แซม อัลต์แมน คาด AI agent รุ่นแรกพร้อมแทรกซึมเข้าสู่ตลาดแรงงานภายในปี 2025 ซึ่งจะปฏิวัติประสิทธิภาพและวิธีการทำธุรกิจ โดยปัจจุบันเทคโนโลยีนี้กำลังปรับปรุงเวิร์กโฟลว์ในอุตสาหกรรมต่างๆ ตั้งแต่คริปโตไปจนถึงโซเชียลมีเดีย ซีอีโอ OpenAI ยังสนับสนุนการเปิดตัว AI อย่างค่อยเป็นค่อยไปเพื่อให้สังคมมีเวลาปรับตัวและพัฒนาไปพร้อมกัน ขณะที่วิทาลิก บูเทอริน ผู้ร่วมก่อตั้งอีเธอเรียม เตือน superintelligent AI อาจเป็นภัยคุกคามต่อการดำรงอยู่ เว้นแต่มนุษย์จะใช้แนวทางที่สมดุลระหว่างความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็วกับการเตรียมความพร้อม
AI agent คือระบบหรือโปรแกรมอัตโนมัติที่สามารถทำงานหรือตัดสินใจโดยอิงกับสภาพแวดล้อมหรือข้อมูลที่ป้อนโดยไม่ต้องมีการแทรกแซงอย่างต่อเนื่องจากมนุษย์ แต่จะทำงานอย่างเฉลียวฉลาดด้วยการสังเกตสภาพแวดล้อม ประมวลผลข้อมูล และดำเนินการ ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงสำคัญจากระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ปัจจุบันที่ทำงานได้เพียงจำกัด เช่น แชทบอท หรือโมเดลการเรียนรู้ของเครื่อง
อัลต์แมนโพสต์บนบล็อกเมื่อวันจันทร์ (6 ม.ค.) ว่า OpenAI กำลังโฟกัสไม่เฉพาะการปรับปรุงโมเดล AI รุ่นปัจจุบันเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการพัฒนาเครื่องมือ superintelligent AI หรือ AI ที่มีความฉลาดระดับสูงสุดและฉลาดกว่ามนุษย์ด้วย
อย่างไรก็ตาม เขายอมรับว่า เรื่องนี้อาจฟังดูเหมือนนิยายวิทยาศาสตร์ และเชื่อว่า วิธีที่ดีที่สุดในการทำให้ระบบ AI ปลอดภัยคือ การเปิดตัวเทคโนโลยีนี้อย่างค่อยเป็นค่อยไปเพื่อให้สังคมมีเวลาปรับตัว และพัฒนาไปพร้อมกับ AI เรียนรู้จากประสบการณ์ และพยายามทำให้ AI ปลอดภัยยิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ผู้บริหารและนักวิจัยในวงการเทคโนโลยีจำนวนมากแสดงความกังวลเกี่ยวกับ AI โดยเมื่อเดือนมีนาคม 2023 บุคคลเหล่านี้กว่า 2,600 คนเรียกร้องผ่านจดหมายเปิดผนึกให้ระงับการพัฒนา AI เนื่องจากมีความเสี่ยงอย่างมากต่อสังคมและมนุษยชาติ
แนวทางของอัลต์แมนยังตรงข้ามอย่างสิ้นเชิงกับจุดยืนของบูเทอริน ผู้ร่วมก่อตั้งอีเธอเรียม ที่เสนอระงับการเข้าถึงทรัพยากรการคำนวณชั่วคราวเพื่อหลีกเลี่ยงภัยคุกคามจาก superintelligent AI ที่คาดว่า จะมาถึงในอีก 5 ปี และไม่สามารถการันตีได้ว่า จะมาพร้อมสิ่งดีๆ
ในโพสต์บนบล็อกเมื่อวันอาทิตย์ (5 ม.ค.) บูเทอรินเตือนว่า superintelligent AI อาจเป็นภัยคุกคามต่อการดำรงอยู่ เว้นแต่มนุษย์จะใช้แนวทางที่สมดุลระหว่างความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็วกับการเตรียมความพร้อม
เขาเรียกร้องให้สร้างเทคโนโลยีที่ทำให้คนปลอดภัยโดยไม่ต้องคำนึงถึงว่า เทคโนโลยีนั้นจะตกอยู่ในมือใคร และเตือนว่า การแข่งขันในการวิจัย AI หรือเทคโนโลยีชีวภาพอย่างประมาทอาจเป็นการติดอาวุธให้กองทัพหรือกลุ่มผู้ประสงค์ร้ายได้อย่างง่ายดาย
บูเทอรินเน้นย้ำแนวทางที่ระมัดระวังในการพัฒนาเทคโนโลยีและเรียกร้องกลยุทธ์ที่เป็นรูปธรรมในการลดความเสี่ยงจาก AI โดยเสนอมาตรการ เช่น การจดทะเบียนฮาร์ดแวร์ ตรวจสอบการพัฒนา AI และระบุตำแหน่งทางกายภาพของชิป AI
เขายังเสนอ “พักชั่วคราวแบบนุ่มนวล” สำหรับฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ระดับอุตสาหกรรมที่อาจเป็นทางเลือกในการชะลอพัฒนาการของ AI โดยวิธีนี้จะลดพลังการคำนวณที่พร้อมใช้งานทั่วโลกลง 99% นาน 1-2 ปีเพื่อ “ซื้อเวลาในการเตรียมตัวสำหรับมนุษยชาติ” เพิ่มเติมจากกฎความรับผิดที่กำหนดว่าบุคคลหรือองค์กรที่ใช้ ปรับใช้ หรือพัฒนา AI ต้องรับผิดชอบทางกฎหมายสำหรับความเสียหายที่เกิดจากโมเดล AI ของตนเอง
ความคิดเห็นของอัลต์แมนและบูเทอรินมีขึ้นขณะที่ผู้คนสนใจนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนโดย AI มากขึ้นยกตัวอย่างเช่นเมื่อเร็วๆ นี้ ฮาซีบ คูเรชี ผู้ก่อตั้งดรากอนฟลาย ที่ย้ำในการคาดการณ์สำหรับปี 2025 ว่า AI agent กำลังปฏิวัติวงการคริปโต
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนตุลาคม คอยน์เบสได้เปิดตัวเครื่องมือ AI ที่ชื่อว่า Based Agent ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้าง AI agent ได้ตามต้องการ
นอกจากนั้นยังมีตัวอย่าง AI agent อีกมากมายที่ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในโลกจริง เช่น เมื่อเร็วๆ นี้ สตาร์ทอัพบล็อกเชน Story Protocol ว่าจ้าง Luna ซึ่งเป็น AI agent ในโปรโตคอลเสมือน ให้รันบัญชีบนแพลตฟอร์ม X ซึ่งถือเป็น AI agent ตัวแรกที่รับผิดชอบบัญชี X ที่มียอดการชำระเงินวันละ 1,000 ดอลลาร์
และเดือนที่ผ่านมา Axal แพลตฟอร์มบล็อกเชนอีกแห่ง เปิดตัว AI agent ชื่อว่า Gekko ที่มาพร้อมระบบออโต้ไพล็อต