แม้ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีจะเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัว แต่บรรดานักวิเคราะห์ชั้นนำกลับมองต่างมุม พร้อมส่งคำเตือนว่าโศกนาฏกรรมราคาอาจยังไม่ถึงตอนจบ ประเมินบิทคอยน์ยังมีความเสี่ยงถูกเทขายซ้ำเพื่อ "ล้างบาง" เลเวอเรจ (Leverage Flush) ที่ยังหลงเหลืออยู่ในระบบ ซึ่งอาจฉุดราคาดิ่งลึกลงสู่โซน 70,000-80,000 ดอลลาร์อีกครั้ง พร้อมจับตาพฤติกรรม "วาฬยักษ์" ที่ยังไม่หยุดรินขาย ซึ่งถือเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการกลับตัวเป็นขาขึ้นอย่างยั่งยืน
เจาะลึกวิกฤต "2-Sigma" การกวาดล้างยังไม่สิ้นสุด
สถานการณ์ฝันร้ายของนักลงทุนบิทคอยน์อาจยังไม่ผ่านพ้นไปง่ายๆ เมื่อนักวิเคราะห์สายคริปโตฯ ออกโรงเตือนถึงความเปราะบางของตลาดที่ยังคงมีอยู่ โดยเจมส์ เช็ค นักวิเคราะห์ชื่อดังได้นิยามสภาวะตลาดที่พังทลายลงเมื่อเร็วๆ นี้ว่าเป็นเหตุการณ์ "2-sigma long liquidation event" หรือวิกฤตการล้างพอร์ตฝั่งขาขึ้นที่มีความรุนแรงทางสถิติระดับ 2 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ซึ่งเปรียบเสมือนการกวาดล้าง "นักพนันเก็งกำไร" (Degen Gamblers) ออกไปจากตลาดระลอกใหญ่
อย่างไรก็ตามเช็ค ชี้ให้เห็นประเด็นที่น่ากังวลว่า แม้เลเวอเรจส่วนใหญ่จะถูกล้างออกไปแล้ว แต่กลไกตลาดนั้นเปรียบเสมือนนักล่าที่มีจมูกไวอย่างเหลือเชื่อ มันสามารถ "ดมกลิ่น" หาผู้ที่ยังฝืนถือครองสถานะเลเวอเรจกลุ่มสุดท้าย (Final Hold-outs) เจอเสมอ พร้อมคาดการณ์ว่าตลาดอาจจะมีการทิ้งตัวลงแรงๆ (Wick) เข้าสู่โซน 70,000 - 80,000 ดอลลาร์ อีกครั้ง เพื่อทำการ "ล้างบาง" ให้สิ้นซากก่อนที่จะมีการกลับตัว
สำหรับนิยามของเหตุการณ์ Liquidation ระดับ 2-Sigma ในโลกคริปโตฯ นั้น หมายถึงการเคลื่อนไหวของราคาที่รุนแรงผิดปกติจนกระตุ้นให้เกิดการบังคับขาย (Forced Sell) ในวงกว้าง โดยค่าสถิติ 2-Sigma สะท้อนถึงความผันผวนที่มีนัยสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งสอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่บิทคอยน์สูญเสียมูลค่าไปกว่า 24,000 ดอลลาร์ภายในเวลาเพียง 10 วัน และร่วงลงทำจุดต่ำสุดในรอบ 7 เดือนที่บริเวณ 82,000 ดอลลาร์ เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
สัญญาณทางเทคนิคชี้ "จุดต่ำสุดระยะสั้น" แต่ยังวางใจไม่ได้
ในอีกมุมมองหนึ่งออร์กัสติน ฟัน หัวหน้าฝ่ายข้อมูลเชิงลึกจาก SignalPlus ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์เทรดคริปโตฯ ให้ความเห็นกับ Cointelegraph ว่า ตลาดเริ่มแสดงสัญญาณของเสถียรภาพ (Stabilization) หลังจากการเทขายอย่างตื่นตระหนกเมื่อสัปดาห์ก่อน และมีความเป็นไปได้ว่าเราอาจได้เห็นจุดต่ำสุดในระยะสั้น (Local Bottom) แล้ว
"สถานะของตลาดในขณะนี้ถือว่าเข้าขั้น Oversold หรือมีการขายมากเกินไป ทั้งในแง่ของจิตวิทยามวลชนและปัจจัยทางเทคนิค เช่น Bollinger Bands ทำให้ราคาน่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว หากไม่มีปัจจัยลบภายนอกใหม่ๆ เข้ามากระทบ (อาทิ แรงเทขายบังคับจาก DAT)" ฟัน กล่าว
อย่างไรก็ตาม ฟัน ประเมินกรอบราคาบิทคอยน์ไว้ที่ช่วง 82,000 ถึง 92,000 ดอลลาร์ โดยระบุแนวรับสำคัญถัดไปอยู่ที่บริเวณ 78,000 ดอลลาร์ พร้อมย้ำว่า "หากราคาหลุดแนวรับดังกล่าวลงไป จะเป็นการเปิดประตูสู่ความเสี่ยงขาลงที่รุนแรงยิ่งขึ้น แต่ ณ ขณะนี้ยังไม่ใช่กรณีฐาน (Base Case) ที่เราคาดว่าจะเกิดขึ้น"
แรงกดดันจาก "วาฬ" อุปสรรคใหญ่ของการฟื้นตัว
ด้านข้อมูลบนเชน (On-chain Data) จาก CryptoQuant นำเสนอแง่มุมที่น่าสนใจ โดย คาร์เมโล อเลมัน นักวิเคราะห์ระบุว่า ข้อมูลบ่งชี้ถึงโครงสร้างตลาดที่กำลังมีการเปลี่ยนมือของสถาบัน (Institutional Redistribution) และความอ่อนแอเชิงโครงสร้าง ซึ่งแม้จะมีการดีดตัวกลับที่ส่งสัญญาณถึงจุดต่ำสุดระยะสั้น แต่ยังมีความเสี่ยงซ่อนอยู่
อเลมัน ชี้จุดตายสำคัญที่ทำให้นักลงทุนยังไม่อาจวางใจได้เต็มร้อย นั่นคือพฤติกรรมของกลุ่ม "วาฬ" หรือนักลงทุนรายใหญ่ที่ถือครองบิทคอยน์ตั้งแต่ 1,000 ถึง 10,000 BTC ซึ่งพบว่ากลุ่มนี้ "ยังคงอยู่ระหว่างการเทขาย"
"การฟื้นตัวของราคาดูมีความหวังก็จริง แต่ตราบใดที่พฤติกรรมของวาฬยังไม่เปลี่ยนทิศทาง เราก็ยังไม่สามารถยืนยันจุดจบของขาลงได้อย่างแท้จริง การกลับตัวที่แข็งแกร่งจำเป็นต้องเห็นสัญญาณการหยุดขายจากผู้เล่นรายใหญ่กลุ่มนี้เสียก่อน" อเลมัน ทิ้งท้ายอย่างน่าขบคิด