LTF..."พิชัย" ไข่แล้วทิ้ง / สุนันท์ ศรีจันทรา

การประกาศฟื้นฟูกองทุนหุ้นระยะยาว หรือ LTF เป็นข่าวดีชิ้นใหญ่ที่ปลุกบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นให้กลับขึ้นมาสู่ความคึกคัก แต่ความสดใสกลับมาเยือนเพียงระยะสั้น หรือเกิดขึ้นเพียงวันเดียวเท่านั้น เพราะตลาดหุ้นกลับสู่ความตกต่ำซบเซาอีกครั้ง

นายพิชัย ชุณหวชิร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งจุดข่าว LTF แต่ไม่มีการสานต่อการแปลง LTF เป็นกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน หรือ TESG แต่อย่างใด ส่งผลให้แรงขายของ LTF ยังไหลทะลักเข้าสู่ความหุ้น จนดัชนีปักหัวลงรอบใหม่

ตลาดหุ้นรอบนี้เคยสร้างจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,252 จุด เพราะนักลงทุนที่ถือหน่วยลงทุนกองทุน LTF ที่ครบกำหนดขายคืนทยอยขายหน่วยลงทุนออกมานับตั้งแต่ต้นปี จนหุ้นดิ่งลงทุกวัน ทั้งที่ไม่มีปัจจัยลบใหม่กระทบ

มีเพียงตลาดหุ้นไทยเท่านั้นที่ตกต่ำ และเป็นตลาดหุ้นที่ผลตอบแทนย่ำแย่ที่สุดในโลกนับจากต้นปี 2568

การประกาศแปลง LTF เป็น TESG โดยผู้ถือหน่วยลงทุน LTF จะได้รับสิทธิลดหย่อนภาษี ซึ่งเป็นแรงจูงใจสำคัญ และจะช่วยยับยั้งแรงขายจาก LTF ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่กดหุ้นจนดิ่งจมเหว กลายเป็นปัจจัยบวกที่กระตุ้นให้ตลาดหุ้นดีดตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบหลายวัน

ดัชนีเมื่อวันอังคารที่ 11 กุมภาพันธ์ ทะยานขึ้น 13.48 จุด ขยับขึ้นมาปิดที่ 1,286.97 จุด ตอบรับข่าวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เตรียมออกมาตรการแปลง LTF เป็น TESG เพื่อเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุน ซึ่งได้ผลทันตาเห็น

แต่มาตรการของนายพิชัย เห็นผลเพียงแค่วันเดียวเท่านั้น เพราะหลังจากนั้นเริ่มซบเซา และทรุดลงต่อ โดยวันศุกร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ ดัชนีดิ่งลงมาปิดที่ 1,272.10 จุด ลดลง 12.01 จุด นักลงทุนสภาบันถล่มขาย 4,705 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าเป็นแรงขายจาก LTF

หุ้นมีแนวโน้มที่จะซึมลงต่อ จนอาจถอยลงไปแตะระดับ 1,250 จุด

เดือนมกราคมที่ผ่านมา คาดว่ามีการขาย LTF ออกมาประมาณ 18,000 ล้านบาท และยังเหลือเงิน LTF ที่อยู่ในข่ายขายคืนหน่วยลงทุนอีกประมาณ 2 แสนล้านบาท

การที่นักลงทุนที่ถือ LTF และขายหน่วยลงทุนทิ้ง เพราะมองว่าแนวโน้มตลาดห้นอยู่ในช่วงขาลง ถ้าไม่รีบขาย LTF หุ้นจะลงไปเรื่อยๆ ทำให้ได้รับความเสียหายหรือขาดทุนมากขึ้น

มาตรการแปลงสภาพ LTF เป็น TESG โดยผู้ถือหน่วยลงทุนจะได้รับสิทธิการลดหย่อนภาษีในรอบที่สอง ถือเป็นทางเลือกที่ดี เพราะราคาหุ้นต่ำเตี้ยมาก ผู้ถือหุ้นหน่วยลงทุนไม่อยากขายคืนหน่วยลงทุน LTF มากนัก แต่เพราะความกลัวหุ้นจะตกต่ำไปเรื่อยๆ จึงตัดสินใจขายทิ้ง

เมื่อมีข้อเสนอจูงใจในสิทธิลดหย่อนภาษี ผู้ถือ LTF อาจเปลี่ยนใจ หยุดขาย LTF ซึ่งจะทำให้ตลาดหุ้นหมดแรงกดดันจาก LTF และฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้

แต่การแปลงสภาพ LTF กลับไม่มีความคืบหน้าใด และไม่มีใครรู้ว่า นายพิชัยไปมุดหัวอยู่ที่ไหน

เพราะหลังจากปลุกข่าวฟื้น LTF ขึ้นมาใหม่ จนตลาดหุ้นดีดตัวขานรับ นายพิชัยกลับเงียบหาย ไม่พูดถึงแผนฟื้น LTF ไม่เดินหน้าสะสางให้เกิดการแปลงสภาพ LTF อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งที่มาตรการกระตุ้นตลาดหุ้น นายพิชัยเดินมาถูกทางแล้ว

วันนี้การแปลง LTF ควรจะคืบหน้า โดยนายพิชัยควรต้องกระฉับกระเฉง เรียกประชุมด่วนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณารายละเอียดและขั้นตอนการแปลงสภาพ LTF เป็น TESG เพื่อให้นักลงทุนมั่นใจว่า นายพิชัยจะแปลง LTF จริง ไม่ได้พูดไปเรื่อย หรือไข่ทิ้งขว้าง โดยไม่ทำจริง

ความไม่คืบหน้าในการแปลง LTF ผลที่ตามมาคือ แรงขาย LTF ไหลทะลักกลับเข้ามาในตลาดหุ้นอีกครั้ง โดยเฉพาะวันที่ 13 และ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งกดหุ้นทรุดหนักรอบใหม่

ไม่เข้าใจว่า นายพิชัยทำอะไรอยู่ คิดอะไรอยู่ ทำไม่สานต่อการแปลง LTF ให้จบ

จะประกาศมาตรการกระตุ้นตลาดหุ้นขึ้นมาทำไม เมื่อประกาศแล้วไม่รีบสานต่อให้เสร็จๆไป

หรือนายพิชัยจะเล่นบท “ผี” เที่ยวหลอกให้นักลงทุนดีใจ แต่ไม่ตั้งใจทำงานจริงๆ ไม่มีความรู้สึกเห็นอกเห็นใจนักลงทุนที่กำลังจะตายกันหมดตลาดหุ้นแล้ว