บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศปรับเพิ่มอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-Term Rating) ของบริษัท เอฟเอ็นเอส โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ FNS เป็น ‘CCC+(tha)’ จาก ‘CCC-(tha)’ และคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น (National Short-Term Rating) ที่ ‘C(tha)’ พร้อมกันนี้ ฟิทช์ได้ประกาศยกเลิกอันดับเครดิตทั้งหมดของ FNS ทั้งนี้ การปรับเพิ่มอันดับเครดิต สะท้อนถึงความเสี่ยงด้านการรีไฟแนนซ์ที่ลดลงของ FNS หลังจากบริษัทฯ สามารถไถ่ถอนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดในเดือนตุลาคม 2568 ได้สำเร็จ โดย ณ สิ้นเดือนกันยายน 2568 FNS มีเพียงหนี้เงินกู้ระยะสั้นที่มีหลักประกันจากสถาบันการเงินรวมทั้งสิ้น 123.3 ล้านบาท โดยนำหุ้นของบริษัท เอ็มเค เรียลเอสเตท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (MK) ไปเป็นหลักประกัน ฟิทช์คาดว่า FNS จะสามารถต่ออายุเงินกู้ที่มีหลักประกันดังกล่าวได้
อย่างไรก็ตาม ฟิทช์คาดว่าสภาพคล่องของ FNS จะยังคงตึงตัว โดยมีกระแสเงินสดสุทธิ ติดลบอย่างน้อยในช่วง 24 เดือนข้างหน้า อันเป็นผลจากธุรกิจให้บริการด้านสุขภาพซึ่งยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น และมีข้อจำกัดในการเข้าถึงเงินทุนใหม่ ดังนั้น FNS น่าจะต้องพึ่งพาการรับชำระคืนเงินกู้จาก MK ซึ่งมีสภาพคล่องตึงตัวเช่นกัน เพื่อสนับสนุนกระแสเงินสดสุทธิที่ติดลบ แหล่งเงินทุนทางเลือกของ FNS คือการขายสินทรัพย์ที่ไม่ใช่ธุรกิจหลัก ซึ่งมีความเสี่ยงด้านการดำเนินการ โดยฟิทช์ประเมินว่า FNS จะมีกระแสเงินสดสุทธิ ติดลบรวม 274 ล้านบาทในช่วงปี 2569–2570 FNS อาจมีสภาพคล่องไม่เพียงพอในการดำเนินงาน หากไม่มีการรับชำระคืนเงินกู้เพิ่มเติมจาก MK การกู้ยืมเพิ่มเติมจากสถาบันการเงิน หรือการขายสินทรัพย์ที่ไม่ใช่ธุรกิจหลัก
นอกจากนี้ สถานะทางเครดิตของ FNS ถูกจำกัดด้วยขนาดของธุรกิจที่เล็ก โดยบริษัทฯมุ่งเน้นไปที่โครงการให้บริการด้านสุขภาพเพียงสองโครงการ ได้แก่ RAKxa Integrative Wellness และ RXV Wellness Village RAKxa ซึ่งเปิดตัวในปี 2563 เป็นโครงการที่เน้นกลุ่มผู้เข้ารับบริการชาวต่างชาติที่มีรายได้สูง ในขณะที่ RXV ซึ่งเริ่มดำเนินการในปี 2566 เสนอการให้บริการด้านสุขภาพที่มีราคาไม่สูงมากนัก เพื่อตอบสนองผู้เข้ารับบริการชาวไทย โดยทั้งสองโครงการกำลังดำเนินการในอัตราการเข้าพักที่ต่ำกว่าจุดคุ้มทุน อย่างไรก็ตาม FNS คาดว่าการดำเนินงานจะถึงจุดคุ้มทุนและเริ่มมีกระแสเงินสดเป็นบวกภายใน 12 เดือนข้างหน้า โดย FNS มีแผนที่จะเพิ่มอัตราการเข้าพักโดยการสร้างฐานผู้เข้ารับบริการที่ใหญ่ขึ้น และเพิ่มอัตราการกลับเข้าพักซ้ำของผู้เข้ารับบริการ
และฟิทช์คาดว่าค่าใช้จ่ายเพื่อการลงทุน (Capex) และเงินลงทุนของ FNS จะอยู่ในระดับต่ำในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า โดยเชื่อว่า FNS จะมุ่งเน้นการพลิกฟื้นผลการดำเนินงานของโครงการให้บริการด้านสุขภาพที่มีอยู่เพื่อสร้างกระแสเงินสดสุทธิที่เป็นบวกอย่างต่อเนื่อง ก่อนขยายธุรกิจหรือเริ่มการลงทุนใหม่ ดังนั้น FNS จะมีเพียงค่าใช้จ่ายเพื่อการบำรุงรักษาในระดับต่ำ
ความไม่แน่นอนที่เกี่ยวกับการดำเนินงานต่อเนื่อง: ผู้สอบบัญชีของ FNS ได้ให้ข้อสังเกตถึงความไม่แน่นอนที่มีสาระสำคัญเกี่ยวกับความสามารถในการดำเนินงานต่อเนื่องของ FNS ในรายงานของผู้สอบบัญชีสำหรับงบการเงินงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2568 โดย FNS รายงานผลขาดทุนสุทธิต่อเนื่องในปี 2568 และ 2569 บริษัทฯมีหนี้สินหมุนเวียนสูงกว่าสินทรัพย์หมุนเวียน (ไม่รวมเงินให้กู้ยืมระยะสั้นแก่บุคคลที่เกี่ยวข้องกัน) จำนวน 0.5 พันล้านบาท ซึ่งอาจทำให้เกิดข้อสงสัยอย่างมีนัยสำคัญต่อความสามารถในการดำเนินงานต่อเนื่องของบริษัทฯ