xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯตั้ง”เอกนิติ”นั่งประธานเจรจาภาษีทรัมป์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



“อนุทิน” นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งแต่งตั้ง “เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ” นั่งประธานคณะทำงานยุทธศาสตร์เจรจาการค้ากับสหรัฐอเมริกา ทำงานร่วมกับ 6 รัฐมนตรี เพื่อบูรณาการการทำงานขับเคลื่อนนโยบาย และสิ่งที่สหรัฐเรียกร้องหลายประเด็นเจรจาให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศไทย

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ประชุมคณะรัฐมนตรีนายกรัฐมนตรี เห็นชอบ คำสั่งนายอนุทิน ชาญวีรกุล นายกรัฐมนตรี แต่งตั้งคณะทำงานยุทธศาสตร์เจรจาการค้ากับสหรัฐอเมริกา โดยให้นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานคณะทำงานยุทธศาสตร์ ร่วมกับรัฐมนตรีจาก 6 กระทรวงหลัก ประกอบด้วย 1.นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นรองประธาน 2.นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ 3.นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ 4.ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 5. นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และ 6. นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสั่งคม

พร้อมผู้แทนหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมเป็นคณะทำงาน โดยมีอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เป็นคณะทำงานและเลขานุการ เพื่อเป็นกลไกในการขับเคลื่อนการเจรจากับสหรัฐฯ เนื่องจากหลายประเด็นมีความคาบเกี่ยวกับหลายหน่วยงานและเป็นเรื่องระดับนโยบายที่จะต้องตัดสินใจ เพื่อบูรณาการการทำงานและขับเคลื่อนในระดับนโยบาย และสิ่งที่สหรัฐฯ เรียกร้องหลายประเด็นสอดคล้องกับสิ่งที่ควรปรับปรุงอยู่แล้ว อาทิ กฎระเบียบ การบังคับใช้กฎหมาย หรือมาตรฐานสินค้า

การเจรจาภาษีการค้ากับสหรัฐฯ และการเร่งสรุป FTA กับสหภาพยุโรป เพื่อวางรากฐานทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุน ของประเทศในระยะยาว ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องเร่งดำเนินการในช่วง 4 เดือน สหรัฐฯ เป็นตลาดส่งออกอันดับหนึ่งของไทย และนโยบายภาษีของสหรัฐฯ ส่งผลกระทบในวงกว้าง รัฐบาลจึงจำเป็นต้องเร่งการเจรจาเพื่อลดภาษีให้ต่ำกว่าหรืออย่างน้อยไม่เกินระดับปัจจุบันที่ 19 % เพื่อปกป้องภาคการส่งออก เกษตร อุตสาหกรรม การจ้างงาน และเศรษฐกิจโดยรวม

“การเจรจาภาษีกับสหรัฐฯ และ FTA ไทย - EU เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภา นายกฯขอให้รัฐมนตรีทุกคนกำชับและสั่งการในเรื่องที่จำเป็นกับผู้เข้าร่วมการเจรจาในส่วนที่อยู่ในความรับผิดชอบ เพื่อช่วยกันหาทางออกให้การเจรจาสามารถจบลงได้ในเวลาอันเหมาะสม และนำมาซึ่งผลประโยชน์ในภาพรวมของประเทศ”
กำลังโหลดความคิดเห็น