กูรู ประเมิน SET Index มิ.ย. แตะ 1,200 จุด ยังยาก ขาดเสน่ห์

โบรกเกอร์ ประเมินตลาดหุ้นเดือน มิ.ย. ยืนเหนือ 1,200 จุดยาก แนะจับตาคดีทักษิณ ชินวัตร 13 มิ.ย. นี้ อาจทำนักลงทุนชะลอลงทุนดูความชัดเจน แต่ยังหวังลุ้นเม็ดเงิน Thai ESGX ใหม่ราว 5 พันล้านบาท กลยุทธ์ช่วงนี้แนะเก็งกำไรเป็นรอบ เพิ่มน้ำหนักลงทุนหุ้นต่างประเทศมากขึ้น ปรับพอร์ตมาถือหุ้นสหรัฐฯสัดส่วน 50% และหุ้นจีนอีก 30% และ 20% แบ่งมาสะสมหุ้นไทยในช่วงที่ปรับตัวลงแรงๆ และรอขายทำกำไรช่วง SET รีบาวน์

ไอร่า มอง SET เดือน มิ.ย. ยังไม่ทะลุ 1,200 จุด

นายณรงค์เดช จันทรไพศาล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไอร่า เปิดเผยว่า SET Index หรือดัชนีหุ้นไทยเดือน มิ.ย.นี้ คาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,160 - 1,200 จุด โดยคาดว่าทั้งเดือนจะยืนลุ้นเหนือ 1,200 จุด ยาก เนื่องจากมูลค่า (Valuation) ของตลาดหุ้นไทยที่แพงกว่าหุ้นในภูมิภาคเดียวกัน ทำให้ยังเห็นการฟื้นตัวแบบจำกัด

"มีความเป็นไปได้เหมือนกันว่าช่วงเข้าใกล้วันที่ 13 มิ.ย.นี้ จะมีแรงขายในตลาดหุ้นไทยออกมาเพื่อรอดูสถานการณ์คดีของ "ทักษิณ ชินวัตร" กรณีศาลฎีกานัดไต่สวนการเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ ขณะถูกคุมขังในเรือนจำจะมีทิศทางหรือพัฒนาการเช่นไร โดยปัจจัยนี้จะรบกวนตลาดหุ้นไทยระยะสั้น เนื่องด้วยนักลงทุนส่วนใหญ่ต้องการเห็นความชัดเจน เพื่อจะประเมินกลยุทธ์อย่างถูกต้องหลังจากนั้น" นายณรงค์เดช กล่าว

ส่วนภาวะที่ตลาดหุ้นยังซึมออกข้างแบบนี้ นักลงทุนยังสามารถเก็งกำไรเป็นรอบสั้นได้ โดยแนะนำให้เข้าสะสมหุ้นเมื่อดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลงมาแถวๆ จุดที่ทำโลว์เดิม บริเวณ 1,150 - 60 จุด และเมื่อ SET Index ปรับตัวขึ้นใกล้บริเวณ 1,200 จุด จะเป็นจังหวะในการขายทำกำไร เนื่องจากเศรษฐกิจไทย และ GDP ยังไม่ถดถอย เพียงแต่ยังเติบโตต่อได้ยาก เพราะอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในประเทศยังเป็นธุรกิจแบบดั้งเดิม จึงทำให้ไม่มีเสน่ห์ที่จะไปต่อเหนือช่วงดัชนี 1,200 จุด แต่พอดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลงมาก็ยังเป็นโอกาสที่จะเข้าไปซื้อหุ้นได้อยู่

นอกจากนี้ มองว่าช่วงสัปดาห์สุดท้ายเดือน มิ.ย.นี้ ยังมีแรงหนุนเพิ่มเติมเกี่ยวกับตลาดหุ้นไทย จากการที่จะมีเม็ดเงินกองทุน Thai ESGX ใหม่ไหลเข้ามาอีกราว 5,000 ล้านบาท ซึ่งน่าจะทำให้ดัชนีหุ้นไทยในช่วงดังกล่าวสามารถดีดตัวขึ้นไปได้บ้าง

อย่างไรก็ดี รัฐบาลไทยจะต้องมีความจริงใจในการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควรเพื่อให้เกิดความสำเร็จขึ้น ต้องหาอุตสาหกรรมใหม่ ๆ ขึ้นมาแทนการท่องเที่ยว และการส่งออกที่ดูเหมือนจะอยู่ในช่วงย่ำแย่ อาจจะต้องเป็นการลงทุนเรื่องเทคโนโลยี เช่น ลงทุนควันตัมเทคโนโลยี เพื่อให้ตลาดหุ้นไทยกลับมามีเสน่ห์อีกครั้ง" ณรงค์เดช จันทรไพศาล กล่าว

ดังนั้นในช่วงที่ดัชนีหุ้นไทยไม่สามารถปรับตัวขึ้นไปไหนได้ไกล แนะนำนักลงทุนปรับพอร์ตมาถือหุ้นสหรัฐฯสัดส่วน 50% เพราะยังมีศักยภาพในการไปต่อได้สูง อีก 30% แบ่งมาถือหุ้นจีนเพราะยังมีแนวโน้มเติบโตได้ไม่ต่างจากสหรัฐฯ ส่วนอีก 20% แบ่งมาสะสมหุ้นไทยในช่วงที่ปรับตัวลงหนัก ๆ และไปขายทำกำไรในช่วงที่รีบาวน์ขึ้นมา

ASPS แนะจับตาการเมือง 13 มิ.ย. นี้ แนะเก็งกำไรเป็นรอบ

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.เอเชีย พลัส ประเมินว่า SET Index เดือน มิ.ย.นี้ จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,100 - 1,200 จุด มองตลาดหุ้นไทยเดือนถัดไปไม่น่ากังวลมากนักเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า โดยคาดดัชนีหุ้นไทยน่าจะจำกัดการปรับตัวลงจากเดือนก่อนได้ เนื่องด้วย SET Index เดือน พ.ค.นี้ ปรับตัวลงค่อนข้างแรงมาพอสมควรแล้ว

นอกจากนี้มองว่า ในช่วงเดือน มิ.ย.นี้ ยังต้องจับตาปัจจัยการเมืองในประเทศวันที่ 13 มิ.ย.นี้ หลังศาลฎีกาจะมีการนัดไต่สวน "ทักษิณ ชินวัตร" กรณีรักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ขณะถูกคุมขังในเรือนจำ จะมีคำตัดสินออกมาอย่างไร ซึ่งอาจเป็น Sentiment กดดันต่อตลาดหุ้นเล็กน้อยในช่วงดังกล่าว แต่ไม่น่าจะมีผลกระทบเชิงลบต่อตลาดหุ้นไทยอย่างมีนัยสำคัญ

"ในช่วงที่ดัชนีหุ้นไทยยังวนเวียนอยู่ในระดับ 1,100 กลาง ๆ - 1,200 จุด ถือว่า เป็นจังหวะที่นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง ยังสามารถลงทุนเก็งกำไรเป็นรอบ ๆ ได้ โดยใช้กลยุทธ์ขายทำกำไรหุ้นเมื่อช่วงดัชนีเข้าใกล้บริเวณ 1,200 จุด และเมื่อ SET Index ปรับตัวลงมาหาแนวรับเดิม ก็จะเป็นจังหวะในการทยอยเข้าสะสมหุ้นอีกครั้ง " นายเทิดศักดิ์ กล่าว