นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เผยค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 35.61 บาทต่อดอลลาร์ ทรงตัว ไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับปิดวันก่อนหน้า มองกรอบเงินบาทวันนี้คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.45-35.75 บาท/ดอลลาร์ (ระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ) โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาทเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบ sideways ใกล้โซนแนวรับ 35.50 บาทต่อดอลลาร์ ที่เราได้ประเมินไว้ในวันก่อน (แกว่งตัวในช่วง 35.50-35.63 บาทต่อดอลลาร์) โดยแม้ว่าเงินบาทอาจมีจังหวะแข็งค่าขึ้นทดสอบโซนแนวรับ 35.50 บาทต่อดอลลาร์ ตามจังหวะการปรับตัวลดลงของเงินดอลลาร์และบอนด์ยิลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ที่ช่วยหนุนให้ราคาทองคำ (XAUUSD) ปรับตัวขึ้นทดสอบโซนแนวต้านระยะสั้น 2,450 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทั้งยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน (Jobless Claims) และดัชนี ISM PMI ภาคการผลิต เดือนกรกฎาคมล้วนออกมาแย่กว่าคาด
อย่างไรก็ดี รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาแย่กว่าคาดดังกล่าวได้ทำให้ผู้เล่นในตลาดต่างกังวลว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจชะลอตัวลงมากกว่าที่เคยประเมินไว้ กอปรกับรายงานผลประกอบการของบรรดาหุ้นเทคฯ ในธีม AI/Semiconductor ที่ออกมาแย่กว่าคาด ยิ่งกดดันให้บรรยากาศในตลาดการเงินสหรัฐฯ อยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยง (Risk-Off) ชัดเจน หนุนให้เงินดอลลาร์พลิกกลับมาแข็งค่าขึ้น (ค่าเงินเยนญี่ปุ่นที่เป็น Safe Haven แข็งค่าขึ้นต่อเนื่องเช่นกัน) และกดดันให้ราคาทองคำทยอยย่อตัวลงบ้าง ส่งผลเงินบาททยอยอ่อนค่าลงจากโซนแนวรับ 35.50 บาทต่อดอลลาร์
สำหรับวันนี้ ไฮไลต์สำคัญจะอยู่ที่รายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ เดือนกรกฎาคม ทั้งยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม (Nonfarm Payrolls) อัตราการว่างงาน (Unemployment) และอัตราการเติบโตของค่าจ้าง (Average Hourly Earnings) ซึ่งผู้เล่นในตลาดจะทยอยรับรู้ตั้งแต่ช่วง 19.30 น. ตามเวลาประเทศไทย
และนอกเหนือจากปัจจัยดังกล่าว ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตารายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียน ซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศในตลาดการเงินได้พอสมควรในช่วงนี้
สำหรับแนวโน้มของค่าเงินบาท เรามองว่าเงินบาทเริ่มมีโอกาสที่จะสามารถพลิกกลับมาอ่อนค่าลงได้บ้าง และโซนแนวรับ 35.50 บาทต่อดอลลาร์ที่เราได้ประเมินไว้ก่อนหน้านั้นอาจยังเป็นโซนแนวรับในระยะสั้นได้อยู่ ตราบใดที่บรรยากาศในตลาดการเงินยังคงอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยง (Risk-Off) จนหนุนให้เงินดอลลาร์ยังสามารถแกว่งตัวในกรอบ sideways หรือมีจังหวะแข็งค่าขึ้นได้บ้าง ซึ่งการประเมินดังกล่าวสอดคล้องกับสัญญาณเชิงเทคนิคัล ใน Time Frame Daily ที่เงินบาท (USDTHB) อาจเกิดทั้งสัญญาณ RSI Bullish Divergence และมีลักษณะของรูปแบบ Bullish Hammer ทว่า หากจะมั่นใจได้ว่า เงินบาทจะพลิกกลับมาอ่อนค่าจากโซนแนวรับดังกล่าวควรเห็นการอ่อนค่าต่อเนื่อง เหนือระดับ 35.70 บาทต่อดอลลาร์ ได้อย่างชัดเจนเป็นอย่างน้อย ซึ่งเราประเมินว่า ภาพดังกล่าวมีโอกาสเกิดขึ้นได้หากรายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาดชัดเจน จนทำให้ผู้เล่นในตลาดทยอยปรับลดความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ย (ที่ผู้เล่นในตลาดมองว่า เฟดอาจลดดอกเบี้ยติดต่อกันถึง 5 ครั้ง)
โดยจากการประเมินความอ่อนไหวของค่าเงินบาทในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ จากข้อมูลในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา เราพบว่า เงินบาทอาจมีโอกาสอ่อนค่าทดสอบโซน 35.75 บาทต่อดอลลาร์ ในกรณีที่ข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาด และเงินบาทมีโอกาสแข็งค่าทดสอบโซน 35.45 บาทต่อดอลลาร์ ในกรณีที่ข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ อาจออกมาแย่กว่าคาด (ให้จุดเริ่มต้นเงินบาทแถว 35.60 บาทต่อดอลลาร์ ในช่วงก่อนรับรู้รายงานข้อมูลดังกล่าว)