ปีเตอร์ ชิฟฟ์จุดชนวนศึกครั้งใหม่ ซัดแรงถึงขั้นเรียกโมเดลธุรกิจของ MicroStrategy ว่า “ฉ้อฉล” พร้อมท้าชนไมเคิล เซย์เลอร์ต่อหน้าเวทีโลก มองกลยุทธ์ทุ่มซื้อบิตคอยน์เสี่ยงนำพาบริษัทสู่ความล่มสลายในที่สุด ขณะราคาบิทคอยน์อ่อนแรงฉุดหุ้น MSTR ร่วงหนักต่อเนื่อง
นักเศรษฐศาสตร์สายทองคำและผู้ต่อต้านบิตคอยน์ตัวฉกาจ ปีเตอร์ ชิฟฟ์ กลับมาปะทุศึกเก่าอีกครั้ง โดยยิงตรงใส่ ไมเคิล เซย์เลอร์ และโมเดลธุรกิจของ MicroStrategy (MSTR) ว่าเป็น “การฉ้อฉล” พร้อมประกาศกร้าวว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับบิทคอยน์ บริษัทนี้ก็ “มีชะตากรรมล้มละลายรออยู่”
ชิฟฟ์ออกคำท้าตรง ๆ ให้เซย์เลอร์ขึ้นดีเบตสดกันบนเวที Binance Blockchain Week ที่ดูไบในเดือนธันวาคม โดยย้ำหนักแน่นว่าเขาพร้อมพิสูจน์ว่ากลยุทธ์แบบ “Bitcoin-only” ของ MSTR ไม่ยั่งยืนทั้งทางบัญชีและทางเศรษฐกิจมหภาค
เขาย้ำซ้ำว่า “โมเดลธุรกิจของ MSTR คือการฉ้อฉลทั้งระบบ” และมองว่าการทุ่มซื้อบิทคอยน์อย่างไม่ลืมหูลืมตาจะย้อนกลับมาทำลายบริษัททันทีที่ราคาเหรียญกลับเข้าสู่ขาลงรอบใหญ่
ชิฟฟ์เคยเตือนตั้งแต่เดือนมิถุนายนว่า การไล่สะสมบิทคอยน์ของ MSTR จะดู “บ้าคลั่งและประมาท” เมื่อวัฏจักรถดถอยรอบใหม่มาเยือน พร้อมกล่าวว่าราคาเหรียญ “ไม่อาจยืนหยัดได้ในระยะยาว” และสุดท้ายบริษัทจะทรุดตามไปด้วย
นอกจากเปิดศึกกับเซย์เลอร์ ชิฟฟ์ยังได้ชวน ฉางเผิง (CZ) ผู้ก่อตั้ง Binance มาร่วมดีเบตหัวข้อ “ทองคำโทเคนไอซ์ vs บิทคอยน์ - อะไรคือเงินที่แท้จริง” ซึ่ง CZ ตอบกลับชนิดไม่ลังเลว่า “สนุกดี กำลังอยากคุย”
ทำไมชิฟฟ์เชื่อว่าโมเดลของ MSTR จะล้มเหลว
ชิฟฟ์อธิบายผ่านโพสต์บน X ว่าระบบของ MSTR พึ่งพากองทุนสายรายได้ (income-oriented funds) ที่เข้ามาซื้อหุ้นบุริมสิทธิแบบ “ผลตอบแทนสูง” แต่เขามองว่าผลตอบแทนเหล่านั้น “จะไม่มีวันถูกจ่ายจริง”
เขาระบุว่าบริษัทกำลังเดินเข้าสู่วงจร “หนี้พุ่ง-ออกหุ้นเพิ่มไม่ได้-ขาดสภาพคล่อง” หรือที่เขาเรียกว่า death spiral นอกจากนี้เขาย้ำประเด็นสำคัญว่า
1.เงินปันผลจะจ่ายก็ต่อเมื่อ MSTR ประกาศเท่านั้น
2.ไม่มีข้อบังคับให้บริษัทต้องประกาศปันผลแม้แต่น้อย
3.ไม่ประกาศก็ไม่ต้องชดเชยเงินปันผลที่ไม่ได้ประกาศ “หายไปตลอดกาล”
สำหรับชิฟฟ์ นี่คือเหตุผลชัดเจนที่เขามองว่าทั้งโมเดลธุรกิจของ MSTR ตั้งอยู่บนพื้นฐานที่ไม่มั่นคงและซ่อนความเสี่ยงเชิงโครงสร้างเอาไว้เต็มเปี่ยม
ชิฟฟ์ยังย้ำความเชื่อเดิมของเขาว่าเพดานอุปทานบิตคอยน์ 21 ล้านเหรียญเป็น “ตัวเลขไร้ค่า” และเคยเปรียบเทียบว่าบิตคอยน์ด้อยกว่าซิลเวอร์ พร้อมแนะนำให้นักลงทุนขาย BTC แล้วซื้อเงินแท่งแทน
แต่ในทางปฏิบัติ บิทคอยน์กลับสวนทางโดยเดือนกรกฎาคมราคาขึ้นแตะ 111,999 ดอลลาร์ และพุ่งต่อถึง 124,457 ดอลลาร์ ในกลางเดือนสิงหาคม ทิ้งระยะห่างซิลเวอร์แบบไม่เห็นฝุ่น
ราคาบิทคอยน์ร่วงต่อกระแทกหุ้น MSTR ดิ่งเกือบ 30%
ข้อมูลจาก Google Finance ระบุว่า หุ้น MSTR ร่วงกว่า 19% ในช่วง 5 วันที่ผ่านมา และร่วงสะสมเกือบ 30% ในรอบหนึ่งเดือน โดยผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่ามูลค่าหุ้นที่ทรุดลงมีสาเหตุโดยตรงจากราคาบิทคอยน์ที่อ่อนแรง และยิ่งซ้ำเติมด้วยข่าวการเคลื่อนย้ายบิทคอยน์จำนวนมากจากวอลเล็ตของ MSTR ไปยัง Coinbase ซึ่งทำให้ตลาดตีความว่า “อาจมีการขายต่อ”
อย่างไรก็ตามบิทคอยน์เองยังเจอแรงขายหนัก โดยดิ่งลงกว่า 10% ภายในสัปดาห์เดียว ไม่สามารถยืนเหนือระดับสำคัญที่ 95,500 ดอลลาร์ และหลุดลงไปถึง 92,890 ดอลลาร์ในวันที่ 17 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นจุดรับสำคัญที่ตลาดจับตาอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ล่าสุดตามข้อมูลจาก CoinMarketCap ระบุว่าบิทคอยน์ปรับตัวขึ้นมายืนที่ 95,384 ดอลลาร์