อินเด็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป คว้าโปรเจกต์ที่ปรึกษาบริหารโครงการและควบคุมงาน โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) จากการรถไฟฟ้าขนส่งแห่งประเทศไทย (รฟม.) มูลค่า 1,413,726,200 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ดัน Backlog พุ่งแตะ 5,367.04 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ผู้บริหาร “ดร.พรลภัส ณ ลำพูน” ระบุถือเป็นอีกหนึ่งโปรเจกต์ที่ต่อยอดธุรกิจให้มีความแข็งแกร่งและเติบโตมากยิ่งขึ้น พร้อมประเมินโค้งสุดท้ายผลงานส่งสัญญาณบวก รับอานิสงส์อุตสาหกรรมก่อสร้างภาครัฐคึก
ดร.พรลภัส ณ ลำพูน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเด็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (IND) ผู้ให้บริการงานด้านวิศวกรรมและสถาปัตยกรรมครอบคลุมงานออกแบบพร้อมก่อสร้าง งานบริหารโครงการขนาดใหญ่และควบคุมงานก่อสร้างของภาครัฐ รวมถึงงานด้านวิศวกรรมที่ปรึกษาต่างๆ เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงนามสัญญากับการรถไฟฟ้าขนส่งแห่งประเทศไทย (รฟม.) ซึ่งเป็นงานสัญญาจ้างที่ปรึกษาบริหารโครงการและควบคุมงาน โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) มูลค่า 1,413,726,200 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ระยะเวลาดำเนินการประมาณ 70 เดือน ส่งผลทำให้งานในมือ (Backlog) เพิ่มเป็น 5,367.04 ล้านบาท (สิ้นสุด 2 กันยายน 2573) (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
“ภาพรวมธุรกิจนับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาเริ่มเห็นสัญญาณที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน หลังจากภาครัฐบาล รัฐวิสาหกิจ และเอกชนที่เริ่มมีงานประมูลออก และเริ่มทยอยส่งมอบงาน ซึ่งการที่บริษัทได้รับงานจาก รฟม.ในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตมากยิ่งขึ้น และเป็นข้อพิสูจน์ได้ว่า IND มีศักยภาพในการบริหารจัดการและมีประสบการณ์ในธุรกิจที่ดำเนินการอยู่ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงานเติบโตอย่างต่อเนื่อง และช่วยต่อยอดธุรกิจให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นในอนาคต” ดร.พรลภัส กล่าว
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2567 เชื่อว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยทยอยรับรู้รายได้จากโครงการต่างๆ ที่เพิ่มเข้ามาตั้งแต่ต้นปี อีกทั้งยังทยอยรับรู้รายได้จากงานในมือ (Backlog) จึงคาดการณ์แนวโน้มผลการดำเนินงานปีนี้จะเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร IND กล่าวอีกว่า เชื่อว่าภาพรวมภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างในส่วนของภาครัฐยังมีแนวโน้มฟื้นตัวที่ดีขึ้นจากการที่รัฐบาลขับเคลื่อนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผลักดันให้มีงานโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ออกมา รวมถึงโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานอื่นๆ ที่ยังมีแนวโน้มขยายตัว ทำให้ IND มีโอกาสเข้าร่วมประมูลโครงการออกแบบและก่อสร้างใหม่ๆ เพิ่มอีกหลายโครงการ