xs
xsm
sm
md
lg

กูรูแนะลงทุนหุ้น 2 ธีมหลัก หลบภัย SET ขาดความเชื่อมั่น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



เอเซียพลัส เผยหากความเชื่อมั่นไม่กลับ ตลาดหุ้นยังยากจะฟื้น พร้อมเปิดโผหุ้น 2 ธีมหลัก 5 กลุ่มอุตฯ และ 22 หลักทรัพย์ หลบภัยช่วงตลาดหุ้นขาดความเชื่อมั่น พร้อมแนะถอยตั้งหลัก ถือเงินสด 40-50% ของพอร์ต รอ SET Index ฟื้นแล้วทยอยเพิ่มน้ำหนักลงทุนอีกครั้ง ด้านนายกสมาคมบลจ. รับหุ้นไทยดิ่งหนักจากแรงขาย LTF ที่ครบกำหนด ล่าสุดพบขายออกมาแล้ว 1.8 หมื่นล้านบาท ยังเหลือคงค้างอีกประมาณ 2 แสนล้านบาท

ฝ่ายวิจัย บล.เอเซียพลัส เปิดเผยว่า ในช่วงนี้ที่ SET ยังขาดความเชื่อมั่น ให้เน้นหุ้นที่ได้ SENTIMENT บวกจาก 2THEME หลัก คือ อัตราดอกเบี้ยลดลง (ในอนาคต) + อัตราเงินเฟ้อไทยขยายตัว เช่น
 
- กลุ่มเช่าซื้อ : MTC, TIDLOR, SAWAD, JMT
- กลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็ก : KKP, TISCO
- กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ : SPALI, LH , AP, ORI, SC
- กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม : OSP, CBG, ICHI, CPF, TU, CPAXT
- กลุ่มพลังงาน-โรงกลั่น : PTTEP, TOP, BSRC, SPRC, BCP

ทั้งนี้แนะนำ กลยุทธ์ยาม SET INDEX ผันผวนหนัก แนะนำถอยมาเตรียมตัว โดยถือเงินสด 40-50% ของพอร์ต รอดัชนีย่อตัวลงมาจนความผันผวนเริ่มลดน้อยลง (เฉลี่ยๆ ลบไม่เกิน 5 จุดต่อวัน) หรือฟื้นกลับไปยืนบริเวณ 1,270-1,290 จุด ค่อยทยอยเริ่มเพิ่มน้ำหนักการลงทุนกลับเข้าไปในพอร์ตหุ้นไทยอีกครั้ง

ประเมินความเชื่อมั่นไม่กลับ SET INDEX ก็ไม่กลับ

บล.เอเซียพลัส ระบุว่า SET INDEX เมื่อวันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา ปรับลดลงแรงต่อเนื่อง มองว่าเป็นผลมาจากหลายเหตุปัจจัยกดดันที่เกิดขึ้นสะสมในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ระดับความเชื่อมั่นของนักลงทุนลดระดับลงต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนผ่านมูลค่าการซื้อขายที่ลดต่ำลง และหากยังไม่เห็นเม็ดเงินใหม่เข้ามา หรือปัจจัยที่จะเป็นแรงผลักดันใหม่ๆ ดูแล้วคงไม่ใช่เรื่องง่ายที่ SET INDEX จะปรับตัวกลับขึ้นมาได้

ส่วนปัจจัยแวดล้อมเช้านี้ในต่างประเทศยังเป็นความกังวลเรื่อง TRADE WAR ต่อเนื่อง แต่มีการปรับลดดอกเบี้ยของ BOE 0.25% มาอยู่ที่ 4.50% มาเป็นแรงหนุนเล็กน้อย

ส่วนในประเทศไทย มีรายงานเงินเฟ้อเดือน ม.ค.68 อยู่ที่ 1.32% YOY สูงกว่าคาดเล็กน้อย ตัวเลขเงินเฟ้อดังกล่าวทำให้ REAL INTEREST RATE ของบ้านเราลงมาอยู่ที่ 0.93% และหากปรากฏสัญญาณว่าเงินเฟ้อยังอยู่ระดับสูง อาจทำให้ดอกเบี้ยในไทยลงยาก SET INDEX ปรับลดลงมาแรงต่อเนื่อง สะท้อนภาพความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ลดต่ำลง

นอกจากนี้ ความเปราะบางของตลาดหุ้นไทยส่วนหนึ่งเกิดจากมูลค่าซื้อขายที่หล่อเลี้ยงตลาดลดน้อยลง ปี 2025 นี้ เหลือ 3.9 หมื่นล้านบาทต่อวัน (ปี 2024 4.49 หมื่นล้านบาทต่อวัน ปี 2023 5.07 หมื่นล้านบาทต่อวัน ปี 2022 7.01 หมื่นล้านบาทต่อวัน) ส่งผลให้เวลาถูกปัจจัยภายต่างๆ มากระทบก็กดดันให้หุ้นลงลึกกว่าปกติได

ระบุหุ้นไทยลงหนักเป็นอันดับ 1 ของโลก

จากข้อมูลของ BLOOMBERG ระบุว่า ปีนี้ตลาดหุ้นไทยยังคงลงหนักเป็นอันดับ 1 ของโลก -9.87% ลดลงทิ้งห่างอันดับ 2 อย่างตลาดหุ้นคูเวต -5.25% และลงแรงกว่าภาพรวมตลาดหุ้นโลก (MSCI ACWIINDEX) อย่างมาก +4%

สมาคม บลจ. รับ LTF ถล่มขายหุ้นไทย 1.8 หมื่นล้านบาท

นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) และในฐานะนายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) กล่าวว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยที่ลดลงอย่างหนักตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ว่า ส่วนหนึ่งเป็นผลจากแรงเทขายกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ที่ครบกำหนดพร้อมขายในปีนี้ ส่งผลให้มีแรงขายออกมาอย่างหนักตั้งแต่ต้นปี

นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันพบว่า มีแรงขายจากกองทุน LTF ออกมาประมาณ 18,000 ล้านบาท และยังมีเม็ดเงินส่วนที่เหลืออีกประมาณ 200,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือน ก.พ. ที่ผ่านมาเริ่มเห็นแรงขายเบาบางลงเมื่อเทียบกับเดือน ม.ค. แต่ยังต้องติดตามต่อเพราะยังเป็นแค่ช่วงต้นปี