xs
xsm
sm
md
lg

สศอ.ชี้MPI ต.ค. 68 หดตัวร้อยละ 0.08 หั่นเป้าทั้งปีลด 0.75 %คาดปี 69 GDP ภาคอุตฯขยายตัว 1-2%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



สศอ.เผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนตุลาคม 2568 อยู่ที่ระดับ 94.57 หดตัวร้อยละ 0.08 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ภาพรวม 10 เดือนแรกปี 2568 หดตัวเฉลี่ยร้อยละ 0.80 พร้อมปรับประมาณการดัชนี MPI ปีนี้หดตัวร้อยละ 0.75 และ GDP ภาคอุตสาหกรรมขยายตัวร้อยละ 0.5 คาดปี 2569 ดัชนี MPI และ GDP ภาคอุตสาหกรรมจะกลับมาขยายตัวร้อยละ 1.0 - 2.0 จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ การค้าขายกับประเทศคู่ค้าหลักยังขยายตัว

นายศุภกิจ บุญศิริ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนตุลาคม 2568 อยู่ที่ระดับ 94.57 หดตัวร้อยละ 0.08 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่อัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ร้อยละ 58.25 เนื่องจากการยกเลิกภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯ หลายรายการ ส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมและเกษตรแปรรูปของไทย ความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนตุลาคมปรับตัวลดลง มาจากการนำเข้าสินค้าต่างประเทศเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ความกังวลต่อสถานการณ์น้ำและอุทกภัยในหลายพื้นที่ และมูลค่าการค้าชายแดนหดตัวต่อเนื่อง รวมถึงการท่องเที่ยวจากต่างประเทศลดลงต่อเนื่อง ส่งผลให้ภาพรวมดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม 10 เดือนแรกปี 2568 เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 96.55 หดตัวร้อยละ 0.80 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

สำหรับปัจจัยที่สนับสนุนภาคอุตสาหกรรมในเดือนตุลาคม 2568 ได้แก่ การผลิตรถยนต์ขยายตัวต่อเนื่อง โดยเป็นผลมาจากยอดขายยานยนต์ไฟฟ้าภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 16 และมาตรการสำคัญของรัฐบาล เช่น โครงการคนละครึ่งพลัส และการปรับลดราคาน้ำมัน ซึ่งโครงการทั้ง 2 ถือเป็นการช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพและต้นทุนของทั้งภาคประชาชนและภาคอุตสาหกรรม


ด้านระบบการเตือนภัยด้านเศรษฐกิจอุตสาหกรรมภาพรวมของไทยเดือนพฤศจิกายน 2568 ส่งสัญญาณเฝ้าระวังโดยปัจจัยภายในประเทศอยู่ในวัฏจักรขาลงและมีภาวะต้องเฝ้าระวัง โดยเฉพาะด้านการลงทุนภาคเอกชนที่หดตัวสูงจากเดือนก่อน รวมถึงความเชื่อมั่นด้านคำสั่งซื้อที่หดตัวในภาคการผลิต ด้านปัจจัยต่างประเทศส่งสัญญาณเฝ้าระวังลดลงจากเดือนก่อน ตามการส่งออกที่ดีขึ้นทั้งจากการส่งออกไปจีนและออสเตรเลีย ขณะที่อินเดียเร่งนำเข้ามากขึ้น รวมถึงภาคการผลิตอาเซียนขยายตัวได้ต่อเนื่อง

“จากตัวเลขดัชนี MPI 10 เดือนแรกปี 2568 หดตัวร้อยละ 0.80 ส่งผลให้ สศอ.ปรับประมาณการปี 2568 คาดว่าดัชนี MPI หดตัวร้อยละ 0.75 และการขยายตัวของเศรษฐกิจ (GDP) ภาคอุตสาหกรรมจะขยายตัวร้อยละ 0.5 ขณะเดียวกันได้ประมาณการปี 2569 โดยคาดว่าดัชนี MPI และ GDP ภาคอุตสาหกรรมจะกลับมาขยายตัวร้อยละ 1.0 - 2.0 รับปัจจัยสนับสนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ การค้าระหว่างประเทศของไทยกับคู่ค้าหลักยังมีทิศทางเติบโตอย่างต่อเนื่อง และทิศทางการผ่อนคลายอัตราดอกเบี้ยนโยบาย” นายศุภกิจ กล่าว

สำหรับอุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลบวกต่อดัชนีผลผลิตเดือนตุลาคม 2568 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ได้แก่ ยานยนต์ ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 9.11 จากผลิตภัณฑ์รถยนต์ไฮบริดไม่เกิน 1800 ซีซี รถบรรทุกปิคอัพ และรถยนต์นั่งไฟฟ้าเป็นหลัก ตามการขยายตัวของตลาดในประเทศและการส่งออก และการเร่งผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อรองรับความต้องการหลังมาตรการ EV 3.0 จะสิ้นสุดลงสิ้นปีนี้

ชิ้นส่วนและแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 12.38 จากผลิตภัณฑ์ Printed Circuit Board Assembly (PCBA) เป็นหลัก ตามการเติบโตของตลาดอิเล็กทรอนิกส์โลกที่มีอย่างต่อเนื่อง

น้ำมันปาล์ม ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 36.46 จากผลิตภัณฑ์น้ำมันปาล์มดิบและน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ เป็นหลัก เนื่องจากปริมาณผลปาล์มออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้นจากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยต่างจากปีก่อนที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง และการกลับมาผลิตเป็นปกติของผู้ผลิตบางรายหลังหยุดซ่อมบำรุงในปีก่อน

สำหรับอุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลลบต่อดัชนีผลผลิตเดือนตุลาคม 2568 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ได้แก่ เครื่องปรับอากาศ หดตัวลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 21.04 จากผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศ เป็นหลัก เนื่องจากกำลังซื้อในประเทศอ่อนแอ มีฝนตกน้ำท่วมในหลายพื้นที่ และสินค้านำเข้าจากต่างประเทศมีราคาถูก

มอเตอร์ไฟฟ้า เครื่องกำเนิดไฟฟ้า หม้อแปลงไฟฟ้า หดตัวลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 38.65 จากผลิตภัณฑ์หม้อแปลงไฟฟ้าและมอเตอร์ไฟฟ้า เป็นหลัก เนื่องจากมีการชะลอการผลิตเพื่อรอคำสั่งจากการไฟฟ้า

ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นปิโตรเลียม หดตัวลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 2.41 จากผลิตภัณฑ์น้ำมันดีเซล น้ำมันเตา และน้ำมันเบนซิน เป็นหลัก เนื่องจากการหยุดผลิตชั่วคราวเพื่อซ่อมบำรุงใหญ่ของผู้ผลิตบางราย
กำลังโหลดความคิดเห็น