หุ้น PTT ร่วงต่ำสุดในรอบ 5 ปี ขณะที่โบรกฯ มองบริษัทอาจได้รับรับผลกระทบเชิงลบจากนโยบายราคาก๊าซแบบ 2 อัตรา และอาจเห็นปริมาณขายก๊าซที่ลดลง ขณะที่ยังเดินหน้าหาพันธมิตรเข้าถือหุ้นธุรกิจกลุ่มปิโตรเคมีและโรงกลั่นตามแผนปรับโครงสร้าง แนะนำทั้งซื้อ Neutral และขาย โดยมีราคาเป้าหมาย ระหว่าง 30-40 บาท แต่ยังเหมาะเป็นหุ้นปันผลระยะยาว คาด yield ปีนี้ 4-6%
ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวราคาหุ้น บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เมื่อวานนี้ (11 ก.พ.) ปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี จากราคาต่ำสุดเมื่อวันที่ 23 มี.ค. 63 ที่ 26.50 บาท โดยช่วงเช้าราคาลดลงไปกว่า 3% อยู่ที่ 27 บาท
ทั้งนี้ PTT ประกาศจ่ายปันผลประจำปี 67 อัตรา 2.10 บาท/หุ้น จ่ายปันผลระหว่างกาลแล้ว 0.80 บาท/หุ้น คงเหลือจ่ายอีก 1.30 บาท/หุ้น โดยหุ้นขึ้น XD ไปแล้วเมื่อวันที่ 6 มี.ค.68 และกำหนดจ่ายเงินวันที่ 29 เม.ย.68
ขณะที่ผลประกอบการปี 67 มีกำไรสุทธิ 90,072 ล้านบาท ลดลง 21,952ล้านบาท หรือ19.6% จากปี 66 ที่มีกำไร 112,024ล้านบาท จาก EBITDA ที่ลดลงลดลงจํานวน 30,661 ล้านบาท หรือ 7.2% จากปี 66 ที่จํานวน 426,895 ล้านบาท จากกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น ประกอบกับค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจําหน่ายที่เพิ่มขึ้น และกําไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ลดลง
CGSI ชี้ ได้รับผลกระทบเชิงลบจากนโยบายราคาก๊าซ แนะขาย
ส่วนบล.ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) ประเมินว่า บริษัทอาจะได้รับผลกระทบเชิงลบจากนโยบายราคาก๊าซแบบสองอัตรา (Two tier gas pricing) หรือการขอสนับสนุนเงินอุดหนุนจากรัฐบาล เพื่อลดค่าไฟฟ้าในครัวเรือน ภายใต้นโยบายนี้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ก๊าซที่จำหน่ายให้แก่ผู้ใช้ภาคอุตสาหกรรมคิดเป็น 15% ของความต้องการก๊าซ โดยผู้ใช้ต้องนำเข้าจาก pool เพื่อสงวนปริมาณก๊าซในประเทศ (ซึ่งมีราคาถูกกว่าก๊าซ LNG นำเข้า) ไว้ให้กับผู้ผลิตไฟฟ้า ซึ่งจะส่งผลให้อัตราค่าไฟฟ้าครัวเรือนลดลง (สูงสุด 4.15บาท/หน่วย)
เชื่อว่า PTT อาจเห็นปริมาณขายก๊าซที่ลดลง หากผู้ใช้อุตสาหกรรมเปลี่ยนไปใช้ก๊าซ LNG แทน อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่าการกำหนดราคาก๊าซแบบสองอัตรา จะถูกคัดค้านจากผู้ใช้อุตสาหกรรม คล้ายกับตอนที่มีการนำค่าไฟฟ้าแบบสองอัตรามาใช้ในปี 2022 เรายังแนะนำ “ขาย” ราคาเป้าหมาย 30.0 บาท
ฟิลลิป- กรุงศรี แนะนำซื้อ-Neutral ให้เป้า 32.50 และ 40 บ.
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ จาก บล.ฟิลลิป ระบุว่า กลยุทธ์การเติบโตของ PTT จะเน้นธุรกิจหลักหรือธุรกิจพลังงาน ซึ่งการขยายธุรกิจใหม่จะค่อนข้าง conservative มากขึ้น สำหรับประเด็นเรื่องการปรับโครงสร้างการถือหุ้นในกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและโรงกลั่น จะเน้นที่การหาพันธมิตรเข้ามาเสริมความสามารถของแต่ละบริษัทในกลุ่ม
ทั้งนี้สำหรับมุมมองการลงทุน ทางฝ่ายยังแนะนำ“ซื้อ” ราคาพื้นฐาน 40.00 บาท สำหรับเป็นหุ้นปันผลระยะยาว โดยคาด yield ปี 68 ที่ 4-6%
ด้าน บล.กรุงศรี คงคำแนะนำ Neutral ต่อ PTT ที่ TP25F = 32.50 บาท/หุ้น ระยะสั้นมีแรงหนุนจากปันผล 2H24 ราว 1.3 บาท/หุ้น (yield 4% ขึ้น XD6/3/2025) แต่ภาพปี 2025F ยังขาด catalyst (การฟื้นของธุรกิจก๊าซฯถูกดึงลงจากกำไรที่ลดลงของบ.ลูก) รวมถึงยังมี overhang ความเสี่ยงด้านกฏเกณฑ์ ซึ่งการเจรจากับภาครัฐยังมีความไม่แน่นอน ทั้งนี้จากข้อมูลที่ประชุมนักวิเคราะห์แผนกลยุทธ์ของบริษัทยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ