ซีอีโอ “โกลด์แมน แซคส์” สวนกระแสคาดการณ์ธนาคารใหญ่ ชี้เฟดยังไม่ถึงเวลาหั่นดอกเบี้ยแรง 0.50% คาดเลือกเดินเกมค่อยเป็นค่อยไป ลดเพียง 0.25% พร้อมประเมินเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังเผชิญแรงกดดัน ตลาดแรงงานอ่อนตัว แต่ยังไม่น่ากังวลเกินไป
เดวิด โซโลมอน (David Solomon) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ โกลด์แมน แซคส์ แสดงความเห็นอย่างชัดเจนว่า ความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะลดดอกเบี้ยแรง 0.50% ในการประชุมเดือนกันยายน “แทบเป็นไปไม่ได้” แม้ก่อนหน้านี้สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดจะออกมาคาดการณ์เชิงรุกเช่นนั้นก็ตาม
“ผมไม่คิดว่าเฟดจะลดดอกเบี้ย 0.50% อย่างที่หลายฝ่ายคาดไว้ สิ่งที่เป็นไปได้มากกว่าคือการปรับลดเพียง 0.25%” โซโลมอน กล่าวในการให้สัมภาษณ์ CNBC เมื่อวันพุธที่ผ่านมา
ขณะที่ข้อมูลจาก CME FedWatch Tool ระบุว่า มีเพียง 7.8% ของนักลงทุนที่เชื่อว่าจะเกิดการหั่นดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมวันที่ 17 กันยายน ขณะที่ 92.2% ของผู้เข้าร่วมตลาดคาดว่าเฟดจะลดเพียง 0.25% สอดคล้องกับท่าทีของโกลด์แมน แซคส์
อย่างไรก็ตาม สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดเพิ่งปรับเพิ่มคาดการณ์ โดยอ้างข้อมูลการจ้างงานเดือนสิงหาคมที่อ่อนแอกว่าที่คาด ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อเฟด
ขณะที่นักลงทุนคริปโตอย่าง “Mister Crypto” แสดงความเห็นผ่านแพลตฟอร์ม X ว่า หากเฟดเลือกหั่นดอกเบี้ยแรง 0.50% จริง จะเป็นแรงกระตุ้นให้คริปโตทะลุจุดสูงสุดใหม่ในทันที
ตลาดแรงงานเริ่มอ่อนแรง แต่เฟดไม่เร่งเครื่อง
โซโลมอนยอมรับว่าตลาดแรงงานสหรัฐฯ มีสัญญาณอ่อนตัวจริง แต่ยังอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ เขามองว่า เฟดอาจเลือกลดดอกเบี้ยอีกหนึ่งถึงสองครั้งภายในปีนี้ ขึ้นอยู่กับสภาพเศรษฐกิจมหภาคที่เปลี่ยนแปลงต่อไป
“คุณอาจได้เห็นการลดดอกเบี้ยอีกหนึ่งหรือสองครั้ง หากเงื่อนไขเศรษฐกิจบังคับให้เฟดต้องขยับ” โซโลมอนระบุ
ผลสะเทือนต่อคริปโตและการลงทุน
การลดดอกเบี้ยของเฟดครั้งนี้ถือว่ามีความสำคัญต่อทั้งตลาดการเงินและตลาดคริปโต เพราะดอกเบี้ยที่ลดลงจะทำให้การลงทุนแบบดั้งเดิม เช่น พันธบัตร มีความน่าสนใจลดลงเมื่อเทียบกับสินทรัพย์เสี่ยงอย่างคริปโตและหุ้น
อย่างไรก็ตาม แพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูล Santiment เตือนว่า การพูดถึงเฟดและการลดดอกเบี้ยที่พุ่งสูงในโซเชียลมีเดียอาจสะท้อนความคาดหวังเกินจริง และกลายเป็นสัญญาณเตือนว่าตลาดกำลังเข้าสู่ภาวะ “ยูโฟเรีย” ที่อาจตามมาด้วยการปรับฐาน
สถาบันการเงินปรับท่าทีรับมือเฟด
ไม่เพียงแค่สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดที่ปรับเพิ่มคาดการณ์ดอกเบี้ย ล่าสุดนักวิเคราะห์จาก แบงก์ ออฟ อเมริกา ได้เปลี่ยนมุมมองเช่นกัน จากเดิมที่ไม่คาดเฟดจะลดดอกเบี้ยเลยในปี 2568 มาสู่การคาดการณ์ว่าจะมีการลดดอกเบี้ยสองครั้ง ครั้งแรกในเดือนกันยายน และอีกครั้งในเดือนธันวาคม
ทั้งนี้ เจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ได้ส่งสัญญาณในเวทีประชุมเศรษฐกิจประจำปีที่แจ็กสันโฮล รัฐไวโอมิง เมื่อวันที่ 22 สิงหาคมว่า การลดดอกเบี้ยในเดือนกันยายน “เป็นไปได้” ซึ่งยิ่งเพิ่มความคาดหวังของนักลงทุนทั่วโลก
ทั้งนี้ การเคลื่อนไหวของเฟดในครั้งนี้ไม่เพียงเป็นการชี้นำทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ แต่ยังเป็นแรงสั่นสะเทือนต่อตลาดโลก ทั้งตลาดหุ้น ตราสารหนี้ และคริปโต ความแตกต่างของคาดการณ์ระหว่างสถาบันการเงินชั้นนำสะท้อนความไม่แน่นอนสูง นักลงทุนจึงต้องเตรียมรับมือกับทุกความเป็นไปได้ โดยเฉพาะหากเฟดเลือกเดินเกม “แรงกว่าที่คาด” ผลสะเทือนย่อมรุนแรงกว่าที่ตลาดประเมิน