Zeekr เปิดตัว SUV ไฟฟ้าไซส์กลางรุ่นแรกอย่างเป็นทางการ กำหนดส่งมอบในจีน 20 กันยายน ก่อนลุยตลาดทั่วโลกปลายปีนี้ โดยตั้งราคา 33,829 ดอลลาร์ (1.1 ล้านบาท) และถือเป็นแบรนด์อีวีจีนล่าสุดที่ประกาศสงครามกับเทสลา Model Y
Zeekr แถลงในงานเฉิงตู มอเตอร์โชว์เมื่อวันศุกร์ (30 ส.ค.) ว่า 7X จะเป็น SUV ไฟฟ้า 5 ที่นั่ง มีแบตเตอรี่ให้เลือก 2 ออปชั่นคือแบตเตอรี่ LFP ขนาด 75 kWh ซึ่งเป็นแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟตที่วิศวกรของ Zeekr พัฒนาขึ้นมาและชาร์จเร็วที่สุดในโลก สามารถชาร์จไฟ 10-80% ภายใน 10.5 นาที ให้ระยะทางสูงสุด 605 กิโลเมตร และแบตเตอรี่ NMC ขนาด 100 kWh ให้ระยะทางสูงสุด 780 กิโลเมตร
ห้องโดยสารภายในกว้างขวาง มีช่องเก็บของ 32 ช่องพร้อมดีไซน์แบบเออร์โกโนมิกส์ พื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถความจุ 616 ลิตร
ฟีเจอร์อื่นๆ รวมถึงชุดเซ็นเซอร์ที่ขับเคลื่อนด้วยชิปประมวลผล Nvidia Orin X 2 ตัว, LiDAR, กล้อง HD และระบบเรดาร์ millimeter-wave รองรับฟังก์ชันการช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง
Zeekr 7X ที่มีกำหนดเปิดตัวในจีนวันที่ 20 กันยายน ถือเป็นรถยนต์ไฟฟ้าจีนรุ่นล่าสุดที่วางตัวเป็นคู่แข่ง Model Y ของเทสลาซึ่งเป็นอีวี 5 ที่นั่งเช่นเดียวกัน โดย 7X มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายในเวลาแค่ 3.8 วินาที
Zeekr มีแผนส่งมอบ 7X ทั่วโลกปลายปีนี้ แต่ยังไม่ได้เปิดเผยว่า จะเริ่มที่ภูมิภาคใด
ทั้งนี้ Model Y ที่มีราคาเริ่มต้น 35,240 ดอลลาร์ (1.2 ล้านบาท) เป็นหนึ่งในอีวีรุ่นที่ขายดีที่สุดในจีน และถูกท้าทายจากแบรนด์เจ้าถิ่นหลายราย อาทิ เอ็กซ์เผิงและนีโอ
เดือนกรกฎาคม Zeekr มียอดขาย 15,655 คัน เพิ่มขึ้น 30% จากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว ขณะที่เทสลามียอดขายเพิ่มขึ้น 47% อยู่ที่ 46,227 คัน
Zeekr ยังบุกตลาดฮ่องกงเมื่อเดือนกรกฎาคมและมีแผนเปิดตัว 7X รุ่นพวงมาลัยขวาในปีหน้า
ปัจจุบัน ตลาดอีวีจีนอยู่ท่ามกลางสงครามราคาดุเดือด สัปดาห์สุดท้ายของเดือนสิงหาคม เอ็กซ์เผิงเปิดตัว Mona M03 ราคาเริ่มต้นไม่ถึง 17,000 ดอลลาร์ (575,600 บาท) ย้อนกลับไปเดือนพฤษภาคม นีโอเผยโฉม Onvo โดยตั้งราคาถูกกว่า Model Y 4,000 ดอลลาร์ (135,000 บาท)
ต้นเดือนมีนาคม เสียวหมี่เปิดตัว SUV ราคา 30,408 ดอลลาร์ (1 ล้านบาทต้นๆ) ท้าทาย Model 3 ของเทสลาที่ราคา 34,676 ดอลลาร์ (เกือบ 1.2 ล้านบาท) โดยเหลย จุน ซีอีโอเสียวหมี่ ยอมรับว่า ขายขาดทุนทุกคัน
นอกจากนั้น การที่ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจีนเปิดตัวรถใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่องแถมราคายิ่งถูกลง ยังทำให้ค่ายรถอเมริกันรักษาความได้เปรียบในการแข่งขันได้ยากขึ้น รายงาน U.S. Initial Quality Study ประจำปี 2024 ที่เผยแพร่ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาระบุว่า เทสลาเสียตำแหน่งผู้นำเนื่องจากข้อกังวลเกี่ยวกับคุณภาพ