xs
xsm
sm
md
lg

“วรวงศ์”โชว์ผลสำเร็จเยือนแอฟริกาใต้ ขายข้าวบิ๊กล็อต ลุ้นปีนี้ทำยอดรวมแตะ 9 แสนตัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



“วรวงศ์”โชว์ผลสำเร็จนำคณะผู้แทนการค้าภาครัฐและเอกชนไทย เดินทางเยือนแอฟริกาใต้ เผยเจรจาเปิดทางให้สินค้ามะม่วงไทย หลังแอฟริกาใต้สนใจซื้อมังคุด มะม่วง ผลักดันเร่งเจรจา FTA ไทย-แอฟริกาใต้ และไทย-SACU จัดโปรโมตสินค้าไทยในห้างดัง ลงนามซื้อขายข้าว 4 แสนตัน มูลค่า 7.3 พันล้าน มอบรางวัลให้ผู้นำเข้าที่เป็นพันธมิตรซื้อขายข้าวไทย 8 ราย ประชาสัมพันธ์ตรา Thai SELECT และถก Wesgro หน่วยงานส่งเสริมการท่องเที่ยว การค้า การลงทุน ขยายความร่วมมือระหว่างกัน

นายวรวงศ์ รามางกูร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการเดินทางเยือนสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ ตามที่ได้รับมอบหมายจากนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ว่า การเดินทางไปครั้งนี้ ตนได้เป็นหัวหน้าคณะ มีนายคุณากร ปรีชาชนะชัย ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ร่วมกันนำคณะผู้ส่งออกข้าวไทยเดินทางไปเจรจาการค้า ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก และเป็นไปตามเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้


โดยได้มีโอกาสพบปะหารือกับ น.ส.โรสแมรี่ โนคูโซลา คาปา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตร ป่าไม้และการประมงของแอฟริกาใต้ มีการแลกเปลี่ยนข้อมูล ความรู้ และประสบการณ์ด้านการค้า การลงทุน การขนส่ง และคุณภาพมาตรฐานสินค้าเกษตรระหว่างกัน โดยเฉพาะสินค้าข้าวที่ไทยครองส่วนแบ่งตลาดข้าวในแอฟริกาใต้กว่าร้อยละ 70 และสินค้าปศุสัตว์อย่างเนื้อวัวและนกกระจอกเทศ ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกสำคัญอันดับต้นของแอฟริกาใต้ และสินค้าผลไม้ ซึ่งปัจจุบันแอฟริกาใต้ได้เริ่มส่งออกสินค้าผลไม้เมืองหนาวอย่างแอปเปิ้ลมายังไทย และสนใจนำเข้ามังคุดและลำไยของไทยตนจึงได้ขอให้ฝ่ายแอฟริกาใต้สนับสนุนนำเข้ามะม่วงไทย ซึ่งฝ่ายแอฟริกาใต้ก็ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก

นอกจากนี้ ยังได้หารือว่าจะขยายเวทีการเจรจาการค้า การลงทุนและความร่วมมือทางเศรษฐกิจ โดยจะยกระดับการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (JTC) จากระดับเจ้าหน้าที่เป็นระดับรัฐมนตรี และเร่งรัดการเจรจาความตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย-แอฟริกาใต้ให้มีความคืบหน้าโดยเร็ว ควบคู่กับ FTA ระหว่างไทยกับสหภาพศุลกากรแอฟริกาตอนใต้ (SACU) ซึ่งประกอบด้วย 5 ประเทศ ได้แก่ บอตสวานา เลโซโท นามิเบีย เอสวาตินี และสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา


ขณะเดียวกัน ได้เป็นประธานการเปิดกิจกรรมส่งเสริมการขายสินค้าไทย ที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต ฟู้ด เลิฟเวอร์ มาร์เก็ต (Food Lover’s Market) สาขา Castle Gate กรุงพริทอเรีย เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อสินค้าไทยและกระตุ้นให้มีการบริโภคสินค้าไทยเพิ่มขึ้น จัดโดยสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงพริทอเรีย


นายวรวงศ์กล่าวว่า ได้มีการประชุมหารือกับผู้ส่งออกข้าวไทยและบริษัทผู้นำเข้าข้าวรายใหญ่ของแอฟริกาใต้ เพื่อรับฟังปัญหา อุปสรรคการค้าข้าว และแนวทางการส่งเสริมการค้าข้าวระหว่างกัน และเป็นประธานการเปิดงาน Thailand Ultimate Friendship ซึ่งในงานได้มอบรางวัล Thailand Ultimate Friendship Award 2025 แก่ผู้นำเข้าข้าวแอฟริกาใต้รายสำคัญจำนวน 8 บริษัท ในฐานะที่เป็นพันธมิตรทางการค้าข้าวที่ดีของไทยมาอย่างยาวนาน และยังได้เป็นสักขีพยานการลงนามความบันทึกข้อตกลง (MOU) ซื้อขายข้าวระหว่างผู้ส่งออกข้าวไทยกับบริษัทผู้นำเข้าข้าวแอฟริกาใต้รายใหญ่ ซึ่งปริมาณการซื้อขายข้าวจากการลงนาม MOU ในครั้งนี้อยู่ที่ 400,000 ตัน สร้างรายได้ให้แก่ประเทศ ประมาณ 7,300 ล้านบาท รวมทั้งได้มอบเกียรติบัตร Thai SELECT ให้แก่ร้านอาหารไทยในแอฟริกาใต้ ซึ่งจำหน่ายอาหารไทยรสชาติไทยแท้


ขณะเดียวกัน ตนและคณะผู้แทนการค้าภาครัฐ ได้มีโอกาสพบกับ น.ส.Wrenelle Stander ผู้บริหารสูงสุด (Chief Executive Officer: CEO) ของ The Western Cape Tourism Tradeand Investment Promotion Agency (Wesgro) ซึ่งเป็นหน่วยงานส่งเสริมการท่องเที่ยว การค้า การลงทุนสำหรับเมืองเคปทาวน์และเวสเทิร์นเคป โดยมีการหารือเกี่ยวกับแนวทางการส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างกัน ปัจจุบัน Wesgro ได้ให้ความสำคัญกับประเทศในภูมิภาคอาเซียนเพิ่มมากขึ้น โดยในปี 2568 Wesgro มีแผนเข้าร่วมงานแสดงสินค้าและอาหารนานาชาติของประเทศในภูมิภาคอาเซียน ตลอดจนอยู่ระหว่างวางแผนการขยายเส้นทางการบินตรง และการเป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมประจำปีในลักษณะเดียวกับการประชุมกับสหภาพยุโรปอย่างการประชุม The annual European Union (EU) Trade and Investment Breakfast ทั้งนี้ ตนได้ขอบคุณ Wesgro ที่ให้ความสำคัญกับภูมิภาคอาเซียน และขอให้ช่วยเร่งรัดการเจรจา FTA ไทย–แอฟริกาใต้ ให้สำเร็จภายในปีนี้อีกทางหนึ่งด้วย ซึ่ง FTA ดังกล่าวจะเป็นประโยชน์สำหรับทั้งสองประเทศเนื่องจากไทยและแอฟริกาใต้มีนโยบายประเด็นด้านเศรษฐกิจในประเทศที่คล้ายคลึงกัน อาทิ นโยบายการแก้ไขความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ การสร้างความเติบโตทางเศรษฐกิจภายในประเทศ และการเพิ่มโอกาสด้านการค้าและการลงทุน

นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2563–2567 ไทยส่งออกข้าวไปแอฟริกาใต้เฉลี่ยปีละ 793,902 ตัน โดยในปี 2567 ไทยส่งออกข้าวไปแอฟริกาใต้ปริมาณ 833,184 ตัน ลดลงจากปี 2566 ที่ส่งออกปริมาณ 885,117 ตัน หรือลดลงร้อยละ 5.87 โดยส่วนใหญ่ส่งออกข้าวนึ่ง ร้อยละ 92.95 ข้าวขาว ร้อยละ 5.36 และข้าวหอมไทย ร้อยละ 0.87 ทั้งนี้ ในช่วง 2 เดือน ปี 2568 (ม.ค.-ก.พ.) ไทยส่งออกข้าวไปแอฟริกาใต้แล้วปริมาณ 98,943 ตัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 60 ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มทยอยซื้อข้าวเพื่อเตรียมการส่งมอบ ดังนั้น การจัดกิจกรรมต่าง ๆ ในช่วงการเดินทางเยือนแอฟริกาใต้ในครั้งนี้ จะช่วยให้สถานการณ์การค้าข้าวระหว่างไทยและแอฟริกาใต้ในปี 2568 เป็นไปด้วยดี มีคำสั่งซื้อข้าวไทยจากแอฟริกาใต้อย่างต่อเนื่อง คาดว่า จะส่งออกได้ไม่ต่ำกว่า 9 แสนตัน และจะส่งผลต่อปริมาณการส่งออกข้าวไทยในภาพรวมเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ที่ปริมาณ 7.5 ล้านตัน




กำลังโหลดความคิดเห็น