บีวายดีแจ้งซัปพลายเออร์ขอลดค่าชิ้นส่วน 10% ตั้งแต่ต้นปีหน้า ส่งสัญญาณสงครามราคาตลาดอีวีจีนไร้แววสิ้นสุด ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงอึมครึม สังคมออนไลน์ถกสนั่นแนวโน้มการบีบให้ซัปพลายเออร์กลืนเลือดจะส่งผลต่อเนื่องไปสู่การปลดพนักงาน
ภาพหน้าจอจดหมายลงวันที่ 26 พ.ย. ที่มีลายเซ็นเหอ จื่อฉี รองประธานบริหารบีวายดี ที่แชร์ว่อนอยู่บนเว่ยป๋อ มีข้อความขอให้ซัปพลายเออร์รายหนึ่งลดราคาชิ้นส่วนลง 10% ตั้งแต่เดือนมกราคมปีหน้าเป็นต้นไป
ข้อความดังกล่าวระบุว่า แม้ปี 2025 จะเป็นโอกาสที่ดีสำหรับตลาดอีวี แต่การแข่งขันก็จะดุเดือดขึ้นและเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ ดังนั้น เพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขัน บีวายดีจึงต้องการให้ห่วงโซ่อุปทานทั้งหมดทำงานร่วมกันและลดต้นทุนต่อไป
ต่อมาในวันพุธ (27 พ.ย.) หลี่ หยุนเฟย ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการสร้างแบรนด์และประชาสัมพันธ์ของบีวายดี อธิบายเรื่องนี้โดยโพสต์บนแพลตฟอร์มเว่ยป๋อว่า การต่อรองราคาประจำปีกับซัปพลายเออร์เป็นเหตุการณ์ปกติในอุตสาหกรรมรถ และเสริมว่า บีวายดีกำหนดเป้าหมายการลดราคาซึ่งซัปพลายเออร์สามารถต่อรองได้
ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ตลอด 15 ปีที่ผ่านมา ตลาดรถจีนเป็นตลาดใหญ่ที่สุดในโลก แต่เริ่มจากเมื่อสองปีที่แล้วที่เทสลาจุดชนวนสงครามราคาด้วยการลดราคา Model 3 และ Model Y ลงถึง 9% ตลาดรถจีนจึงได้ตำแหน่งเพิ่มเป็นตลาดที่มีการแข่งขันรุนแรงที่สุดในโลก ซึ่งผู้สังเกตการณ์บางคนบอกว่า เป็นการแข่งขันที่ “ไม่อยู่ก็ตาย”
บลูมเบิร์กรายงานว่า โฟล์คสวาเกนและสเตลแลนทิส สองค่ายรถยักษ์ใหญ่จากโลกตะวันตก รับมือกับสถานการณ์การแข่งดุในตลาดจีนด้วยการร่วมผลิตรถยนต์ไฟฟ้ากับแบรนด์ท้องถิ่นอย่างเอ็กซ์เผิงและเจ้อเจียง ลีปมอเตอร์ ขณะที่ไฮไฟ และดับเบิลยูเอ็ม มอเตอร์ในเซี่ยงไฮ้ยื่นล้มละลาย
ปัจจุบัน ผู้ผลิตอีวีกว่า 200 รายของจีนกำลังต่อสู้กับภาวะซัปพลายล้นตลาด และผู้เชี่ยวชาญทำนายว่า บริษัทเล็กๆ มากมายจะไม่ได้ไปต่อ ขณะที่สถานการณ์ของผู้ผลิตรถเครื่องยนต์สันดาปไม่ได้ดีไปกว่ากัน
นอกจากบีวายดีแล้ว ต้นสัปดาห์นี้แม็กซัสในเครือ SAIC Motor ของรัฐบาลจีน ได้แจ้งข่าวทางออนไลน์ถึงซัปพลายเออร์ขอลดราคา 10% โดยอ้างความจำเป็นในการ “ปรับปรุงความอยู่รอด” ท่ามกลาง “สถานการณ์ซับซ้อน” เช่นเดียวกัน
บิลล์ รัสโซ ผู้ก่อตั้งออโตโมบิลิตี้ บริษัทที่ปรึกษาในเซี่ยงไฮ้ ชี้ว่า ขณะนี้บรรดาผู้นำตลาดต่างยินดีสละอัตรากำไรเพื่อแลกกับส่วนแบ่งตลาด โดยบีวายดีเป็นผู้เล่นที่ใช้มาตรการดุดันที่สุดโดยการใช้ประโยชน์จากห่วงโซ่อุปทานครบวงจรและความได้เปรียบด้านต้นทุนเพื่อยึดครองความเป็นผู้นำในตลาดต่อไป ขณะที่บริษัทอื่นๆ จะพยายามไล่ตามให้ทัน
Tu Le กรรมการผู้จัดการบริษัทที่ปรึกษา ซิโน ออโต้ อินไซต์ มองว่า การแข่งขันที่ยังคงดำเนินต่อไป การเรียกเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มของสหภาพยุโรป (อียู) และความไม่แน่นอนจากคณะบริหารของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะเข้ารับตำแหน่งต้นปีหน้าซึ่งอาจจุดชนวนสงครามการค้า จะส่งผลให้ผู้ผลิตอีวีจีนเหลือทางเลือกน้อยมากนอกเหนือจากการลดต้นทุนให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้
สถานการณ์เหล่านี้ยังสร้างแรงสั่นสะเทือนแม้กระทั่งกับ OEM รายใหญ่ที่สุด
อนึ่ง OEM (original equipment manufacturers) ในอุตสาหกรรมยานยนต์หมายถึงผู้ผลิตรถ เช่น ฟอร์ด และเจเนอรัล มอเตอร์
บีวายดีนั้นเป็นบริษัทรถเบอร์หนึ่งของจีน ครองส่วนแบ่งตลาดรถโดยรวม 16.2% และ 36.1% สำหรับตลาดอีวีในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ ทั้งนี้ จากข้อมูลของสมาคมรถยนต์นั่งของจีน
Le เสริมว่า ข้อกังวลหลักคือการตัดราคาจะสร้างความกดดันอย่างหนักต่อซัปพลายเออร์ที่ปกติแล้วมีขนาดแค่เศษเสี้ยวและไม่สามารถเข้าถึงเงินทุนได้แบบ OEM
ความกังวลว่า การตัดราคาจะกระทบต่อชีวิตของผู้คนระหว่างที่เศรษฐกิจจีนซึมลงยังทำให้บีวายดีติดเทรนด์ 1 ใน 10 อันดับแรกบนเว่ยป๋อเมื่อวันพฤหัสฯ (28 พ.ย.) โดยมียอดวิว 19 ล้านวิว และผู้แสดงความคิดเห็นหลายคนคาดเดาว่า ซัปพลายเออร์จำนวนมากในอุตสาหกรรมรถหนีไม่พ้นต้องลดเงินเดือนพนักงานในปีหน้า ขณะที่ตลาดแรงงานซึมกระทืออยู่แล้ว
โพสต์หนึ่งที่มีคนกดไลค์เกินพันมีข้อความว่า “การขูดรีดประโยชน์จากห่วงโซ่อุปทานเป็นงานถนัดของพวกเขา และพนักงานระดับรากหญ้าไม่เคยได้รับการปฏิบัติในฐานะมนุษย์”