xs
xsm
sm
md
lg

NCP ปิดเทรดวันแรกเหนือจอง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:




ไนซ์ คอล ปิดเทรดวันแรกที่ราคาหุ้นอยู่ที่ 2.02 บาท เพิ่มขึ้น 0.02 บาท หรือ 1% จากราคาไอพีโอที่กำหนดไว้หุ้นละ 2 บาท มูลค่าซื้อขาย 664.08 ล้านบาท เตรียมนำเงินที่ระดมทุนได้ใช้ก่อสร้างอาคารสำนักงานใหม่ และพัฒนาซอฟท์แวร์ รองรับการขยายธุรกิจ

หุ้น NCP หรือ บริษัท ไนซ์ คอล จำกัด (มหาชน) เข้าซื้อขายในวันแรกในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) เมื่อเปิดตลาดราคาอยู่ที่ 2.28 บาท เพิ่มขึ้น 14% จากราคาไอพีโอ 2 บาท ระหว่างวันราคาหุ้นปรับขึ้นไปสูงสุดที่ 2.60 บาท ต่ำสุดที่ 1.99 บาท เมื่อปิดตลาด ราคาหุ้นอยู่ที่ 2.02 บาท เพิ่มขึ้น 0.02 บาท หรือ 1% มูลค่าซื้อขาย 664.08 ล้านบาท

นายศรัณย์ เวชสุภาพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NCP เปิดเผยว่า การเข้าจดทะเบียนในตลาด mai ครั้งนี้ นับเป็นก้าวที่สำคัญในการขยายธุรกิจให้แข็งแกร่ง และต่อยอดการขยายโอกาสทางธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคงตามกลยุทธ์ ในฐานะผู้นำธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าผ่านทางโทรศัพท์ (Telesales) ธุรกิจการให้บริการเพิ่มยอดขายสินค้าจากการขายครั้งแรก (Upselling Service) และธุรกิจการให้บริการบริหารพนักงานขาย (Dedicated Telesale Outsourcing) ระดับแถวหน้าของประเทศ พร้อมขอบคุณนักลงทุนที่ให้ความสนใจจองซื้อหุ้น NCP อย่างล้นหลาม สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ

สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนแบ่งเป็น 30 ล้านบาท จะนำไปก่อสร้างอาคารสำนักงานแห่งใหม่ ขยายจำนวนพนักงานขายทางโทรศัพท์ คาดดำเนินก่อสร้างแล้วเสร็จในไตรมาส 3 ปี 2568 ที่ 10 ล้านบาท ก่อสร้างสถานที่ทำงานในเรือนจำภายในสิ้นปี 2569 ที่ 5 ล้านบาท พัฒนาระบบเทคโนโลยีซอฟต์แวร์และระบบเครือข่ายเพื่อรองรับการเพิ่มจำนวนพนักงาน และ 55 ล้านบาท ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ

ทั้งนี้ NCP มีทุนชำระแล้วหลังเสนอขาย 90 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 130 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 50 ล้านหุ้น โดยเป็นการเสนอขายต่อบุคคลตามดุลพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์จำนวน 46.25 ล้านหุ้น เสนอขายต่อผู้มีอุปการคุณของบริษัท 2.75 ล้านหุ้น และเสนอขายต่อกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงาน 1.00 ล้านหุ้น เมื่อวันที่ 19, 23-24 กรกฎาคม 2567 ในราคาหุ้นละ 2.00 บาท คิดเป็นมูลค่าการเสนอขาย IPO 100 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 360 ล้านบาท

โดยการกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO พิจารณาอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio: P/E Ratio) เท่ากับ 28.14 เท่า ซึ่งคำนวณจากกำไรสุทธิ 12 เดือนย้อนหลัง (ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2566 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2567) หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วภายหลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ (fully diluted) จะได้กำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.07 บาท

"กว่า 10 ปี ที่บริษัททำการตลาดแบบตรง มีระบบการจัดการลูกค้าสัมพันธ์หรือ CRM เป็นของตัวเองตั้งแต่ก่อตั้ง ทำให้มีความเข้าใจผู้บริโภคในการขายผ่านโทรศัพท์เป็นอย่างดี และมีฐานข้อมูลเชิงลึกของลูกค้าที่จะสามารถนำไปต่อยอดในการร่วมวางกลยุทธ์การขายสินค้ากับคู่ค้าพันธมิตร" นายศรัณย์กล่าว

โดยมีบริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และมีบริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายร่วม
กำลังโหลดความคิดเห็น