xs
xsm
sm
md
lg

ทล.ระดม"วางกระสอบทราย-สูบน้ำ"เร่งแก้ไข น้ำท่วมผิวทางถนนพระราม 2 จากน้ำทะเลหนุนสูง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



กรมทางหลวงเร่งปฏิบัติการฉุกเฉินแก้ปัญหาน้ำท่วมผิวจราจรบน ถ.พระราม 2 เหตุน้ำทะเลหนุนสูง ระดมวางกระสอบทรายบล็อคน้ำและติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ประสานตำรวจเปิดช่องจราจรพิเศษ เตรียมรับมือไปถึงช่วงสัปดาห์หน้า

(วันที่ 7 ธันวาคม 2568) กรมทางหลวง (ทล.) แจ้งว่า สำนักงานทางหลวงที่ 13 (สทล.13) และ แขวงทางหลวงสมุทรสาคร ได้ระดมกำลังเข้าแก้ไขสถานการณ์น้ำทะเลหนุนสูงอย่างเร่งด่วน โดยมี นายศุภโชค มีอำพล ผู้อำนวยการสำนักงานทางหลวงที่ 13 พร้อมเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์และบัญชาการแก้ไขปัญหา ซึ่งเหตุดังกล่าวส่งผลกระทบให้เกิดน้ำท่วมผิวจราจรบน ทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระราม 2) ช่วง กม. 38+100 ถึง กม. 39+100 (ขาเข้ากรุงเทพฯ) โดยระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 20-50 เซนติเมตร ทำให้รถขนาดเล็กไม่สามารถผ่านได้ สาเหตุหลักมาจากน้ำทะเลหนุนสูงเข้าท่วมจากคลองขุดบ้านบ่อ (กม. 39+300)


โดย กรมทางหลวงได้ดำเนินการมาตรการแก้ไขปัญหาเร่งด่วน ดังนี้

• วางกระสอบทรายทำเป็นคันบล็อคน้ำ อย่างหนาแน่นบริเวณท่อระบายน้ำในร่องแบ่ง เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำทะเลที่หนุนสูงไหลทะลักเข้าสู่ช่องทางหลัก

• ติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาด 12 นิ้ว จำนวน 4 เครื่อง และใช้เครื่องสูบน้ำพญานาคเพื่อเร่งสูบดึงน้ำกลับไปยังคลองขุดบ้านบ่ออย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งสูบพร่องน้ำบริเวณใต้สะพานคลองขุดบ้านบ่อ

• จัดเจ้าหน้าที่อำนวยการจราจรในพื้นที่ ร่วมกับตำรวจทางหลวง และเตรียมการเปิดช่องทางพิเศษ (Reversible Lane) ระยะทาง 3.4 กิโลเมตร ระหว่าง กม. 40+800 ถึง กม. 37+400 (ใช้ช่องทางหลักขาออก 1 ช่องทาง ย้อนทิศทาง) เพื่อระบายปริมาณรถขาเข้าที่สะสม

• ประสานศูนย์ HTOC กรมทางหลวง ขึ้นป้าย VMS แจ้งเตือนและแนะนำผู้ใช้ทางจากเพชรบุรีและราชบุรีที่มุ่งหน้าเข้า กทม. ให้พิจารณา เลี่ยงไปใช้ถนนเพชรเกษม (ทล. 4) แทน


นอกจากนี้ แขวงทางหลวงสมุทรสาครได้วางแผนเตรียมรับมือ หากระดับน้ำทะเลยังหนุนสูงต่อเนื่องในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะเป็นช่วงวันทำงาน โดยเตรียมเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่อำนวยการจราจร เครื่องสูบน้ำ และเสริมกระสอบทรายเพิ่มเติม เพื่อลดผลกระทบด้านการจราจร จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายและเข้าสู่สภาวะปกติ

กรมทางหลวงขอแนะนำให้ประชาชนผู้ใช้ทาง โปรดหลีกเลี่ยงการใช้เส้นทาง ถ.พระราม 2 ขาเข้า กทม. ในขณะนี้ และโปรดเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ ปฏิบัติตามป้ายเตือนและคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือแจ้งเหตุฉุกเฉิน สามารถติดต่อได้ที่ สายด่วนกรมทางหลวง 1586 ตลอด 24 ชั่วโมง






กำลังโหลดความคิดเห็น