จีนผ่าทางตันสงครามการค้าดุเดือดกับอเมริกาและปัญหาการบริโภคภายในประเทศซบเซา ด้วยการกลับลำครั้งใหญ่อนุญาตให้อีเพ็กซ์เปิดคอนเสิร์ตวันที่ 31 พ.ค. ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปีที่วงเค-ป็อปที่ประกอบด้วยสมาชิกเกาหลีใต้ล้วนได้ขึ้นโชว์ในจีน นอกจากนั้นยังมีข่าวว่า ดรีม คอนเสิร์ต ซึ่งเป็นมหกรรมบันเทิงรวมศิลปินของเกาหลีใต้ ปักหมุดโชว์ในสนามกีฬาความจุ 40,000 ที่นั่งในมณฑลไห่หนานปลายเดือนกันยายน
ข่าวอีเพ็กซ์เตรียมขึ้นคอนเสิร์ตที่เมืองฝูโจว มณฑลฝูเจี้ยนปลายเดือนนี้ในสถานที่จัดแสดงที่รองรับผู้ชมราว 1,000 คน กระตุ้นความคาดหวังว่า ปักกิ่งอาจยอมผ่อนปรนข้อจำกัดที่มีต่อวัฒนธรรมเค-ป็อป
สำนักข่าวยอนฮัปของเกาหลีใต้ที่เป็นผู้รายงานข่าวนี้เป็นแห่งแรก ระบุว่า ก่อนหน้านี้ศิลปินเค-ป็อปที่เป็นต่างชาติเคยปรากฏตัวในรายการทีวีจีนเป็นครั้งคราว
แม้อาจเป็นความบังเอิญ แต่จังหวะเวลาที่ข่าวนี้ออกมากลับกลายเป็นหลักฐานชัดเจนว่า จีนกำลังพยายามปรับปรุงความสัมพันธ์กับหุ้นส่วนในภูมิภาค ขณะที่ประเทศต่างๆ ต้องรับมือกับนโยบายการค้าที่เป็นปฏิปักษ์และคาดเดาไม่ได้ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เดือนที่แล้วเจ้าหน้าที่การค้าระดับสูงของเกาหลีใต้ จีน และญี่ปุ่นพบกันที่โซล ซึ่งมีการฟื้นข้อเรียกร้องในการไหลเวียนของสินค้าอย่างเป็นธรรมและเปิดกว้าง รวมทั้งการกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจแนบแน่นขึ้น
ทั้งนี้ ในปี 2016 จีนสั่งแบนเค-เวฟ (กระแสเกาหลีที่หมายถึงปรากฏการณ์การเผยแพร่วัฒนธรรมของเกาหลีใต้ไปทั่วโลก) เพื่อตอบโต้ที่เกาหลีใต้ยอมให้กองทัพสหรัฐฯ เข้าไปติดตั้งระบบป้องกันภัยขีปนาวุธ Thaad โดยก่อนบังคับใช้คำสั่งนี้ จีนเป็นหนึ่งในตลาดที่โตเร็วที่สุดของเค-ป็อป
ปักกิ่งยังห้ามกรุ๊ปทัวร์จีนไปเที่ยวเกาหลีใต้ ขณะที่ยอดขายสินค้าแดนกิมจิอย่างเช่น รถและเครื่องสำอางตกฮวบไปตามๆ กัน ล็อตเต้ กรุ๊ปต้องขายธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตและถอนตัวจากโปรเจ็กต์ธีมปาร์กที่อยู่ระหว่างการพัฒนาในจีน และอีกหลายบริษัท เช่น ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ ย้ายการผลิตจากจีนไปยังเวียดนามและประเทศอื่นๆ
ข่าวคราวเกี่ยวกับอีเพ็กซ์และดรีม คอนเสิร์ตเกิดขึ้นขณะที่ภาพยนตร์เกาหลีใต้บางเรื่องและศิลปินเค-ป็อปบางคนกลับไปร่วมกิจกรรมในจีน เช่น บางคนไปร่วมงานแฟชั่นโชว์ของราล์ฟ ลอเรนที่เซี่ยงไฮ้ โปรดิวเซอร์เกาหลีใต้ยังเริ่มพูดคุยเรื่องการส่งออกคอนเทนต์ แม้ขณะนี้รัฐบาลจีนยังไม่อนุญาตให้ฉายซีรี่ส์เกาหลีอย่างเป็นทางการก็ตาม
โอจีวู นักวิเคราะห์ของซีจีเอส อินเตอร์เนชันแนล ซีเคียวริตี้ส์ ฮ่องกง ชี้ว่า การกลับลำ 360 องศาเกี่ยวกับเค-ป็อปสะท้อนจุดเปลี่ยนสำคัญอันเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ของจีนในการกระตุ้นดีมานด์ภายในประเทศที่ซบเซามานาน พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า การบริโภคที่คิดเป็นองค์ประกอบเกือบ 70% ของการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ของจีนในปี 2018 กลับลดเหลือต่ำกว่า 30% ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ และการขยายตัวของดัชนีราคาผู้บริโภคเคลื่อนไหวอยู่ใกล้ 0
โอเสริมว่า รัฐบาลจีนพยายามแก้ปัญหาด้วยการส่งเสริมกิจกรรมทางวัฒนธรรม ซึ่งรวมถึงคอนเสิร์ตศิลปินต่างชาติ เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยว บริการต้อนรับ และการค้าในท้องถิ่น
นักวิเคราะห์ของซีจีเอสผู้นี้ยังระบุว่า จีนเป็นตลาดส่งออกอัลบั้มเพลงอันดับ 3 ของเกาหลีใต้ รองจากญี่ปุ่นและอเมริกา และเป็นตลาดเพลงใหญ่อันดับ 2 ในเอเชีย ซึ่งตอกย้ำความสำคัญเชิงกลยุทธ์แม้จีนสั่งแบนเค-ป็อปตลอดหลายปีที่ผ่านมาก็ตาม
การผ่อนคลายท่าทีต่อเค-ป็อปยังมีมิติทางการทูตที่นอกเหนือไปจากการกระตุ้นการบริโภคภายใน อีกทั้งยังเกิดขึ้นขณะที่จีนสั่งจำกัดคอนเทนต์ตะวันตกชั่วคราว ซึ่งรวมถึงหนังฮอลลีวูด
จอห์น วู และอลิเซีย ยัป นักวิเคราะห์ของซิตี้ ระบุในบันทึกเมื่อวันที่ 4 เม.ย. ว่า จีนอาจฟื้นความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านที่รวมถึงเกาหลีใต้ เพื่อหาทางรับมือความท้าทายทางเศรษฐกิจของตนเอง โดยเริ่มจากการทูตเชิงวัฒนธรรมที่อาจนำไปสู่การผ่อนคลายการแบนคอนเทนต์เกาหลีใต้อย่างไม่เป็นทางการ
จีอินแฮ นักวิเคราะห์ของชินฮัน ซีเคียวริตี้ส์ คาดการณ์คล้ายกันว่า ถ้าจีนอนุญาตให้เค-ป็อปเปิดคอนเสิร์ตในฮอลล์ขนาดใหญ่ รวมทั้งอนุญาตให้ฉายซี่รี่ส์ใหม่ๆ ของเกาหลีใต้พร้อมกัน จะถือเป็นสัญญาณรูปธรรมว่า ปักกิ่งอาจยอมผ่อนคลายกฎเหล็กที่เคยกีดกันเค-ป็อป
โจชัว คิม นักวิเคราะห์ของซีจีเอส ตั้งข้อสังเกตว่า ตลาดคอนเสิร์ตจีนมีมูลค่าเพิ่มขึ้นจาก 2,900 ล้านดอลลาร์ในปี 2019 เป็น 8,000 ล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว หรือขยายตัวถึง 189% เขายังคาดว่า ถ้าเลิกแบนศิลปินเกาหลีใต้ จีนอาจมีรายได้จากคอนเสิร์ตเพิ่มขึ้นกว่า 25% ในปีนี้