xs
xsm
sm
md
lg

ปตท. แก้โจทย์สมดุลพลังงาน เร่งเครื่อง CCS-AI ดันไทยสู่ Net Zero 2050

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ท่ามกลางแรงกดดันด้านสิ่งแวดล้อมและความท้าทายเรื่องความมั่นคงพลังงาน ปตท. ยังคงเดินหน้ารีดคาร์บอนจากธุรกิจพลังงานฟอสซิล ด้วยยุทธศาสตร์ Decarbonization และโมเดล C3 ลดพอร์ตธุรกิจคาร์บอนสูง ผสานเทคโนโลยีใหม่อย่าง AI, CCS และไฮโดรเจน ควบคู่กับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ทั้งโครงการอาทิตย์ CCS Project และ Eastern Thailand CCS Hub ในพื้นที่ EEC เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเดินหน้าไปสู่เป้าหมาย Net Zero 2050 โดยความสำคัญอยู่ที่มาตรการภาครัฐ ทั้ง Carbon Tax และกรอบกฎระเบียบรองรับการดักจับ-กักเก็บคาร์บอนในระยะยาวเป็นเงื่อนไข

และนี่คือสมดุลพลังงาน 3 มิติ กับภารกิจของ ปตท. ในยุค Energy Trilemma โดยนายรัฐกร กัมปนาทแสนยากร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ความยั่งยืนองค์กร บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ที่ได้กล่าวไว้ในการเสวนาหัวข้อ “Green Business 2026 : พลังงานใหม่ ท่องเที่ยวยั่งยืน นวัตกรรมสีเขียว เจาะกลยุทธ์เชิงรุก คว้าโอกาสใหม่ขับเคลื่อนธุรกิจไทย” ในงาน iBusiness Forum : Thailand Future Signal 2026 ว่าความสมดุลด้านพลังงาน (Energy Trilemma) ต้องพิจารณา 3 ปัจจัย คือ ความมั่นคงด้านพลังงาน สิ่งแวดล้อม และราคาต้องเข้าถึงได้ ซึ่งเป็นหน้าที่ของ ปตท. ที่เข้ามาบริหารให้เกิดความสมดุล


พลังงานหมุนเวียน-ก๊าซธรรมชาติ และยุทธศาสตร์ Decarbonization ของ ปตท.
นายรัฐกร บอกอีกว่าในอนาคตพลังงานสะอาดหรือพลังงานหมุนเวียน นับวันจะเข้ามามีบทบาทเพิ่มมากขึ้นตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (PDP) แต่ด้วยข้อจำกัดของพลังงานหมุนเวียนเกี่ยวกับความมั่นคง เพราะไม่สามารถผลิตใช้ได้ 24 ชั่วโมง ทำให้ก๊าซธรรมชาติยังมีบทบาทสำคัญในช่วงการเปลี่ยนผ่านพลังงาน แต่ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงฟอสซิล ดังนั้น ปตท. จึงมีทำ Decarbonization (การลดหรือกำจัดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) และก๊าซเรือนกระจก) ควบคู่กันไป โดยเฉพาะโครงการดักจับและกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Carbon Capture and Storage : CCS) และการนำไฮโดรเจนมาเป็นพลังงานทางเลือกทดแทนการใช้ก๊าซธรรมชาติในอนาคต

เป้า Net Zero 2050 และแรงหนุนจากมาตรการภาครัฐ Carbon Tax
ดังนั้นกลยุทธ์ของ ปตท. ในการผลักดัน Green Business โดยเชื่อมโยงความยั่งยืนในกลยุทธ์และทิศทางองค์กร ซึ่ง ปตท. วางเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์หรือ Net Zero ในปี ค.ศ. 2050

กลยุทธ์ C3 : ลดพอร์ตคาร์บอนสูง-ใช้เทคโนโลยี-สร้างพันธมิตรผลักดัน CCS
นายรัฐกร บอกต่อว่า สำหรับกลยุทธ์ที่จะทำให้บรรลุเป้าหมาย Net Zero ค.ศ. 2050 คือ C3 ประกอบด้วย C1 : Climate-Resilience Business โดย ปตท. ลดพอร์ตโฟลิโอในธุรกิจที่มีการปล่อยคาร์บอนสูง อาทิ การขายธุรกิจถ่านหินออกไป

C2 : Carbon Conscious Asset การปรับปรุงสินทรัพย์ที่มีอยู่ เพื่อลดการปล่อยคาร์บอนจากกระบวนการผลิต และการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ

C3 : Coalition, Co-Creation, and Collective Efforts for All เป็นการร่วมมือรวมพลังระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรต่างประเทศ เพื่อผลักดันการลดคาร์บอนอย่างเป็นระบบ

ทางเลือกหลากหลายสู่ Net Zero : ประสิทธิภาพพลังงาน ปลูกป่า พลังงานสะอาด CCS และไฮโดรเจน
นายรัฐกร กล่าวว่า ขณะนี้ ปตท. มีแนวทางชัดเจนเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย Net Zero ตามที่วางไว้ ซึ่งมีหลายวิธี เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน การขายสินทรัพย์ที่มีการปล่อยคาร์บอนสูง การปลูกป่า ลงทุนธุรกิจพลังงานสะอาด การพัฒนาโครงการ CCS และการใช้ไฮโดรเจน ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการบรรลุเป้าหมาย Net Zero

ยกเครื่องประสิทธิภาพด้วย AI ช่วยลดต้นทุนและลดคาร์บอนในกลุ่ม ปตท.
นอกจากนี้ กลุ่ม ปตท. มีการนำเทคโนโลยี AI มาใช้เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต อาทิ บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. โดยนำ AI มาใช้ในการสำรวจปิโตรเลียม รวมถึงใช้ในการวางแผนการผลิตและซ่อมบำรุง ทำให้มี EBITDA uplift 3,200 ล้านบาทต่อปี, การนำ AI มาใช้ในโรงแยกก๊าซฯ เพิ่ม EBITDA Uplift ได้ 610 ล้านบาทต่อปี ประหยัดเวลาได้ 27 เท่า และกลุ่มปิโตรเคมี มีการใช้ AI ในการผลิต ประหยัดต้นทุนได้ปีละ 50 ล้านบาท ลดการปล่อย Co2 ประมาณ 3,000 ตัน 


กุญแจแห่งความสำเร็จ : เทคโนโลยี–การเงิน–กฎระเบียบ–ดีมานด์ ขับเคลื่อน Decarbonization
ทั้งนี้ กุญแจแห่งความสำเร็จเพื่อให้บรรลุเป้าหมายคือ พันธมิตร โดย ปตท. ได้ร่วมมือกับพันธมิตร ประกอบด้วย
1. Technology การพัฒนาเทคโนโลยีร่วมกับพันธมิตรมหาวิทยาลัยทั้งในไทยและต่างประเทศ ช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน รวมถึงการพัฒนาคนเพื่อใช้เทคโนโลยี
2. Financial Instrument ภาครัฐต้องร่วมทำงานกับภาคเอกชน เพื่อออกมาตรการที่เหมาะสมสอดคล้องทั้งเวลาและธุรกิจอุตสาหกรรม รวมทั้งการให้สิทธิประโยชน์ได้ตรงจุด ทำให้การทำ Decarbonization เกิดขึ้นได้อย่างยั่งยืน
3. Policy&Regulatory Unlock ประเด็น Decarbonization เป็นเรื่องใหม่ ยังไม่มีกฎระเบียบออกมา อาทิ การสำรวจพื้นที่เพื่อกักเก็บคาร์บอนในอ่าวไทย
4. Demand มีหลายเรื่องที่ต้องร่วมมือกันเพื่อผลักดันให้เกิดขึ้น

โครงการอาทิตย์ CCS Project - โครงสร้างพื้นฐานคาร์บอนใน EEC สู่ Net Zero 2050

นายรัฐกร บอกอีกว่า โครงการอาทิตย์ CCS Project เป็นโครงการนำร่องของ ปตท.สผ. ที่นำองค์ความรู้และประสบการณ์ด้านธรณีวิทยาและวิศวกรรมศาสตร์ของการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม มาประยุกต์ใช้ในการดำเนินโครงการ CCS ที่แหล่งอาทิตย์ คาดว่าจะสามารถเริ่มใช้เทคโนโลยี CCS ที่แหล่งก๊าซธรรมชาติอาทิตย์ได้ในปีพ.ศ. 2571 ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกระบวนการผลิตปิโตรเลียมได้ในปริมาณมาก

นอกจากนี้ เพื่อให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมาย Net Zero ได้ตามกำหนดในปี 2050 โครงการ Eastern Thailand CCS Hub ในพื้นที่ EEC ชลบุรี ระยอง และเป็นโครงการใหญ่ใช้เงินลงทุนมหาศาล ในการนำคาร์บอนที่เกิดจากโรงงานไปเก็บไว้ที่ EEC ก่อนขนส่งไปกักเก็บในทะเล คาดว่าจะเก็บคาร์บอนได้ปีละ 5-10 ล้านตัน ซึ่งโครงการนี้จะเกิดได้ต้องได้รับความร่วมมือกับทุกฝ่ายทั้งภาครัฐ และเอกชน เบื้องต้นคาดว่าจะตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้าย (FID) ในปี ค.ศ. 2031 และจะดำเนินการแล้วเสร็จในปี ค.ศ. 2034 โครงการดังกล่าวนอกจากจะลดคาร์บอนแล้ว ยังช่วยการจ้างงาน 1.1 หมื่นคน และเพิ่ม GDP ได้ปีละ 1.8หมื่นล้านบาท

เงื่อนไขสำคัญให้ CCS ไทยเกิดจริง : นโยบาย กฎหมาย และแรงสนับสนุนจากทุกฝ่าย
อย่างไรก็ดี โครงการ CCS ในประเทศไทยจะเกิดขึ้นได้ ต้องอาศัยองค์ประกอบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ด้านนโยบาย ด้านกฎหมาย และปัจจัยส่งเสริมการลงทุน ซึ่งจะต้องได้รับการสนับสนุนจากทั้งภาครัฐและองค์กรหลาย ๆ ฝ่ายในการผลักดันและส่งเสริมการนำเทคโนโลยี CCS มาใช้ในประเทศไทยอย่างเป็นรูปธรรม

ภาพรวมยุทธศาสตร์ของ ปตท. สะท้อนว่า เส้นทางสู่ Net Zero 2050 ของไทย ไม่อาจพึ่งเพียงพลังงานหมุนเวียนหรือการลงทุนสีเขียว แต่ต้องอาศัยการจัดพอร์ตธุรกิจใหม่ ลดคาร์บอนจากต้นทาง ใช้เทคโนโลยีอย่าง AI และ CCS มาช่วยยกระดับประสิทธิภาพ และต่อยอดด้วยโครงสร้างพื้นฐานด้านคาร์บอนในระดับประเทศ ขณะเดียวกัน ภาครัฐต้องเร่งวางกติกา ทั้งด้าน Carbon Tax เครื่องมือการเงิน และกฎหมายรองรับการกักเก็บคาร์บอน เพื่อปลดล็อกการลงทุนเอกชนและพันธมิตรต่างประเทศ หากทุกฟันเฟืองเดินไปในทิศทางเดียวกัน ไม่เพียงช่วยให้ไทยเข้าใกล้เป้า Net Zero แต่ยังสร้างโอกาสเศรษฐกิจใหม่ การจ้างงาน และขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศในระยะยาวด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น