ดูเผินๆ มูลค่าตลาดหลักล้านล้านดอลลาร์อาจถือเป็นชัยชนะสำหรับเทสลา แต่ถ้าวัดกันที่มูลค่าแบรนด์ที่สะท้อนประสิทธิภาพในโลกจริง ไม่ใช่การขายฝัน อันดับของบริษัทรถไฟฟ้าชื่อดังแห่งนี้ยังคงร่วงลงเป็นปีที่สองติดต่อกัน ปล่อยให้โตโยต้าครองอันดับ 1 สาเหตุเนื่องจากเทสลาไม่ได้ออกรถรุ่นใหม่มาหลายปี บวกกับบุคลิกความสุดโต่งต่างขั้วของมัสก์
จากข้อมูลของบริษัทวิจัยอังกฤษ แบรนด์ ไฟแนนซ์ มูลค่าแบรนด์ของเทสลาในปี 2024 ลดลง 26% อยู่ที่ 43,000 ล้านดอลลาร์ เทียบกับ 58,300 ล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งถือเป็นการลดลงต่อเนื่องเป็นปีที่ 2
ทั้งนี้ แม้ราคาหุ้นเทสลาปีที่ผ่านมาโลดลิ่วถึง 63% แต่ลูกค้ากลับไม่รู้สึกดีเท่าไหร่กับยักษ์ใหญ่ไฮเทคแห่งนี้
ผิดกับโตโยต้า มอเตอร์ที่ยังคงเป็นแบรนด์ที่มีมูลค่ามากที่สุดในอุตสาหกรรมยานยนต์ด้วยตัวเลขเกือบ 65,000 ล้านดอลลาร์ ครองอันดับ 1 ของตาราง ตามด้วยเมอร์เซเดส-เบนซ์ 53,000 ล้านดอลลาร์ และอันดับ 3 ถึงเป็นเทสลา
แบรนด์ ไฟแนนซ์ที่สำรวจความคิดเห็นกลุ่มตัวอย่าง 175,000 คนทั่วโลก พบว่า โตโยต้ายังคงได้ประโยชน์จากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์อย่างสม่ำเสมอ
รายงานชิ้นนี้พยายามให้ภาพเทสลาในแง่การแข่งขัน เนื่องจากการวัดมูลค่าแบรนด์โฟกัสที่ประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ ขณะที่ราคาหุ้นที่ทะยานโด่งมาจากการเก็งกำไรกับโปรเจ็กต์ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของเทสลามากกว่า
แบรนด์ ไฟแนนซ์วิเคราะห์สถานะการเงินของเทสลา ซึ่งรวมถึงรายได้ ข้อตกลงการให้ใบอนุญาต กำไรขั้นต้น และอีกหลายอย่าง เพื่อประเมินมูลค่าแบรนด์ ซึ่งพบว่า คะแนนหลายหัวข้อลดลงทั่วโลก เช่น ชื่อเสียง การพิจารณา และการแนะนำ
คะแนนการพิจารณาของเทสลาที่บ่งชี้ว่า ผู้บริโภคจะพิจารณาซื้อรถของบริษัทหรือไม่นั้น ลดลงจาก 21% เหลือ 15% ในยุโรป ส่วนคะแนนการแนะนำที่คำนวณว่า คนจะพูดถึงแบรนด์ในแง่บวกหรือไม่ ตกฮวบจาก 8.2 เหลือ 4.3 จากคะแนนเต็ม 10 แต่คะแนนความจงรักภักดีในอเมริกายังสูงกว่า 90%
เดวิด เฮ ประธานบริหารแบรนด์ ไฟแนนซ์ บอกว่า สาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้มูลค่าแบรนด์เทสลาเสื่อมลงคือพฤติกรรมของมัสก์
อนึ่ง ผลสำรวจเมื่อเร็วๆ นี้ของ GovUK พบว่า คนอังกฤษ 71% มองมัสก์ติดลบ หรือเพิ่มขึ้นจาก 64% เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ขณะที่งานศึกษาของสื่อเนเธอร์แลนด์ EenVandaag พบว่า เจ้าของเทสลา 1 ใน 3 ในแดนกังหันลมกำลังพิจารณาขายรถเนื่องจากไม่ชอบใจมัสก์
ทั้งนี้ มัสก์เป็นผู้บริจาคทางการเมืองรายใหญ่สุดของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยอัดฉีดเงิน 277 ล้านดอลลาร์ในการเลือกตั้งปีที่ผ่านมา นอกจากนั้น มหาเศรษฐีเบอร์หนึ่งของโลกผู้นี้ยังเติมเชื้อไฟวัฒนธรรมการก่อสงครามออนไลน์ ส่งเสริมทฤษฎีสมรู้ร่วมคิด และโหมกระพือข่าวปลอม
การสนับสนุนทรัมป์ที่เซ็นคำสั่งฝ่ายบริหารยกเลิกการให้การอุดหนุนอีวีและโครงสร้างพื้นฐานในการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของคณะบริหารชุดก่อนตั้งแต่วันแรกที่กลับเข้าทำเนียบขาว เท่ากับว่า มัสก์กำลังดำเนินการที่ขัดแย้งกับผลประโยชน์ของเทสลา
นอกจากนั้น เขายังเชื่อว่า การยกเลิกมาตรการจูงใจที่เทสลาเคยได้ประโยชน์อย่างมากตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน สุดท้ายแล้วอาจเป็นเรื่องดีสำหรับบริษัทที่มีอัตรากำไรมากกว่าคู่แข่ง แถมยังเป็นบริษัทรถเพียงแห่งเดียวในอเมริกาที่ทำกำไรได้จากอีวี ขณะที่ค่ายอื่นๆ ขาดทุนหลายพันล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม ปีที่แล้วเป็นปีแรกที่ยอดขายเทสลาตก สวนทางกับบริษัทรถดั้งเดิมอย่างเจเนอรัล มอเตอร์, ฟอร์ด และฮุนได มอเตอร์ กรุ๊ป ที่ทำยอดขายอีวีทุบสถิติ
เฮชี้ว่า มูลค่าแบรนด์ของเทสลาจะตกต่อไป นอกจากบริษัทอีวีชั้นนำแห่งนี้สามารถเปิดตัวรถรุ่นใหม่ๆ ที่ทำให้ผู้บริโภคตื่นตาตื่นใจได้อย่างแท้จริง รวมทั้งขจัดปัดเป่าความเป็นปฏิปักษ์ที่เกิดจากมัสก์ได้
ทว่า ขณะนี้ดูเหมือนเทสลาหันไปโฟกัสมากขึ้นกับการแก้ปัญหาระบบขับขี่อัตโนมัติ การสร้างความสามารถด้าน AI และเทคโนโลยีหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ ทำให้ธุรกิจอีวีตกไปอยู่ปลายแถว มิหนำซ้ำการที่มัสก์กลายเป็นผู้นำหน่วยงานประสิทธิภาพรัฐบาล (DOGE) ที่เป็นหน่วยงานใหม่ถอดด้ามของทรัมป์ 2.0 ยังทำให้ทุกสายตาจับจ้องว่า เขาจะช่วยให้คณะบริหารชุดใหม่ปรับปรุงกฎระเบียบสำหรับรถอัตโนมัติอย่างไร