xs
xsm
sm
md
lg

TMANปิดเทรดวันแรกเหนือจอง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ที.แมน ฟาร์มาซูติคอล วันแรก ราคาเปิด 18.70 บาท และปิดตลาดด้วยราคา 16.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท หรือเหนือจอง 0.61% ผู้บริหาร ปิดลุยนำเงินขยาย-ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต รองรับแผนการเติบโตทางธุรกิจในอนาคต

บริษัท ที.แมน ฟาร์มาซูติคอล จำกัด มหาชน หรือ TMAN เข้าซื้อขายวันแรกเปิดตลาดราคาหุ้นอยู่ที่ 18.70 บาท เพิ่มขึ้น 2.4 บาท จากราคา IPO ที่กำหนดไว้หุ้นละ 16.30 บาทหรือหนือจอง 14.72 % ระหว่างวันราคาหุ้นปรับขึ้นไปสูงสุดที่ 19.30 บาท ต่ำสุดที่ 16.40 บาท เมื่อปิดตลาดราคาหุ้นอยู่ที่ 16.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท หรือ 0.61% มูลค่าซื้อขาย 4,293.91 ล้านบาท
โดย TMAN เสนอราคาขาย IPO ที่ 16.30 บาท/หุ้น จำนวนไม่เกิน จำนวนไม่เกิน 102 ล้านหุ้น คิดเป็น 25.5% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดหลัง IPO แบ่งเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนรวมไม่เกิน 71,430,000 หุ้น และหุ้นสามัญที่ถือโดยผู้ถือหุ้นเดิมจำนวนรวมไม่เกิน 30,570,000 หุ้น

สำหรับ TMAN มีทุนจดทะเบียนชำระแล้วหลัง IPO 300.00 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.75 บาท เสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนเป็นครั้งแรก จำนวนรวม 102 ล้านหุ้น ประกอบด้วยหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 71.43 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเดิมของ TKW Capital Limited จำนวน 30.57 ล้านหุ้น

ทั้งนี้ TMAN มีผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO คือ กลุ่มครอบครัวฐานะโชติพันธ์ ถือหุ้นรวม 74.5% ซึ่งบริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการ หลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและหลังหักสำรองต่าง ๆ ทุกประเภทที่กฎหมายและข้อบังคับของบริษัทกำหนดไว้

นายประพล ฐานะโชติพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TMAN เผยว่าวันนี้ TMAN เข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมั่นใจว่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุน โดยบริษัทฯ มีเป้าหมายก้าวสู่ผู้นำนวัตกรรมสุขภาพ ที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของทุกคนให้ดียิ่งขึ้นและหลังจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้ว กลุ่มบริษัทฯ วางกลยุทธ์สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยมุ่งเน้นสร้างแบรนด์ผลิตภัณฑ์ ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างและได้รับการยอมรับ ตลอดจนการพัฒนายารักษาโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง และกลุ่มยารักษาโรคทางเดินหายใจ เพื่อขยายฐานลูกค้ากลุ่มโรงพยาบาล ซึ่งเป็นห่วงโซ่ขนาดใหญ่ในอุตสาหกรรมยา

ปัจจุบันกลุ่มบริษัทฯ มีแบรนด์ทั้งสิ้นกว่า 226 แบรนด์ นอกจากนี้จะวิจัยและพัฒนานวัตกรรมเพื่อสุขภาพที่หลากหลายและมีคุณภาพ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าอย่างครบถ้วน รวมทั้งการเพิ่มสัดส่วนธุรกิจรับจ้างผลิต (OEM/ODM) และธุรกิจรับจัดจำหน่าย และมุ่งเพิ่มการเติบโตของรายได้จากการขยายการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในต่างประเทศกว่า 22 ประเทศทั่วโลก เพื่อก้าวสู่ Global Brand ในอนาคต
กำลังโหลดความคิดเห็น