xs
xsm
sm
md
lg

ธปท.เผยสินเชื่อแบงก์ติดลบต่อเนื่อง 5 ไตรมาส คาดทั้งปีสินเชื่อติดลบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ธปท.เผยสินเชื่อระบบธนาคารพาณิชย์ ไตรมาศ3 ติดลบ1 % ติดลบติดต่อกัน5 ไตรมาศและ มีแนวโน้มสินเชื่อติดตบต่อเนื่องอีก คาดว่าทั้งปี2568 สินเชื่อระบบธนาคารพาณิชย์อาจติดลบย้ำการลดดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ไม่ช่วยกระตุ้นให้ปล่อยสินเชื่อเป็นการลดภาระของลูกหนี้กำไรสุทธิแบงก์ไตรมาศ3 หดตัวเหลือ6,600 ล้านบาท จากไตรมาศก่อน ที่กำไร7,800 ล้านบาท

นายสมชาย เลิศลาภวศิน ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยว่า ภาพรวมธนาคารพาณิชย์ ไตรมาส 3 ปี 2568ระบบธนาคารพาณิชย์มีความมั่นคงและมีเสถียรภาพ โดยมีเงินกองทุนเงินสำรอง และสภาพคล่องอยู่ในระดับสูง สินเชื่อระบบธนาคารพาณิชย์ (รวมเครือ) ไตรมาส 3 ปี 2568 โดยรวมยังหดตัวใกล้เคียงไตรมาสก่อนอยู่ที่ -1.0% จากระยะเดียวกันปีก่อน จากสินเชื่อธุรกิจSMEsและสินเชื่ออุปโภคบริโภคที่ยังหดตัวต่อเนื่องตามความเสี่ยงด้านเครดิตที่ยังอยู่ในระดับสูงขณะที่สินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ขยายตัวเล็กน้อย ทั้งนี้ความต้องการสินเชื่อของธุรกิจขนาดใหญ่ลดลงในขณะที่การชำระคืนหนี้เพิ่มขึ้น โดยสินเชื่อไตรมาศ4 ยังมีแนวโน้มการหดตัว และ สินเชื่อมีแนวโน้มที่ฟื้นตัวช้า ทำให้คาดว่าสินเชื่อทั้งปี2568 มีโอกาสติดลบ

“ช่วงโควิดสินเชื่อขยายตัวเนื่องจากมีมาตรการเสริมสภาพคล่องซึ่งแตกต่างจากบริบทในช่วงวิกฤตต้มยำกุ้งที่เป็นปัญหาหนี้ของธุรกิจขนาดใหญ่ที่ได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าทั้งนี้ สินเชื่อที่หดตัวในปัจจุบันเป็นการหดตัว 5 ไตรมาสติดต่อกัน
ไม่ได้หดตัวลงมาก แต่หดตัวต่อเนื่อง แตกต่างจากglobal financial crisis ที่สินเชื่อหดตัวถึง 3% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน โดยหดตัว 2 ไตรมาส และก็กลับมาขยายตัวได้เร็ว”นายสมชายกล่าว

สำหรับตัวเลขของสินเชื่อธนาคารพาณิชย์(ธพ.) ช่วงวิกฤตต้มยำกุ้ง สินเชื่อ ธพ.bank only หดตัว -12.1% ในปี 41 และหดตัวต่อเนื่องถึงปี 44 ช่วง วิกฤการเงินโลก(GFC )สินเชื่อ ธพ.bank only หดตัวต่อเนื่อง 2 ไตรมาส ในQ3/52 (-3.2%) และQ4/52 (-1.7%) ช่วงโควิด สินเชื่อ ธพ. รวมเครือขยายตัว 5.2% ในปี 63 โดยขยายตัวต่อเนื่องในปี 64 (6.6%) และ ปี 65 (2.8%) จากผลของมาตรการช่วยเหลือ โดยหลังโควิด สินเชื่อเริ่มหดตัวตั้งแต่Q3/67 (-2.1%) ต่อเนื่อง 5 ไตรมาส โดยQ3/68 หดตัว -1.0%yoy

นอกจากนี้การลดดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ในปีนี้ 2 ครั้ง ทำให้ดอกเบี้ยเหลือ1.5 % การส่งผ่านของดอกเบี้ยเป็นไปได้อย่างดี เกือบ100 % ซึ่งเป็นการช่วยลดภาระให้กับลูกหนี้และประชาชนในการชำระคืน
แต่ไม่ได้ช่วยให้ธนาคารพาณิชย์ปล่อยสินเชื่อ หรือภาคธุรกิจกู้เงิน เพราะการปล่อนสินเชื่อขึ้นอยู่กับความเสี่ยง ซึ่งจะต้องมีกลไกหรือมาตราการในการช่วยเหลือ จากปัจจุบันใช้ระบบการค้ำประกันของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาย่อม(บสย.)

ด้านคุณภาพสินเชื่อNPL (Stage3 )ในภาพรวมค่อนข้างทรงตัว จากNew NPLที่ชะลอลงเป็นสำคัญ ส่งผลให้ยอดคงค้างสินเชื่อStage3 ไตรมาส 3 ปี 2568 ปรับลดลงมาอยู่ที่ 544.0 พันล้านบาท ทั้งนี้ สัดส่วนNPLต่อสินเชื่อรวม ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2.94% ส่วนหนึ่งจากผลของฐานสินเชื่อที่หดตัว สำหรับสินเชื่อStage2 ปรับเพิ่มขึ้น ตามการจัดชั้นเชิงคุณภาพจากปัจจัยเฉพาะรายของลูกหนี้ธุรกิจขนาดใหญ่ และส่วนหนึ่งจากการปรับชั้นดีขึ้นของNPLส่งผลให้สัดส่วน
stage2 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 7.24% หนี้ครัวเรือนมีการปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง จากตัวเลขการเติบโตของเศรษฐกิจ(จีดีพี)ไตรมาศ2 อยู่ที่1-2 % การขยายสินเชื่อลดลงตามไปด้วย ส่งผลให้หนี้ครัวเรือนได้ปรับลดลงตาม ไตรมาศ 2 อยู่ที่86.8 % และไตรมาศ3 ลดลงเหลือ86.6 % อย่างไรก็ดี ธนาคารพาณิชย์ยังให้ความช่วยเหลือลูกหนี้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งบริหารจัดการคุณภาพหนี้

สำหรับผลการดำเนินงานปรับลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อน ไตรมาศ 3 ธนาคารมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักสำรองหนี้สงสัยจะสูญ127,000 ล้านบาท กำไรสุทธิ6,600 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาศก่อนที่กำไรสุทธิ 7,800 ล้านบาท จากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่ลดลง เหลือ152,000 ล้านบาท ตามการหดตัวของสินเชื่อ และการปรับลดอัตราดอกเบี้ยให้กับลูกหนี้ ทั้งจากการปรับลดโดยธนาคารและตามมาตรการคุณสู้ เราช่วย

อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามภาวะการเงินที่ยังตึงตัวและความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้SMEsและครัวเรือนท่ามกลางเศรษฐกิจที่ยังชะลอลงจากผลกระทบของมาตรการภาษีสหรัฐฯ และรายได้ที่ฟื้นตัวช้า ทั้งนี้ ความช่วยเหลือภายใต้โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” มีส่วนช่วยบรรเทาภาระหนี้ของSMEsและครัวเรือนกลุ่มเปราะบาง โดยสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อGDPไตรมาส 2 ปี 2568 ปรับลดลงจากไตรมาสก่อนจากสินเชื่อภาคครัวเรือนที่ขยายตัวชะลอลงเป็นสำคัญ ขณะที่ภาคธุรกิจมีสัดส่วนหนี้สินต่อGDPลดลงตามการก่อหนี้ที่ลดลงเป็นสำคัญ ด้านความสามารถในการทำกำไรลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อนเกือบทุกประเภทธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ตามภาวะตลาดที่อยู่อาศัยที่ชะลอตัว
กำลังโหลดความคิดเห็น