"สุริยะ" ปักธงไตรมาสแรกปี 68 ชงมอเตอร์เวย์ M8 เฟสแรก "นครปฐม-ปากท่อ" มูลค่า 6.1 หมื่นล้านบาท เข้า ครม. ตั้งเป้าสร้างในปี 69 เพิ่มโครงข่ายลงใต้ สมบูรณ์ สั่งเร่งศึกษารูปแบบลงทุนใหม่ หวั่น ทล.กู้สร้างโยธาเอง หวั่นกระทบเพดานหนี้สาธารณะ
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ตามแผนงานกระทรวงคมนาคมนั้น ภายในไตรมาส 1 ปี 2568 หรือภายในเดือน มี.ค. 2568 คาดว่าจะสามารถเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 8 (มอเตอร์เวย์) ช่วงนครปฐม-ปากท่อ-ชะอำ ในเฟสแรก ช่วงนครปฐม-ปากท่อ ระยะทาง 61 กม.ได้ เนื่องจากขณะนี้โครงการมีความพร้อม ทั้งการศึกษา ออกแบบ ศึกษารายงานเปลี่ยนแปลงการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ผ่านการพิจารณา กก.วล.แล้ว ซึ่งคาดว่าหลัง ครม.อนุมัติจะสามารถเปิดประมูลได้ช่วงปลายปี 2568 เริ่มก่อสร้างในปี 2569
ส่วนโครงการเฟส 2 ช่วงปากท่อ-ชะอำ กรมทางหลวง อยู่ระหว่างการศึกษาทบทวนเพื่อปรับแนวเส้นทางใหม่ ช่วงผ่าน จ.เพชรบุรี เพื่อลดผลกระทบการเวนคืนประชาชนในพื้นที่ ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปในปีนี้ และเข้าสู่ขั้นตอนการนำเสนอ ครม.และก่อสร้างต่อไป
รายงานข่าวระบุว่า มอเตอร์เวย์ M8 ช่วงนครปฐม-ปากท่อ ระยะทาง 61 กม. จะเป็นการก่อสร้างมอเตอร์เวย์แนวใหม่ ขนาด 4 ช่องจราจร มีจุดเริ่มต้นโครงการต่อเชื่อมกับมอเตอร์เวย์ (M81) สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ที่บริเวณทางแยกต่างระดับนครชัยศรี อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม และมีจุดเชื่อมต่อกับ ทล.338 บริเวณจุดตัด ทล.4 และจุดสิ้นสุดโครงการเชื่อมต่อกับทล.35 บริเวณ อ.ปากท่อ
ประเมินมูลค่าโครงการ 61,154 ล้านบาท ประกอบด้วย ค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน 14,400 ล้านบาท (จำนวน 5,338 ไร่) ค่าก่อสร้างงานโยธา 40,162 ล้านบาท ค่างานระบบ (O&M) และงานที่พักริมทาง 6,592 ล้านบาท การศึกษาพบว่ามีผลตอบแทนโครงการ EIRR 15.5%
รูปแบบ กรมทางหลวงลงทุนงานโยธาเอง โดยใช้เงินกู้และงบประมาณสมทบ และประมูลคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนและบำรุงรักษางานระบบ O&M และงานระบบที่พักริมทาง ในรูปแบบ PPP ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างทบทวนการศึกษาเพื่อหารูปแบบการลงทุนอื่นมาพิจารณาเพิ่มเติม เนื่องจากยังมีประเด็นกังวลว่ากรณีกรมทางหลวงลงทุนเองโดยใช้เงินกู้จะกระทบเพดานหนี้สาธารณะมากเกินไปหรือไม่ รวมถึงการแบ่งสัญญางานประมูล ที่เหมาะสมกับงานระบบ O&M ที่จะเข้ามาดำเนินการภายหลัง เพื่อไม่ให้งานก่อสร้างโครงการ ล่าช้า
สำหรับมอเตอร์เวย์ M8 ช่วงนครปฐม-ปากท่อ จะเป็นโครงข่ายทางหลวงมาตรฐานสูงที่สำคัญ รองรับการเดินทางและขนส่งสินค้า เชื่อมต่อการเดินทางจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานครสู่พื้นที่ภาคใต้ได้โดยตรง ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาการจราจรที่ติดขัดบน ทล.35 (ถนนพระราม 2) อีกด้วย