เอาเรื่อง!! สว.สหรัฐ เสนอเฟดให้ "นำบิทคอยน์มาเป็นทุนสำรองประเทศ"

วุฒิสมาชิกตัวตึงแห่งรัฐไวโอมิง ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่ามีจุดยืนในการสนับสนุนสกุลเงินดิจิทัล เสนอแนวคิดต่อธนาคารกลางสหรัฐให้ "นำบิทคอยน์มาใช้เป็นสินทรัพย์สำรองประเทศ" ในงานประชุมที่แนชวิลล์ ซึ่งรับลูกกลยุทธ์นโยบายบิทคอยน์เชิงยุทธศาสตร์ของ "ทรัมป์" ที่มีกำหนดจะพูดในงานประชุมนี้ด้วย

Fox News รายงานเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ว่า นางซินเทีย ลัมมิส วุฒิสมาชิกรัฐไวโอมิง ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะ สว.ที่มียืนในการสนับสนุนสกุลเงินดิจิทัล โดยมีการวางแผนที่จะเสนอให้ธนาคารกลางสหรัฐ ฯ ถือบิทคอยน์ไว้เป็นสินทรัพย์สำรองเชิงยุทธศาสตร์ เช่นเดียวกับทองคำและสกุลเงินต่างประเทศ

ซึ่ง ซินเทีย ลัมมิส หวังว่าอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะรับรองร่างกฎหมายดังกล่าว ซึ่งจะช่วยเพิ่มน้ำหนักให้กับข้อเสนอของเธออย่างมาก

ขณะที่กระแสข่าวนี้ออกมา ท่ามกลางข่าวลือหนาหูที่ว่าทรัมป์ ซึ่งมีกำหนดจะพูดในงานประชุมนี้ด้วย มีแผนที่จะสนับสนุนบิทคอยน์ให้เป็นสินทรัพย์สำรองเชิงยุทธศาสตร์ โดยทรัมป์ได้แสดงท่าทีมุ่งมั่นในการสนับสนุนบิทคอยน์และสกุลเงินดิจิทัลอย่างมากในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลต่อคะแนนนิยมในอุตสาหกรรมต่างๆ ในภาคส่วนสกุลเงินดิจิทัลและเทคโนโลยีต่อท่าทีดังกล่าว

อย่างไรก็ดี รายละเอียดของร่างกฎหมายดังกล่าว ยังคงถูกปกปิดไว้ แต่ร่างเบื้องต้นระบุว่าร่างกฎหมายดังกล่าวจะสั่งให้เฟดซื้อและถือครองบิทคอยน์ไว้เป็นสินทรัพย์สำรอง ซึ่งใน รายงานระบุว่าลัมมิส พยายามหาการสนับสนุนจากเพื่อนร่วมงาน ในคณะกรรมาธิการธนาคารของวุฒิสภาเพื่อหาเสียงสนับสนุนต่อจุดยืนดังกล่าว

ขณะที่ปัจจุบันสหรัฐฯ ถือครองบิทคอยน์อยู่ประมาณ 210,000 เหรียญ มูลค่ากว่า 66,000 เหรียญต่อเหรียญบิทคอยน์ โดยส่วนใหญ่มาจากการสั่งอายัดของกระทรวงยุติธรรม จากผู้กระทำผิดกฎหมาย ซึ่งนางลัมมิส ซึ่งเป็นนักลงทุนบิทคอยน์ และผู้สนับสนุนอย่างเปิดเผย ก่อนหน้านี้ได้เสนอให้กระจายสกุลเงินต่างประเทศมูลค่า 40,000 ล้านเหรียญของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ด้วยบิทคอยน์

อย่างไรก็ตามข้อเสนอนี้ต้องเผชิญกับอุปสรรคสำคัญภายใต้การบริหารชุดปัจจุบัน ซึ่งใช้แนวทางที่ระมัดระวังต่อสินทรัพย์ดิจิทัล

ขณะที่การประชุมนี้จะมีบุคคลสำคัญอื่นๆ เข้าร่วม เช่น Michael Saylor จาก MicroStrategy, Cathie Wood จาก Ark Invest และผู้สมัครอิสระ Robert F. Kennedy Jr.

ขณะที่ทางนางกมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดี ซึ่งมีแนวโน้มจะได้รับการเสนอชื่อจากพรรคเดโมแครต ปฏิเสธคำเชิญไปร่วมงานสัมมนา แต่มีรายงานว่าเธอพร้อมที่จะเสนอนโยบายคริปโตเพื่อดึงดูดผู้มีสิทธิเลือกตั้งด้วย

อย่างไรก็ดีหากร่างกฎหมายของลัมมิสถูกเสนอขึ้น อาจเป็นสัญญาณการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในนโยบายการเงินของสหรัฐฯ ซึ่งจะส่งผลให้มูลค่าของบิทคอยน์พุ่งสูงขึ้นและกระตุ้นให้ประเทศอื่นๆ ทำตาม แต่ทั้งนี้ชะตากรรมของกฎหมายนี้ จะขึ้นอยู่กับการสนับสนุนของรัฐสภา และผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่จะเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน