xs
xsm
sm
md
lg

TEMU บุก ฉุดยอดขนส่ง 'ไปรษณีย์ไทย' บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซวูบ 50% ต่อวัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ไปรษณีย์ไทยเจอศึกหนัก! TEMU บุกตลาด ฉุดยอดขนส่งบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ลดฮวบ 50% ต่อวัน หวั่นผู้ประกอบการไทยล้มทั้งแผง เร่งเปิดตัว 'Amazon FBA' พาสินค้าไทยบุกตลาดสหรัฐฯ หวังลดแรงกระแทก

ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เปิดเผยว่า สำหรับปี 2567 ไปรษณีย์ไทยตั้งเป้าเพิ่มรายได้และกำไรให้สูงกว่าปีที่แล้ว แต่ต้องยอมรับว่า การเป็นผู้เล่นรายเดียวในตลาดที่ยังคงมีกำไร ทำให้ต้องทำงานหนักมากขึ้นและไม่สามารถปล่อยให้เกิดความผิดพลาดได้ ขณะเดียวกัน ยังต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการเข้ามาของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซจีนที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

อย่าง TEMU ซึ่งส่งผลให้จำนวนพัสดุบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ผ่านระบบขนส่งของไปรษณีย์ไทย ตั้งแต่เดือน มิ.ย.-ก.ค.67 ลดลง 20-50% ต่อวัน ทั้งที่กว่าไปรษณีย์ไทยจะเริ่มให้บริการขนส่งบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเหล่านี้ได้ใช้เวลาเตรียมการถึง 2 ปี จึงสะท้อนถึงความท้าทายในการต้องปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของตลาด

ทั้งนี้ แม้ว่าช่วงแรกจะมีเสียงบ่นจากลูกค้าของ TEMU ว่า ราคาสินค้าสูงกว่าบน Shopee และ Lazada แต่คาดว่าเมื่อระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของ TEMU ทำงานเต็มที่ ราคาสินค้าจะลดลงอย่างมาก เนื่องจาก TEMU สามารถเชื่อมโยงโดยตรงกับโรงงานผู้ผลิตในจีน ตัดขั้นตอนพ่อค้าคนกลางออกไป ทำให้สามารถนำข้อมูลการซื้อขายมาปรับการผลิตได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ


เดินเกมรุก ก่อนล้มทั้งแผง

"เราต้องสู้กับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซจีน ที่มีบทบาททั้งคู่แข่งขันและคู่ค้ามาโดยตลอด เราไม่สามารถไปควบคุมได้ เพราะถือเป็นความเสี่ยงที่เกิดจากการกำกับดูแล ปัญหาบางอย่างที่ไม่สามารถแก้ไขได้ ก็ต้องหาอะไรมาชดเชย

แต่ในกรณีนี้จะแก้อย่างไร เพราะผลกระทบมันหนักเกินไป ไม่ใช่แค่เราเท่านั้นที่ต้องเจอปัญหา แต่ผู้ประกอบการไทยอาจล้มหายตายจากก่อน และถ้าผู้ประกอบการไทยล้มลงและปิดกิจการเพิ่มขึ้น ยอดการขนส่งจะลดลงตามไปด้วย สุดท้ายไปรษณีย์ไทยเองก็ไม่รอด เพราะเราเป็นผู้ให้บริการหลักกับผู้ประกอบการไทย

แต่ผู้ประกอบการต่างชาติ โดยเฉพาะจากจีน กำลังเข้ามาครองตลาดมากขึ้น พวกเขานำสินค้าเข้ามาในไทยมากขึ้นผ่านโกดังสินค้า ทำให้ระบบขนส่งของเราถูกตัดออกไปเรื่อยๆ นี่เป็นเรื่องที่ต้องแก้ไขในทุกมิติ เช่น การออกมาตรการควบคุมที่เข้มงวดมากขึ้น รวมถึงการกำหนดภาษีและการควบคุมการทุ่มตลาดจากต่างประเทศ เพื่อให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรม นอกจากนี้ ภาคส่วนต่างๆ ยังต้องร่วมมือกัน เพื่อเสริมสร้างศักยภาพให้ผู้ผลิตในประเทศ และสนับสนุนให้สินค้าไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้" ดร.ดนันท์ กล่าว


ช่วยสินค้าไทย บุกตลาดสหรัฐฯ

ขณะเดียวกัน ไปรษณีย์ไทยก็พยายามหาทางออกจากปัญหานี้ด้วยการขยายตลาดสู่ต่างประเทศ โดยหนึ่งในโครงการที่กำลังจะเปิดตัวในไตรมาส 4/2567 คือ อเมซอน เอฟบีเอ (Amazon FBA) ซึ่งเป็นโครงการที่ช่วยให้ผู้ประกอบการไทยสามารถนำสินค้าเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ ผ่านแพลตฟอร์มอเมซอน โดยไปรษณีย์ไทยจะทำหน้าที่เป็นผู้รวบรวมและจัดการสต๊อกสินค้า ส่งสินค้าไปยังคลังสินค้าในสหรัฐฯ เพื่อจำหน่ายในแพลตฟอร์มอเมซอน

"โครงการนี้จะช่วยเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยเข้าถึงตลาดต่างประเทศได้มากขึ้น และลดความเสี่ยงจากการแข่งขันในประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หวังว่า โครงการนี้จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจไทย และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันกับคู่แข่งต่างชาติในตลาดโลก" ดร.ดนันท์ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น