xs
xsm
sm
md
lg

“อิศเรศ” เร่งรัฐลดค่าไฟฟ้างวดใหม่ต่ำกว่า 3.84 บาท ระบุ ปชช.-ธุรกิจควรได้ประโยชน์จากต้นทุนพลังงานต่ำ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



“อิศเรศ” รองประธาน ส.อ.ท.เร่งรัฐปรับลดค่าไฟฟ้างวดใหม่ (ม.ค.-เม.ย. 69) ควรต่ำกว่า 3.84 บาทต่อหน่วยเพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพประชาชนและลดต้นทุนภาคธุรกิจ โดยประชาชนและภาคธุรกิจควรได้รับประโยชน์จากต้นทุนพลังงานที่ต่ำ

นายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวแสดงความเห็นถึงเหตุผลที่ภาครัฐต้องปรับลดค่าไฟฟ้างวดใหม่ (เดือน ม.ค.-เม.ย. 2569) ว่า สิ่งที่อยากให้ภาครัฐเร่งผลักดันการลดค่าไฟฟ้างวดใหม่ควรต่ำกว่า 3.84 บาท/หน่วย เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชนและลดต้นทุนค่าพลังงานให้แก่ภาคธุรกิจ เพื่อช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ

ขณะนี้เศรษฐกิจไทยแสนสาหัส ภาคธุรกิจต่างก็เดือดร้อนเป็นอย่างมาก
ดังนั้นค่าไฟฟ้าควรสะท้อนต้นทุนจริง และ ผลักดันนโยบายการลดค่าไฟฟ้าที่ต้นเหตุ ให้เกิดเป็นรูปธรรมโดยเร็ว

โดยค่าไฟฟ้างวดใหม่ (ม.ค.-เม.ย. 69) ควรต่ำกว่า 3.84 บาท/หน่วย เปรียบเทียบราคาค่าไฟฟ้าที่ กกพ.เสนอไว้ 3.94 บาท/หน่วย โดย กกพ.ไม่ควรตั้งสมมติฐานต้นทุนการผลิตไฟฟ้างวดใหม่ที่ Conservative มากเกินไป เพราะหากเปรียบเทียบต้นทุนเชื้อเพลิงและอัตราแลกเปลี่ยนระหว่าง "ราคาที่ใช้ในการคำนวณ" กับ "ราคาปัจจุบัน" พบว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ (ใช้อ้างอิงราคา Pool Gas) ราคาที่ใช้ในการคำนวณ 70 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล แต่ราคาปัจจุบันราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 65 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และราคา Spot LNG ราคาที่ใช้ในการคำนวณ 12.61 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู ขณะที่ราคาปัจจุบัน 11.5 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล

อัตราแลกเปลี่ยน ราคาที่ใช้ในการคำนวณ 32 บาท/เหรียญสหรัฐ ปัจจุบันอัตราแลกเปลี่ยน 32.5 บาท/เหรียญสหรัฐ


นอกจากนี้ กกพ.สามารถทยอยคืนหนี้ค่าเชื้อเพลิงจากต้นทุนคงค้าง (AF) ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในงวด 3/2568 ได้มากกว่าแผนประมาณ 6,000 ล้านบาท ซึ่งควรนำมาเป็นส่วนลด ค่าไฟฟ้างวดใหม่ เนื่องจากต้นทุนเชื้อเพลิงในตลาดโลกปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงงวดเดือน พ.ค.-ส.ค. 2568
ทำให้ กฟผ.มีต้นทุนการผลิตไฟฟ้าที่เกิดขึ้นจริงต่ำกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ในแผนเดิม ซึ่งส่วนต่างของต้นทุนที่ประหยัดได้นี้จึงควรถูกนำไปใช้ในการชำระหนี้ของ กฟผ.ให้เร็วขึ้น

รวมทั้งยังมีเงิน Clawback (เงินเรียกคืนผลประโยชน์ส่วนเกินจากการไฟฟ้าฯ) มาช่วยลดค่าไฟฟ้าได้อีก 5,287 ล้านบาท ยังสามารถนำเงิน Claw back ที่เหลือมาลดค่าไฟฟ้างวดใหม่

กรณีใช้เงิน Claw Back ทั้งหมด (5,287 ล้านบาทสามารถลดค่าไฟฟ้าได้ 8 สตางค์/หน่วย ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าอยู่ที่ 3.86 บาท/หน่วย แต่หากใช้เงิน Claw Back ครึ่งหนึ่ง (2,643 ล้านบาท) ก็สามารถลดค่าไฟฟ้าได้ 4 สตางค์/หน่วย ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าอยู่ที่ 3.90 บาท/หน่วย
กำลังโหลดความคิดเห็น