรักษ์งานศิลปะ (SCICCA)
ทั้งนี้
พิพิธภัณฑสถานธรรมชาติวิทยาแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็น
หนึ่งในพิพิธภัณฑ์ของคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เป็นเครือข่ายพิพิธภัณฑ์สังกัดมิวเซียมสยามและร่วมโครงการ Muse
Pass มาตั้งแต่ปี 2559 ต่อมาพัฒนาเป็น Thailand Museum Pass
ในปี 2562 และร่วม จัดงาน “เทศกาลชมพิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืน (Night
at the Museum)” เป็นประจำทุกปี โดยในปี 2567
ที่ผ่านมามีผู้เข้าชมพิพิธภัณฑ์ของคณะวิทยาศาสตร์ตลอดสามคืนที่จัดง
านมากกว่า 10,000 คน
ผู้สนใจเข้าชมนิทรรศการ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
https://www.facebook.com/share/14QoFGP3QQY/