ผู้รับมอบอำนาจผู้ถือหุ้นกู้ ACAP ประสานทุกโบรกเกอร์ เพื่อช่วยประชาสัมพันธ์ให้นักลงทุนหุ้นกู้ ACAP รายย่อยรวบรวมพยานหลักฐานเอาผิดอดีตผู้บริหาร ACAP เข้าข่ายเจตนาฉ้อโกงประชาชน กลุ่มผู้ถือหุ้นรายย่อยถูกหลอกรับชำระหนี้ 40% ร่วมวงเอาผิดผู้บริหาร ล้มแผนฟื้นกิจการ ประชุม 27 พ.ย.นี้
เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2567 นายนครินทร์วงแหวน ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากผู้ถือหุ้นกู้บริษัท เอเชีย แคปปิตอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (ACAP) ได้จัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้รายย่อย ที่บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) เพื่อชี้แจงการดำเนินการตามกฎหมายกับอดีตผู้บริหาร ACAP โดยยื่นร้องทุกข์กล่าวโทษต่อกองบังคับการการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชกรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) โดยมีผู้ถือหุ้นกู้รายย่อยเข้าร่วมประชุมกว่า 40 คน
นายนครินทร์ กล่าวว่า วันนี้มีผู้ถือหุ้นกู้อีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งเป็นกลุ่มที่ยอมรับการชำระหนี้ในสัดส่วน 40% กับบริษัท ACAP ไปแล้ว ซึ่งต้องถือเป็นผู้เสียหายด้วยเช่นกัน เพราะเจ้าหนี้กลุ่มนี้ถูกบริษัทปกปิดข้อมูลทำให้เข้าใจผิดว่า ACAP ไม่สามารถชำระคืนหนี้หุ้นกู้ให้นักลงทุนได้ เนื่องจากลูกค้าของ ACAP ไม่ยอมชำระหนี้ ทั้งที่ความเป็นจริงมีลูกหนี้บริษัท ACAP ออกมาให้ข้อมูลกับ ปอศ.แล้วว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมและมีลูกหนี้บางรายได้ชำระหนี้ให้บริษัท 100% บวกดอกเบี้ย แสดงให้เห็นเจตนาของอดีตผู้บริหารที่จงใจทุจริต
“เจ้าหนี้หุ้นกู้กลุ่มที่รับคืนไปแล้ว 40% มีจำนวนมากกว่า 1,000 ราย มูลค่าความเสียหายประมาณ 1,500 ล้านบาท จากความเสียหายทั้งหมดเกือบ 5,000 ล้านบาท กลุ่มนี้ถือเป็นผู้เสียหายอีกกลุ่มหนึ่งที่ถูกหลอกให้ทำสัญญารับเงินคืนไป โดยอดีตผู้บริหารมีเจตนาปกปิดข้อมูล หลอกให้เข้าใจผิดว่าบริษัทไม่สามารถชำระคืนหนี้หุ้นกู้ได้ เนื่องจากลูกหนี้ของบริษัทไม่ชำระหนี้ ทั้งที่ความจริงลูกหนี้บางรายได้ชำระเงินคืนมาแล้ว 100% พร้อมดอกเบี้ย แล้วเงินหายไปไหน บริษัทเข้าข่ายทำสัญญาไม่เป็นธรรม” นายนครินทร์ กล่าว
ทั้งนี้ ในฐานะทนายความผู้รับมอบอำนาจจากผู้ถือหุ้นกู้ บริษัท ไนน์ ลอว์ เซอร์วิส จำกัด จะร่วมมือกับโบรกเกอร์ทุกรายแจ้งประชาสัมพันธ์ให้ลูกค้าผู้ถือหุ้นกู้ ACAP ทุกรายที่ได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะกลุ่มที่ตัดสินใจรับเงิน 40% จะรวบรวมข้อมูลเพื่อดำเนินการเรียกร้องความเป็นธรรม ช่วยลดผลกระทบจากความเสียหายที่เกิดขึ้น ซึ่งกลุ่มนี้ยอมรับเงินเนื่องจากความไม่รู้ ถือเป็นผู้เสียหายเช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ ขอให้ทุกคนติดตามการประชุมแผนฟื้นฟูกิจการ ACAP ครั้งที่ 2 ในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2567 รวมทั้งออกมาใช้สิทธิเพื่อล้มแผนฟื้นฟูกิจการที่ไม่เป็นธรรมนี้ รวมถึงอยากเรียกร้องให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยผู้เสียหายในกรณี ACAP อย่างเต็มที่ เพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้ระบบเศรษฐกิจ และตลาดทุนของไทย ให้มีความหวังว่าจะเป็นที่พึ่งให้นักลงทุนได้ โดยเฉพาะนักลงทุนรายย่อย ที่นำเงินเก็บมาทั้งชีวิตเพื่อมาลงทุน แต่กลับถูกโกงจนได้รับความเสียหาย
นางสุภาภรณ์ วัฒนพงษ์วานิช ผู้ถือหุ้นกู้รายย่อย ACAP กล่าวว่า ที่ยอมรับชำระหนี้คืน 40% เพราะอยากได้เงินคืน แม้จะเป็นสัดส่วนน้อยก็ยังดีเพราะหากฟ้องร้องไม่รู้ว่าจะใช้เวลาอีกนานแค่ไหนกว่าจะได้เงินคืน เพราะเงินก้อนนี้ที่นำมาลงทุน เป็นเงินที่วางแผนไว้ใช้ยามเกษียณ แต่พอลงทุนแล้วขาดทุน หรือได้เงินคืนเพียงเล็กน้อยก็ไม่กล้าลงทุนอีกแล้ว แต่พอได้รับฟังข้อมูลจากทนายความที่ชี้แจงถึงความไม่โปร่งใส และเจตนาทุจริตของอดีตผู้บริหาร รวมถึงโอกาสที่จะได้เงินที่ลงทุนซื้อหุ้นกู้ไปคืน ก็มีความหวังมากขึ้นและมองว่ามีโอกาสจะได้เงินของเราคืน
ทีมทนายและการรวมตัวของนักลงทุนในครั้งนี้ มีความคาดหวังว่าจะสร้างความมั่นใจให้นักลงทุนรายย่อยต่อไป โดยทุกรายสามารถติดต่อและแสดงเจตจำนงได้ที่ทนายนครินทร์ วงแหวน โทร.