xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นยุค "อุ๊งอิ๊ง" ทรุดแล้วกว่า 200 จุด / สุนันท์ ศรีจันทรา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



หลังจากได้รับการโปรดเกล้าฯ รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2567 ตลาดหุ้นดูเหมือนจะตอบรับในเชิงบวก โดยดัชนีปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง จนแตะระดับสูงสุดในรอบปีที่ 1,506 จุด

แต่ปฏิกิริยาตอบรับในเชิงบวกเกิดขึ้นเพียงช่วงสั้นๆ เท่านั้น เพราะเมื่อทะลุสร้างจุดสูงสุด 1,506 จุด หุ้นก็เปลี่ยนทิศทางกลับสู่ขาลงเต็มตัว และปิดสิ้นปี 2567 ที่ระดับ 1,400.21 จุด

เปิดศักราชใหม่ ประเดิมซื้อขายหุ้นวันแรกเมื่อวันที่ 2 มกราคม 2568 แม้ตลาดหุ้นจะเขียวสดใส แต่ก็ดูดีแค่วันเดียว ก่อนจะถูกเทขาย จนดัชนีปักหัวลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงเทศกาลตรุษจีน หุ้นตกหนัก

และประเดิมการซื้อขายหุ้นวันแรกของเดือนกุมภาพันธ์ เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นแทบถล่มทลาย เพราะดัชนีปักหัวลงทันทีที่เปิดตลาด โดยระหว่างชั่วโมงซื้อขายดิ่งลงประมาณ 44 จุด หลุดระดับ 1,300 จุด โดยลงไปต่ำสุดที่ระดับ 1,270 จุด ก่อนมีแรงซื้อไล่ราคาขึ้นมา จนระดับดัชนีดีดตัวขึ้น และปิดตลาดที่ 1,304.39 จุด ลดลง 10.11 จุด

แม้ดัชนีจะตีตื้นขึ้นมายืนเหนือ 1,300 จุด แต่ไม่ได้หมายความว่าหุ้นจะไม่ถอยหลังลงไปต่ำกว่า 1,300 จุดอีก เพราะยังมีปัจจัยลบกดดันทั้งจากภายในและภายนอก

การประกาศสงครามการค้าของประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ โดยขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกในอัตรา 25% และขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีน 10% รับการตอบโต้ทันควัน ชนิดตาต่อตาจากประเทศคู้ค้าที่ถูกเรียกเก็บภาษีเพิ่ม

สงครามการค้าเปิดฉากอย่างเป็นทางการ ซึ่งไม่อาจประเมินผลกระทบว่า จะลุกลามบานปลายไปขนาดไหน และทำให้นักลงทุนทั่วโลกเกิดความวิตกกังวล จนเกิดการเทขายหุ้นเพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดหุ้น

ดัชนีหุ้นไทยที่ปรับตัวลงมาระดับ 1,350 จุด ถือว่าต่ำมากแล้ว แต่เมื่อถูกข่าวร้ายสงครามการค้าซ้ำเติม จึงถูกถล่มขายอีกระลอก

ช่วงเวลาที่ตลาดหุ้นทั่วโลกสดใส ตลาดหุ้นไทยไม่ตอบรับ ดัชนีไม่ได้ดีดตัวตาม แต่เมื่อตลาดหุ้นทั่วโลกผันผวน ทรุดตัวลง ตลาดหุ้นไทยกลับหัวทิ่มหัวตำตาม

แนวโน้มตลาดหุ้นไทยปีนี้อาจเป็นปีที่ 3 ติดต่อกันที่ผลตอบแทนติดลบ หรือหุ้นตกตลอด 3 ปี โดยนักลงทุนรายย่อยตกเป็นกลุ่มที่ขาดทุนย่อยยับมากที่สุด เพราะซื้อหุ้นสะสมมาตลอด ซื้อตั้งแต่ดัชนียืนอยู่ระดับ 1,600 จุด

ตลาดหุ้นไทยตกอยู่ในสภาพไร้เสน่ห์ มองไม่เห็นอนาคต และมีแนวโน้มซบเซายาวนาน เพราะนอกจากผลกระทบจากปัจจัยภายนอกแล้ว ยังถูกกดทับด้วยปัจจัยภายใน จากความไม่นิ่งทางการเมือง รัฐบาลอุ๊งอิ๊งมีแต่เรื่องที่บั่นทอนเสถียรภาพ และเศรษฐกิจยังฟุบหนัก

จากดัชนี 1,506 จุด ภายในเวลาประมาณ 3 เดือนเศษ ทรุดตัวลงมาที่ 1,304 จุด โดยลดลงกว่า 200 จุด เป็นภาพสะท้อนความล้มเหลวในการเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนของรัฐบาลอุ๊งอิ๊ง

เพราะยังไม่มีมาตรการได้ที่โดนใจนักลงทุน ยังไม่มีมาตรการใดกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้น และปลุกตลาดหุ้นให้คืนสู่ความคึกคัก

โบรกเกอร์หลายสำนักมีมุมมองโลกสวย ประเมินว่า ดัชนีหุ้นปลายปีนี้จะพุ่งทะยานขึ้นไปแตะที่ระดับ 1,500-1,600 จุด แต่สถานการณ์ที่เป็นจริง ตลาดหุ้นกำลังดิ่วลงสู่เหวลึก และไม่มีสัญญาณฟื้นในระยะสั้น

ผลงานของรัฐบาลอุ๊งอิ๊งที่ปรากฏชัดในวันนี้คือ หุ้นตกไปแล้วกว่า 200 จุด

และถ้าดัชนีหลุด 1,300 จุด นักลงทุนรายย่อยคงพังเป็นแถบ






กำลังโหลดความคิดเห็น