SEC ประกาศยกฟ้องไบแนนซ์เป็นการถาวร สะท้อนการล่าถอยครั้งล่าสุดจากแนวทางแข็งกร้าวในอดีต และขานรับนโยบายเป็นมิตรต่ออุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลของคณะบริหารทรัมป์ ขณะที่ไบแนนซ์ประกาศว่า ความเคลื่อนไหวนี้ถือเป็น “ชัยชนะยิ่งใหญ่สำหรับคริปโต”
คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) ไบแนนซ์ แพลตฟอร์มเทรดคริปโตแถวหน้า และฉางเผิง จ้าว ยื่นคำร้องร่วมเมื่อวันพฤหัสฯ (29 พ.ค.) เพื่อขอให้ศาลของรัฐบาลกลางในวอชิงตัน ดีซี อนุญาตให้ SEC เพิกถอนคำฟ้องที่ยื่นไว้ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2023
ข้อความในคำร้องระบุว่า ทีมเฉพาะกิจคริปโตของ SEC อาจช่วยหาทางออกให้กับคดีฟ้องร้องนี้ อีกทั้ง SEC ยังเชื่อว่า การยกฟ้องเป็นการใช้ดุลพินิจอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับนโยบายปัจจุบัน ก่อนสำทับว่า การยกฟ้องนี้จะตัดสิทธิ์ในการฟ้องร้องใหม่หรือเท่ากับเป็นการยกฟ้องถาวร
SEC และไบแนนซ์เคยยื่นขอให้หยุดการดำเนินคดีชั่วคราวในเดือนกุมภาพันธ์และเมษายน เนื่องจากคาดว่า ในท้ายที่สุดทีมเฉพาะกิจคริปโตอาจพิจารณายุติการฟ้องร้อง
ทั้งนี้ เมื่อเดือนมิถุนายน 2023 SEC ฟ้องไบแนนซ์ จ้าว และ BAM Trading บริษัทในเครือในอเมริกาของไบแนนซ์ โดยกล่าวหาว่า ละเมิดกฎหมายหลักทรัพย์ ปลอมแปลงมูลค่าการซื้อขาย จัดการเงินทุนของลูกค้าอย่างไม่เหมาะสม ให้ข้อมูลที่ทำให้ลูกค้าเข้าใจผิด ตลอดจนถึงอำนวยความสะดวกในการเทรดโทเคนที่ถือเป็นหลักทรัพย์ที่ไม่ได้จดทะเบียนภายใต้กฎหมายสหรัฐฯ
เดือนพฤศจิกายนปีเดียวกัน ไบแนนซ์และจ้าวทำข้อตกลงยอมความในอีกคดีกับกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ โดยจ่ายค่าปรับ 4,300 ล้านดอลลาร์ และยอมรับว่า บริษัทละเมิดมาตรการแซงก์ชัน และล้มเหลวในการดำเนินมาตรการป้องกันการฟอกเงินอย่างเหมาะสม
จ้าวยังลาออกจากตำแหน่งซีอีโอไบแนนซ์ รับผิดในข้อหาฟอกเงิน และถูกจำคุก 4 เดือนตั้งแต่เดือนเมษายน 2024
วันพฤหัสฯ ไบแนนซ์โพสต์บนแพลตฟอร์ม X ว่า การยื่นคำร้องร่วมครั้งนี้ถือเป็น “ชัยชนะยิ่งใหญ่สำหรับอุตสาหกรรมคริปโต” และยังช่วยให้บริษัทสามารถทุ่มเทความพยายามในการปฏิบัติตามกฎระเบียบและทำให้แพลตฟอร์มปลอดภัยยิ่งขึ้นสำหรับผู้ใช้
ไบแนนซ์ยังขอบคุณประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และพอล แอตกินส์ ประธาน SEC สำหรับการต่อต้านการกำกับดูแลด้วยการบังคับใช้กฎหมาย
ความเคลื่อนไหวนี้เป็นขั้นตอนล่าสุดของ SEC ในการกำกับดูแลอุตสาหกรรมคริปโตภายใต้คณะบริหารของทรัมป์ที่ชูแนวทางที่เป็นมิตรต่อสกุลเงินดิจิทัล หลังจากก่อนหน้านี้ SEC ได้ยุติคดีฟ้องร้องบริษัทคริปโตหลายแห่งที่ตกทอดมาจากยุคอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน
นับจากเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ SEC ยกฟ้องหรือตกลงไกล่เกลี่ยกับบริษัทคริปโตหลายแห่งที่รวมถึงคอยน์เบส คราเคน คอนเซนซิส โรบินฮูด และริปเปิล รวมทั้งยุติการสอบสวนยูนิสวอป แล็บส์
แอตกินส์ที่ได้รับแต่งตั้งจากทรัมป์ ย้ำความสำคัญในการสร้างกรอบกฎระเบียบที่ชัดเจนสำหรับอุตสาหกรรมคริปโต โดยในแถลงการณ์เมื่อวันที่ 12 พ.ค. เขาประกาศพัฒนากรอบกฎระเบียบที่จะนำไปสู่กฎกติกาที่ชัดเจนสำหรับการออก เทรด และเก็บรักษาสินทรัพย์คริปโต ควบคู่กับการป้องกันการละเมิดกฎหมาย
แนวทางดังกล่าวตรงข้ามอย่างสิ้นเชิงกับ SEC ภายใต้การบริหารของแกรี เกนสเลอร์ ระหว่างเดือนเมษายน 2021 ถึงมกราคม 2025 ซึ่งในช่วงเวลานั้นผู้ออกสินทรัพย์ดิจิทัลและแพลตฟอร์มที่นำเสนอช่องทางในการเทรดและลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลที่นอกเหนือจากบิตคอยน์ให้แก่ลูกค้าในอเมริกาเผชิญความเสี่ยงถูกร้องเรียนในข้อหาเกี่ยวกับหลักทรัพย์ที่ไม่ได้จดทะเบียนจากหน่วยงานกำกับดูแลตลาดการเงินที่แข็งกร้าวที่สุดในอเมริกาแห่งนี้
ความเคลื่อนไหวเหล่านี้ตอกย้ำว่า อเมริกาให้การยอมรับคริปโตมากขึ้น ล่าสุดในงานประชุมบิตคอยน์ 2025 ซึ่งถือเป็นงานประชุมบิตคอยน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่จัดขึ้นที่เวกัสเมื่อวันที่ 27-29 พ.ค.ที่ผ่านมา รองประธานาธิบดีเจดี แวนซ์ กล่าวว่า บิตคอยน์มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ในการรับมือกับจีน
แวนซ์ยังยกย่องจุดยืนสนับสนุนคริปโตของทรัมป์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “การเสริมสร้างความเป็นผู้นำของอเมริกาในเทคโนโลยีการเงินดิจิทัล” ซึ่งเป็นคำสั่งฝ่ายบริหารที่มีเป้าหมายในการส่งเสริมความเป็นผู้นำของประเทศในเทคโนโลยีบล็อกเชนและคริปโต ควบคู่กับการเน้นย้ำนวัตกรรมและกฎระเบียบที่ชัดเจน