แจ้งตำรวจอายัดรถอีก 5 คันหลังหนีตรวจสภาพ GPS ไล่ตามเจอหลบไปโคราช เตรียมถอดถังแก๊ส ขบ.ยอมรับต้องมีมาตรการปิดช่องโหว่ช่วงรอยต่อ 6 เดือน ก่อนตรวจสภาพ และเล็งกำหนดอายุแชสซีส์รถไม่ประจำทาง
นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าจากกรณีรถบัสทัศนศึกษาเกิดเหตุเพลิงไหม้ว่า จากที่ตรวจพบรถบัสที่เกิดไฟไหม้ ติดตั้งถังแก๊สธรรมชาติอัด (CNG) 11 ถัง แต่จดทะเบียนไว้ 6 ถังนั้น จึงได้มอบหมายสำนักงานขนส่งจังหวัดสิงห์บุรีออกคำสั่งนายทะเบียนเรียกรถที่อยู่ในใบอนุญาตประกอบการและรถเครือข่าย (เครือญาติ) อีก 5 คันเข้าตรวจสภาพในวันที่ 3 ต.ค. 2567 เพื่อตรวจสอบว่าถ้าพบเป็นรถที่ไม่ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด อาจจะมีการนำไปรับจ้างต่อ จะเกิดความไม่ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน
แต่ไม่มีการนำรถเข้าตรวจตามคำสั่งนายทะเบียน จึงมีการติดตามผ่านระบบ GPS พบว่ารถไปปรากฏที่จังหวัดนครราชสีมา เมื่อส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจพบมีการนำถังแก๊สออกจากตัวรถ แสดงเจตนาไม่เป็นไปตามกฎหมาย ซึ่ง ขบ.ได้แจ้งไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพื่ออายัดรถ เพราะเป็นคดีอาญาและเป็นความผิดทางกฎหมายอย่างร้ายแรง ซึ่งได้แจ้งไปยัง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) รักษาราชการแทน ผบ.ตร. และพล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1) แล้ว โดยจะให้ทางตำรวจเป็นผู้สืบสวนสอบสวนและติดตามรถดังกล่าวต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า รถที่เกิดเหตุเพิ่งผ่านการตรวจสภาพไม่นานนี้ แล้วภายหลังมีการติดตั้งถังแก๊สเพิ่มเติมอีก มีความสงสัยว่าขบ.ได้ตรวจจริงหรือไม่ เป็นการตรวจทิพย์หรือไม่ นายกฤชนนท์ อัยยปัญญา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงคมนาคมและโฆษกกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ทั้งหมดนี้ต้องรอการสืบสวนทางวิศวกรรมนิติเวช ข้อมูลต่างๆ คณะกรรมการที่ตั้งไว้จะเป็นผู้ตรวจสอบทั้งในแง่กฎหมาย วิศวกรรม และคดีความ เพื่อให้เกิดความชัดเจน ยืนยันว่ากระทรวงคมนาคมมุ่งมั่น เข้มงวด และกำชับทุกหน่วย ถ้าพบความผิดจะดำเนินคดีอย่างเต็มที่ และหากมีระเบียบ กฎเกณฑ์ใดหละหลวมก็จะดำเนินการแก้ไขต่อไป วันนี้อย่างเพิ่งไปปรักปรำใครเลย ขอให้ดูข้อมูลทั้งหมดก่อน
@รื้อมาตรการ เพิ่มรอบตรวจรอยต่อ 6 เดือน เล็งกำหนดอายุแชสซีส์
เมื่อถามต่อว่าจะเพิ่มความถี่ในการตรวจสอบรถหรือไม่ เพราะตอนตรวจสอบครั้งแรกดูถูกต้อง และพอเวลาผ่านไปมีการดัดแปลงและเมื่อถึงรอบตรวจสอบค่อยถอดออกอีกครั้ง นายจิรุตม์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า ปกติการตรวจสอบรถโดยสารจะมีวงรอบตรวจสอบปีละ 2 ครั้ง โดยกำหนดให้เข้ามาตรวจทุกๆ 6 เดือน ช่วงรอตรวจรอบใหม่ เพื่อป้องกัน ขบ.ได้ออกระเบียบ แต่งตั้งผู้จัดการด้านความปลอดภัย (Safety Manager) เข้าตรวจสอบรายวันอยู่แล้ว ซึ่งกรณีรถคันเกิดเหตุ ขบ.ได้ถอนใบอนุญาต Safety Manager
ส่วนกรณีรถจดทะเบียนครั้งแรกเมื่อปี 2513 อายุแชสซีส์มากกว่า 50 ปีนั้น ตามกฎหมายไม่ได้กำหนดอายุแชสซีส์ มีเพียงประกาศขนส่งทางบกกลาง กำหนดอายุแชสซีส์รถโดยสารประจำทางไม่เกิน 50 ปี (สำหรับรถวิ่งระยะใกล้) ยังไม่ครอบคลุมรถโดยสารไม่ประจำทาง (รถ 30) ดังนั้นก็จะต้องมีการพิจารณาเพิ่มเติม รวมไปถึงการเข้มงวดในการตรวจสอบระหว่างรอบตรวจสภาพ 6 เดือนที่อาจจะมีการใช้ช่วงเวลาดังกล่าวไปเพิ่มเติมสิ่งที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เหมือนรถคันเกิดเหตุที่ไปติดถังแก๊สเพิ่มเป็น 11 ถัง
