xs
xsm
sm
md
lg

ญี่ปุ่นรื้อกฎคริปโตครั้งใหญ่ ดึงเข้ากรอบอินไซเดอร์เทรดดิ้ง-ภาษีใหม่ 20% เทียบชั้นตลาดทุน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



โตเกียวเดินหน้ารีเซ็ตกฎเหล็กสินทรัพย์ดิจิทัลครั้งมโหฬาร เตรียมบังคับใช้กฎห้ามซื้อขายด้วยข้อมูลวงใน-ลดภาษีกำไรคริปโตเหลือ 20% เทียบเท่าหุ้น พร้อมเปิดทางธนาคาร-ประกันขายคริปโตได้ ระเบียบใหม่หวังยกระดับความโปร่งใส สกัดปั่นราคา และดึงเม็ดเงินกลับเข้าประเทศ สะเทือนทั้งตลาดทุน-แพลตฟอร์มเทรด-บริษัทจดทะเบียน

ญี่ปุ่นกำลังเดินหมากสำคัญเพื่อรีเซ็ตโครงสร้างกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลครั้งใหญ่ที่สุดในรอบทศวรรษ หลังหนังสือพิมพ์ อาซาฮี รายงานว่า สำนักงานบริการการเงินญี่ปุ่น (FSA) กำลังจัดทำร่างกฎใหม่ที่จะยกระดับคริปโตให้เป็น “ผลิตภัณฑ์การเงินเต็มรูปแบบ” อยู่ภายใต้กฎหมายอินไซเดอร์เทรดดิ้งแบบเดียวกับตลาดหุ้น พร้อมลดภาษีกำไรลงเหลือ 20% เพื่อดึงกิจกรรมซื้อขายกลับเข้าภายในประเทศ

คุมเข้มแบบตลาดทุน "ห้ามใช้ข้อมูลลับซื้อขายก่อนประกาศอย่างเป็นทางการ"

แผนใหม่ของ FSA จะครอบคลุมคริปโต 105 รายการ ที่ถูกลิสต์ซื้อขายภายในญี่ปุ่น รวมถึง Bitcoin และ Ethereum โดยจะนำกฎห้ามใช้ข้อมูลวงในมาใช้แบบเต็มรูปแบบ คลุมทั้งผู้ที่มีข้อมูลสำคัญจากฝั่งผู้ออกสินทรัพย์และตัวแพลตฟอร์มซื้อขาย

เหตุการณ์สำคัญที่ถือเป็นข้อมูลอ่อนไหว ได้แก่

1.การเตรียมลิสต์เหรียญใหม่
2.การถอดเหรียญออกจากตลาด
3.ปัญหาสภาพคล่องหรือสัญญาณล้มละลาย

บุคคลที่รับรู้ข้อมูลดังกล่าวก่อนประกาศ จะถูกห้ามทำรายการซื้อขายทุกกรณี ถือเป็นกฎเหล็กที่ตั้งใจสกัดการปั่นราคาและการใช้ประโยชน์จากข้อมูลเฉพาะวงใน ซึ่งเป็นหนึ่งในปัญหาหลักที่กัดเซาะความเชื่อมั่นของนักลงทุนรายย่อย

บังคับเปิดเผยข้อมูลเหรียญแบบละเอียด โปรเจกต์ใดโปร่งใสน้อยอาจถูกเพิกถอน

แพลตฟอร์มซื้อขายจะถูกบังคับให้เปิดเผยข้อมูลสำคัญของเหรียญแต่ละรายการอย่างเป็นระบบ ไม่ว่าจะเป็น

1.มีผู้ออกเหรียญหรือไม่
2.เทคโนโลยีแกนหลักที่ใช้
3.ความเสี่ยงด้านราคาและโครงสร้าง
4.ความโปร่งใสของระบบและ Governance

มาตรการนี้สะท้อนความตั้งใจของ FSA ที่ต้องการ “ลดปริมาณ-เพิ่มคุณภาพ” ของสินทรัพย์ที่อนุญาตให้ประชาชนเข้าถึง โดยเน้นให้ข้อมูลที่ชัดเจนมากกว่าการเพิ่มจำนวนเหรียญแบบไม่มีการกลั่นกรอง

ลดภาษีคริปโตเหลือ 20% เทียบเท่าหุ้น ดึงนักลงทุนกลับฝั่งญี่ปุ่น

อีกหนึ่งแกนสำคัญคือการปรับโครงสร้างภาษีกำไรจากคริปโต โดย FSA เตรียมเสนอให้เปลี่ยนจากระบบอัตราก้าวหน้าที่สูงสุดอาจแตะ 55% ไปเป็นภาษีคงที่ 20% เทียบเท่ากับการซื้อขายหุ้น

การเปลี่ยนแปลงนี้มีนัยสำคัญอย่างยิ่ง เพราะจะลดแรงจูงใจที่นักลงทุนย้ายไปเทรดบนแพลตฟอร์มต่างประเทศ และดึงกิจกรรมกลับสู่ระบบภาษีภายในประเทศ ขณะเดียวกันยังช่วยให้ผู้เล่นสถาบันเริ่มมองคริปโตเป็นสินทรัพย์ที่จัดการได้ง่ายขึ้น

ธนาคาร-ประกันเตรียมขายคริปโตได้ผ่านบริษัทย่อยด้านหลักทรัพย์

FSA ยังเตรียมเปิดช่องให้สถาบันการเงินดั้งเดิมอย่างธนาคารและบริษัทประกัน สามารถเสนอสกุลเงินดิจิทัลให้ลูกค้าผ่านบริษัทย่อยด้านหลักทรัพย์ของตนได้โดยตรง

อย่างไรก็ดี การปรับปรุงเกณฑ์ครั้งนี้เป็นตัวเร่งสำคัญที่จะดึงผู้ลงทุนรายย่อยสู่ช่องทางที่ถูกกำกับชัดเจน แทนการซื้อขายผ่านแพลตฟอร์มที่อยู่ต่างประเทศหรือไม่มีใบอนุญาต ซึ่งเป็นปัญหาที่ญี่ปุ่นเผชิญมายาวนาน

โตเกียวเพิ่มมาตรการตรวจสอบบริษัทจดทะเบียนที่สะสมคริปโตหนักเกินพิกัด

การเข้มงวดไม่ได้จำกัดเฉพาะแพลตฟอร์มเทรด แต่ยังลามไปถึงตลาดทุน หลัง Bloomberg รายงานว่ากลุ่มตลาดหลักทรัพย์ญี่ปุ่น (Japan Exchange Group) กำลังพิจารณาปรับเข้มเกณฑ์ Backdoor Listing และอาจขอให้บริษัทที่หันมาถือครองคริปโตปริมาณมากเข้ารับการตรวจสอบพิเศษ

ทั้งนี้มีบริษัทจดทะเบียนอย่างน้อย 3 แห่งที่ถูก “เบรก” ไม่ให้เดินหน้าแผนซื้อคริปโตเพิ่มเติม หลังถูกเตือนว่าการกระจุกตัวในสินทรัพย์ดิจิทัลอาจทำให้ความสามารถในการระดมทุนถูกจำกัด

ผลสะเทือนต่อผู้ลงทุน "กฎชัด-ข้อมูลชัด-ช่องทางชัด" ดันตลาดสู่โหมดโปร่งใสเต็มรูปแบบ

สำหรับนักเทรดและนักลงทุนญี่ปุ่น ชุดกฎใหม่ส่งสัญญาณชัดเจนว่า

1.ตลาดมุ่งไปสู่ความโปร่งใสเทียบตลาดทุน
2.ภาษีคงที่ 20% ช่วยให้วางแผนการลงทุนง่ายขึ้น
3.การห้ามใช้ข้อมูลวงในจัดการปัญหาปั่นราคาอย่างเป็นระบบ
4.การแจกแจงข้อมูลเหรียญอย่างละเอียดทำให้ประเมินความเสี่ยงได้จริง
5.การเปิดทางให้ธนาคาร-ประกันช่วยสร้างช่องทางลงทุนที่มีมาตรฐานสูง

ทั้งหมดนี้คือก้าวสำคัญของญี่ปุ่นในการสร้างตลาดคริปโตยุคใหม่ “สะอาด-ชัดเจน-น่าเชื่อถือ” ที่ไม่เพียงสร้างสมดุลระหว่างนวัตกรรมและการคุ้มครองผู้ลงทุน แต่ยังส่งสัญญาณไปทั่วเอเชียว่ายุคของกฎเข้มที่มีเหตุผลกำลังเริ่มต้นอย่างเป็นทางการ.