xs
xsm
sm
md
lg

จีนลอกสูตรคุมส่งออกย้อนศรอเมริกา ไพ่เด็ดแรร์เอิร์ธพลิกเกมสงครามการค้า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:


ผู้เชี่ยวชาญเชื่อจีนไม่ยอมรามือง่ายๆ แต่จะใช้แรร์เอิร์ธกดดันในสงครามการค้ากับอเมริกาต่อ
ปักกิ่งส่งสัญญาณมากว่า 15 ปีว่า กำลังคิดหาวิธีใช้ห่วงโซ่อุปทานระดับโลกเป็นอาวุธ เลียนแบบมาตรการควบคุมการส่งออกที่อเมริกาใช้มานานเพื่อล็อกเป้าสกัดความรุ่งโรจน์ของจีน

การต่อสู้ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาเพื่อให้ได้ใบอนุญาตส่งออกแรร์เอิร์ธหรือแร่ธาตุหายากจากจีน ที่ยุติลงชั่วคราวภายหลังการพูดคุยทางโทรศัพท์นาน 90 นาทีระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กับประธานาธิบดีสีจิ้นผิง เมื่อวันพฤหัสฯ (5 มิ.ย.) สะท้อนว่า สงครามการค้ารอบนี้ อาวุธของจีนมีประสิทธิภาพและแม่นยำกว่า

หลังการพูดคุยดังกล่าว ทรัมป์บอกว่า ตนและสีตกลงให้จัดเจรจาการค้ากันอีกรอบที่ลอนดอนในวันจันทร์ (9 พ.ค.) รวมทั้งได้จัดการปัญหาบางอย่างเกี่ยวกับแม่เหล็กที่มีส่วนประกอบของแรร์เอิร์ธ และในวันต่อมาเมื่อถูกผู้สื่อข่าวซักถามว่า ผู้นำจีนตกลงเริ่มการส่งออกแรร์เอิร์ธอีกครั้งหรือไม่ ทรัมป์ตอบว่า “ใช่” แต่ไม่ได้บอกว่า จีนจะอนุมัติการส่งออกเร็วแค่ไหนหรือปริมาณเท่าใด

ทว่า ในการแถลงข่าวของจีนกลับไม่ได้เอ่ยถึงแรร์เอิร์ธ แต่อ้างอิงคำพูดของสีเพียงว่า จีนปฏิบัติตามข้อตกลงสงบศึกการค้าอย่างจริงจัง

ทางด้านนักวิชาการจีนที่ให้คำแนะนำรัฐบาลชี้ว่า ปักกิ่งยังไม่พร้อมวางอาวุธนี้ และอาจใช้ห่วงโซ่อุปทานแรร์เอิร์ธบีบให้วอชิงตันผ่อนคลายมาตรการควบคุมการส่งออกที่มุ่งขัดขวางไม่ให้จีนเข้าถึงเทคโนโลยีและเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูงของอเมริกาต่อไป

อู๋ ซินปั๋ว ผู้อำนวยการศูนย์เพื่อการศึกษาอเมริกาของมหาวิทยาลัยฟู่ตั้นในเซี่ยงไฮ้ เห็นด้วยว่า แม้จีนอาจอนุมัติการส่งออกแรร์เอิร์ธให้ธุรกิจอเมริกันเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์นี้ แต่มาตรการควบคุมการส่งออกจะยังคงอยู่ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า คำขออนุญาตส่งออกใช้เวลาพิจารณาอนุมัติ 45 วันทำการ

เขาแจงว่า จีนอาจตกลงส่งออกให้อเมริกา แต่จะเร่งรัดหรือเตะถ่วงกระบวนการอนุมัติขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมด้านการค้าทวิภาคีและเศรษฐกิจโดยรวม เช่น ถ้าความสัมพันธ์กับวอชิงตันเป็นไปด้วยดี ขั้นตอนการพิจารณาอาจสั้นลง หรือหากเป็นในทางตรงข้าม อเมริกาก็ไม่อาจกล่าวหาจีนว่า ละเมิดข้อตกลงได้

จิน ชั่นหรง ศาสตราจารย์ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของมหาวิทยาลัยเหรินหมินในปักกิ่ง มองว่า การที่อเมริกากังวลออกนอกหน้าและกระตือรือร้นที่จะแก้ปัญหาตอกย้ำความสำคัญของแรร์เอิร์ธ ขณะเดียวกัน การที่วอชิงตันจำกัดการเข้าถึงชิปและเครื่องยนต์สำหรับเครื่องบิน ทำให้จีนมีเหตุผลเต็มที่ที่จะใช้ไพ่ใบนี้กดดันอเมริกาต่อ

นักวิชาการจีนบางคนแสดงความหวังว่า การจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีอาจเป็นหนึ่งในประเด็นการหารือรอบใหม่ หลังจากทรัมป์ประกาศว่า โฮเวิร์ด ลุตนิก รัฐมนตรีพาณิชย์ที่รับผิดชอบการควบคุมการส่งออก จะร่วมอยู่ในทีมเจรจาที่รวมถึงสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลัง และเจมิสัน กรีเออร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ

ทั้งนี้ ระบบใบอนุญาตส่งออกที่ลอกเลียนสูตรมาจากอเมริกาทำให้จีนมีข้อมูลเชิงลึกมากขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนเกี่ยวกับคอขวดที่ซัปพลายเออร์เผชิญตั้งแต่ด้านมอเตอร์สำหรับอีวีไปจนถึงระบบควบคุมการบินและขีปนาวุธนำวิถี

จู จิ้นเว่ย นักวิชาการของสถาบันแกรนด์วิว ซึ่งเป็นกลุ่มคลังสมองในปักกิ่งที่โฟกัสด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ชี้ว่า จีนได้แรงบันดาลใจจากการควบคุมการส่งออกในมาตรการแซงก์ชันของอเมริกา และพยายามสร้างระบบของตนเองเพื่อใช้เป็นไม้ตายสุดท้าย

เดือนเมษายนจีนตอบโต้สงครามการค้าของอเมริกาด้วยการเพิ่มแรร์เอิร์ธบางชนิดในรายชื่อสินค้าที่ผู้ส่งออกต้องขอใบอนุญาตจากรัฐบาลก่อน

โนอาห์ บาร์กิน ที่ปรึกษาอาวุโสของโรเดียม กรุ๊ป กลุ่มคลังสมองในอเมริกาที่ติดตามความเคลื่อนไหวของจีน ชี้ว่า อัตราการอนุมัติการส่งออกฟ้องชัดว่า จีนกำลังกดดันหนักเพื่อป้องกันไม่ให้อเมริกาเพิ่มดีกรีการควบคุมด้านเทคโนโลยี

ทั้งนี้ จีนครอบครองแรร์เอิร์ธถึง 70% ของทั่วโลก และผูกขาดการถลุงและแปรรูปแร่ธาตุหายากเหล่านี้

ผู้บริหารยุโรปและอเมริกาเตือนว่า แม้จีนเร่งรัดการออกใบอนุญาตส่งออกเร็วขึ้นตามที่ทรัมป์แนะนำ แต่ระบบใหม่ทำให้ปักกิ่งรับรู้อย่างง่ายดายว่า บริษัทต่างๆ ในห่วงโซ่อุปทานนำแรร์เอิร์ธที่จีนแปรรูปไปใช้อย่างไร ที่สำคัญคือ จีนไม่ได้ใช้ข้อมูลนี้เพื่อควบคุมการส่งออกแม่เหล็ก แต่ใช้เพื่อเพิ่มอิทธิพลและความได้เปรียบเหนืออเมริกา
ซุ่มวางแผนนับสิบปี

ความกังวลว่า จีนอาจใช้จุดแข็งด้านห่วงโซ่อุปทานระดับโลกเป็นอาวุธเริ่มต้นขึ้นหลังจากปักกิ่งแบนการส่งออกแรร์เอิร์ธให้ญี่ปุ่นชั่วคราวในปี 2010 หลังเกิดกรณีพิพาทด้านดินแดนกัน

ยุทธศาสตร์นี้ริเริ่มมานานหลายทศวรรษ ย้อนกลับไปเมื่อปี 1992 เติ้ง เสี่ยวผิง ผู้นำจีนในขณะนั้น ประกาศว่า “ตะวันออกกลางมีน้ำมัน ส่วนจีนมีแรร์เอิร์ธ”

กฎหมายควบคุมการส่งออกปี 2020 เพิ่มอำนาจปักกิ่งในการควบคุมสินค้าที่ส่งผลต่อความมั่นคงของชาติ ครอบคลุมสินค้าและวัตถุดิบที่มีความสำคัญต่อเทคโนโลยีและข้อมูล

นับแต่นั้นเป็นต้นมาจีนเพิ่มอำนาจการแซงก์ชัน ควบคู่กับทุ่มเงินหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อพัฒนากลยุทธ์รับมือนโยบายของอเมริกา

ปี 2022 อเมริกาสั่งจำกัดการขายอุปกรณ์และชิปขั้นสูงหลายรายการ เนื่องจากกลัวว่า จีนจะนำไปใช้เสริมสร้างแสนยานุภาพทางทหาร

ทว่า นักวิเคราะห์ชี้ว่า การเดินหมากดังกล่าวไม่อาจหยุดยั้งการพัฒนาชิปขั้นสูงและเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ของแดนมังกรได้

ซ้ำในปีต่อมา ปักกิ่งยังเอาคืนด้วยการกำหนดให้ผู้ประกอบการต้องขอใบอนุญาตส่งออกแกลเลียมและเจอร์เมเนียม ตลอดจนผลิตภัณฑ์กราไฟต์บางชนิด และห้ามส่งออกแร่ธาตุสำคัญ 2 ชนิดและเจอร์เมเนียมให้อเมริกาเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว

เดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ จีนจำกัดการส่งออกโลหะเพิ่มอีก 5 ชนิด ซึ่งมีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมการทหารและพลังงานสะอาด

ระบบใบอนุญาตที่เข้มงวดของจีนส่งผลให้ซัปพลายแรร์เอิร์ธชะงักงันทั่วโลก สร้างความปั่นป่วนในอุตสาหกรรมต่างๆ ของอเมริกาและยุโรป สัปดาห์ที่ผ่านมา ซัปพลายเออร์ยานยนต์ของยุโรปหลายแห่งหยุดการผลิตเนื่องจากขาดแคลนวัตถุดิบ

ผลสำรวจความคิดเห็นที่จัดทำโดยหอการค้าอเมริกาในจีนเมื่อปลายเดือนที่แล้วพบว่า 75% ของสมาชิกที่ได้รับผลกระทบจากการควบคุมการส่งออกแรร์เอิร์ธบอกว่า เหลือวัตถุดิบในสต็อกใช้ได้อีกแค่ 3 เดือน
กำลังโหลดความคิดเห็น