หลังกลับเข้ามาซื้อขายใหม่ เมื่อวันที่ 4 สิงหาคมที่ผ่านมา หุ้นบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI ได้สร้างสีสันให้ตลาดหุ้นอยู่พักใหญ่ ราคาพุ่งทะยานขึ้นไปสูงที่ระดับ 19.40 บาท ท่ามกลางมูลค่าซื้อขายที่หนาแน่น ติดอันดับหนึ่งหุ้นที่ซื้อขายสูงสุดต่อเนื่อง ก่อนจะเริ่มโรยรา ราคาปักหัวลง และเพิ่งจะเริ่มดีดตัวกลับขึ้นมาใหม่ เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
ผลประกอบการ THAI ไตรมาสที่ 3 ปี 2568 ซึ่งประกาศก่อนเปิดการซื้อขายเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน ทำให้เกิดการเทขายหุ้นระลอกใหญ่ จนราคาทรุดลงติดต่อหลายวัน และลงไปแตะจุดต่ำสุดในการกลับมาซื้อขายครั้งใหม่ที่ 8.15 บาท
ตัวเลขผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ชะลอตัวอย่างหนัก โดยมีกำไรสุทธิ 4,413 ล้านบาท ลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 12,480 ล้านบาท แต่กำไรรวมงวด 9 เดือนแรกยังออกมาดี โดยมีกำไรสุทธิ 26,369.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 15,195.21 ล้านบาท
หุ้น THAI ถูกทุบลง 3 วันติดหลังประกาศงบ จนหวิดจะลงไปแตะระดับ 8 บาท ก่อนจะมีแรงซื้อกลับเข้ามา จนราคาหุ้นดีดกลับแรงเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน โดยขึ้นมาปิดที่ 9 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท ซึ่งนักลงทุนอาจหายตื่นตระหนกกับงบไตรมาสที่ 3 และอาจเห็นว่า ราคาหุ้นต่ำเกินไปจนจูงใจให้ช้อน
เพราะถ้าคำนวณจากผลกำไรต่อหุ้นงวด 9 เดือนแรก ที่มีกำไร 0.93 บาท ค่า พี/อี เรโช จะอยู่ที่ประมาณ 10 เท่า
การบินไทย ติดอยู่ในอันดับต้น ๆ ของบริษัทจดทะเบียนที่มีจำนวนผู้ถือหุ้นรายย่อย เกินกว่า 1 แสนราย โดยมีจำนวนผู้ถือหุ้นรายย่อยทั้งสิ้น 110,258 ราย ซึ่งส่วนใหญ่ติดหุ้นหรือแบกหุ้นต้นทุนสูงมายาวนาน และทนถือรอคอยการกลับมาของราคาหุ้น
ไตรมาสที่ 4 เป็นช่วงดูท่องเที่ยว ซึ่งคาดว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเดินทางเข้ามาประเทศไทยมากขึ้น และจะทำให้รายได้ THAI สูงขึ้น ราคาหุ้นจึงมีแนวโน้มขยับตามผลประกอบการ
เพียงแต่ช่วงที่กลับเข้าซื้อขายใหม่เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม มีการเก็งกำไรกันสูงเกินไป ราคาจึงวิ่งแรงแซงหน้าปัจจัยพื้นฐาน จนนักวิเคราะห์ต้องออกมาเตือนให้หลีกเลี่ยงเก็งกำไร และไม่แนะนำให้นักลงทุนซื้อ จนราคาปรับฐานมาสู่ปัจจัยพื้นฐานที่เหมาะสม
กระทรวงการคลังยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 อย่างเหนียวแน่น ในสัดส่วน 38.90% ผู้ถือหุ้นใหญ่รองลงมาคือ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL นอกจากนั้นถือหุ้นลดหลั่งกันไป และมีสหกรณ์ออมทรัพย์หลายแห่ง ติดอันดับผู้ถือหุ้น 10 รายแรก ซึ่งเกิดจากการแปลงหนี้เป็นทุน หรือแปลงหนี้เป็นหุ้น และเป็นตัวแปรสำคัญที่อาจส่งผลต่อราคาหุ้น THAI ในอนาคตอันใกล้
เพราะเจ้าหนี้ที่แปลงหนี้เป็นทุน โดยเฉพาะบรรดาสหกรณ์ออมทรัพย์ เมื่อผ่านพ้น 6 เดือน นับจากหุ้นกลับมาซื้อขาย จะสามารถขายหุ้น THAI ออกได้ ถ้าพอใจในราคาที่จะขาย
3 เดือนเศษนับจากการกลับมาแจ้งเกิดของหุ้น THAI ราคาหุ้นเคลื่อนไหวอย่างร้อนแรง จุดต่ำสุดที่ 8.15 บาท สูงสุดที่ 19.40 บาท มีส่วนที่แตกต่างกัน 11.25 บาท หรือมากกว่า 100%
แต่จุดต่ำสุดที่ 8.15 บาท ผ่านพ้นไปแล้ว และกำลังเชิดหัวขึ้นมาใหม่ เพียงแต่หลังซึมซับข่าวร้ายผลประกอบการไตรมาส 3 ที่ชะลอตัวลงแล้ว
รอบใหม่ของหุ้น THAI จะบินไปได้สูงขนาดไหน