xs
xsm
sm
md
lg

เช็กสภาพ 10 หุ้นดัง ดิ่งโหดสุดในรอบปี บางหลักทรัพย์อ่วมหนักลบเกือบ 80%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ตลาดหุ้นไทยยังคงระส่ำหนัก นักลงทุนส่ายหัวเป็นแถวๆ หลังต้องเผชิญสึนามิปัจจัยลบทั้งภายในและนอกประเทศรุมเร้า ทั้งปัญหาด้านเศรษฐกิจ และด้านการเมืองที่ร้อนระอุกระทบความเชื่อมั่นอย่างหนัก ทำให้หุ้นดังราคาดิ่งหนัก บางหลักทรัพย์ผลตอบแทนราคา YTD ปี 2567 ติดลบเฉียด 80% เลยทีเดียว โดยคัดเลือกจากหุ้นดังที่เป็นกระแสในหน้าสื่อ ที่มีราคาติดลบมากสุด 10 อันดับ

1.SABUY บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) ผลตอบแทนราคา YTD ปี 67คือ -79.60%, ย้อนหลัง 5 วัน คือ -40.12%, ราคา ณ 7 มิ.ย.67 คือ 1.03 บาท(ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 11.60 / 1.03 บาท),ถ้าเทียบกับราคาสูงสุดรอบปี กับราคาปัจจุบัน ต่างกัน -10.57 บาท หรือ -91.12%,มาร์เก็ตแคปล่าสุด 1,819.49 ล้านบาท,ค่า P/E -เท่า,งบไตรมาส 1/67 ขาดทุนสุทธิ -1,960.72 ล้านบาท ขณะไตรมาส 1/66 กำไรสุทธิ 166.95 ล้านบาท ลดลง 2,127.67 ล้านบาท,อัตราเงินปันผล YTD ปี67 คือ -%

ตลท.เตือนให้ผู้ลงทุนศึกษาข้อมูลงบการเงินไตรมาส 1 ปี 2567 หลังจากผู้สอบบัญชีมีข้อสังเกตถึงความไม่แน่นอนที่มีสาระสำคัญเกี่ยวกับความสามารถในการดำเนินงาน บมจ. สบาย เทคโนโลยี (SABUY) และ บมจ. สบาย คอนเน็กซ์ เทค (SBNEXT) พร้อมติดตามคำชี้แจงภายใน 13 มิ.ย.นี้ และความเห็นคณะกรรมการบริษัทภายใน 20 มิ.ย.นี้

2.NEX บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) ผลตอบแทนราคา YTD ปี 67 คือ -72.40%, ย้อนหลัง 5 วัน คือ -0.72%, ราคา ณ 7 มิ.ย.67 คือ 2.76 บาท (ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์ คือ 14.20 / 2.54 บาท), ถ้าเทียบกับราคาสูงสุดรอบปี กับราคาปัจจุบัน ต่างกัน -11.44 บาท หรือ -80.56%, มาร์เก็ตแคปล่าสุด 5,580.24 ล้านบาท,ค่า P/E 8.85 เท่า,งบไตรมาส 1/67 กำไรสุทธิ 49.30 ล้านบาท ขณะไตรมาส 1/66 กำไรสุทธิ 152.09 ล้านบาท ลดลง 102.79 ล้านบาท หรือ-67.58%, อัตราเงินปันผลYTD ปี 67 คือ -%

คณิสสร์ ศรีวชิระประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NEX ระบุ ตนมีความทุ่มเทให้กับบริษัท และไม่มีแผนขายหุ้นออกแม้แต่หุ้นเดียว สะท้อนจากแผนการซื้อหุ้นคืนที่ได้ดำเนินการไปแล้ว แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในบริษัท โดยจะเร่งขยายธุรกิจให้มีผลประกอบการที่ดี เพื่อสร้างผลตอบแทนให้นักลงทุน

3.EA บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) ผลตอบแทนราคา YTD ปี 67 คือ -51.41%, ย้อนหลัง 5 วันคือ -3.15%, ราคา ณ 7 มิ.ย.67 คือ 21.50 บาท(ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 65.75 / 21.40บาท), ถ้าเทียบกับราคาสูงสุดรอบปี กับราคาปัจจุบัน ต่างกัน -44.25 บาท หรือ -67.30%, มาร์เก็ตแคปล่าสุด 80,195.00 ล้านบาท,ค่า P/E 12.93 เท่า,งบไตรมาส 1/67 กำไรสุทธิ 888.70 ล้านบาท ขณะไตรมาส 1/66 กำไรสุทธิ 2,319.76 ล้านบาท ลดลง1,431.06 ล้านบาท หรือ -61.69%,อัตราเงินปันผลYTD ปี 67 คือ 1.40%

ผู้บริหาร EA เผยว่า บริษัทมั่นใจว่าภาพรวมธุรกิจ EA ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในช่วงไตรมาส 1/67 คาดเห็นการฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาส 2/67 เป็นต้นไปอย่างแน่นอน เนื่องจากจะเร่งส่งมอบยานยนต์ไฟฟ้า (EV) อย่างต่อเนื่อง หลังจากไตรมาสแรกส่งมอบไปเพียง 350 คัน โดยครึ่งปีหลังนี้ก็คาดว่าจะทยอยส่งมอบรถ EV มากขึ้น

4.JMT บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) ผลตอบแทนราคาYTD ปี 67คือ -42.35%,ย้อนหลัง 5วันคือ -10.37%, ราคา ณ 7 มิ.ย.67 คือ14.70บาท (ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 50.00 / 13.80 บาท), ถ้าเทียบกับราคาสูงสุดรอบปี กับราคาปัจจุบัน ต่างกัน -35.30 บาท หรือ -70.60%,มาร์เกตแคปล่าสุด 21,458.17 ล้านบาท,ค่าP/E 10.86 เท่า,งบไตรมาส 1/67 กำไรสุทธิ 418.26 ล้านบาท ขณะไตรมาส1/66 กำไรสุทธิ 453.07 ล้านบาท ลดลง 34.81ล้านบาท หรือ -7.68%,อัตราเงินปันผลYTD ปี 67 คือ 5.65%

โบรกฯคาด กำไรปี 67 อาจแค่ทรงตัว YoY โดยหากเห็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ดีขึ้น และนโยบายต่างๆ ที่กระตุ้นเศรษฐกิจภาคครัวเรือน อาจทำให้การฟื้นตัวดีขึ้น ทั้งนี้ราคาหุ้นอ่อนตัวค่อนข้างมากสะท้อนปัจจัยลบไปมาก

5.BTS บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ผลตอบแทนราคา YTD ปี 67คือ -32.41%,ย้อนหลัง 5 วัน คือ -16.24%, ราคา ณ 7 มิ.ย.67 คือ 4.90 บาท(ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 8.10 / 4.56 บาท),ถ้าเทียบกับราคาสูงสุดรอบปี กับราคาปัจจุบัน ต่างกัน -3.20 บาท หรือ-39.51 %,มาร์เกตแคปล่าสุด 64,521.43 ล้านบาท,ค่าP/E- เท่า,งบไตรมาส 1/67 ขาดทุนสุทธิ -5,241.24ล้านบาท ขณะไตรมาส 1/66 กำไรสุทธิ 1,836.48 ล้านบาท ลดลง 7,077.72 ล้านบาท ,อัตราเงินปันผลYTD ปี 67 คือ -%

บล.กรุงศรี ยังคงแนะนำซื้อหุ้น BTS และคงราคาเป้าหมายที่ 6.40 บาท โดยมองว่า BTS เป็นหุ้นที่น่าสนใจในเชิงการฟื้นตัวของผลประกอบการ เพราะราคาหุ้นสะท้อนปัจจัยลบส่วนใหญ่ไปเรียบร้อยแล้ว มองว่าปัจจัยกระตุ้นตัวแรกจะมาจากการฟื้นตัวของผลประกอบการในปี 2568 เมื่อไม่ต้องรับรู้ผลขาดทุนจาก KEX อีก

6.JMART บริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ผลตอบแทนราคา YTDปี 67 คือ -31.21%, ย้อนหลัง 5 วันคือ -9.16%, ราคา ณ 7 มิ.ย.67 คือ 11.90 บาท (ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 25.25 / 11.10 บาท), ถ้าเทียบกับราคาสูงสุดรอบปี กับราคาปัจจุบัน ต่างกัน -13.35บาท หรือ - 52.87%,มาร์เก็ตแคปล่าสุด 17,349.12 ล้านบาท,ค่า P/E 206.55 เท่า,งบไตรมาส 1/67 กำไรสุทธิ 235.83 ล้านบาท ขณะไตรมาส 1/66 ขาดทุนสุทธิ -294.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้น530.56 ล้านบาท ,อัตราเงินปันผลYTD ปี 67 คือ -%

ผู้บริหาร JMART มั่นใจปัจจัยพื้นฐานธุรกิจไม่เปลี่ยน ภาพรวมธุรกิจในกลุ่มในปีนี้มีแต่ฟื้นตัวดีขึ้นและผ่านจุดต่ำสุดในปี 2566 มาแล้ว พร้อมปฏิเสธข่าวลือที่ออกมา ถึงประเด็นกลุ่ม BTS อาจจะกำลังพิจารณาขายหุ้นที่ถืออยู่ในกลุ่มเจมาร์ททั้งหมด ซึ่งไม่เป็นความจริง

7.COM7 บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) ผลตอบแทนราคา YTD ปี 67 คือ -28.57%, ย้อนหลัง 5 วันคือ -5.56%, ราคา ณ 7 มิ.ย.67 คือ 17.00บาท(ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ52สัปดาห์คือ 33.00 / 16.40บาท),ถ้าเทียบกับราคาสูงสุดรอบปี กับราคาปัจจุบัน ต่างกัน- 16.00บาท หรือ-48.48 %,มาร์เกตแคปล่าสุด40,799.97 ล้านบาท,ค่า P/E 14.45 เท่า,งบไตรมาส 1/67 กำไรสุทธิ 821.76 ล้านบาท ขณะไตรมาส 1/66 กำไรสุทธิ 873.72 ล้านบาท ลดลง 51.96 ล้านบาท หรือ -5.95%,อัตราเงินปันผล YTD ปี 67 คือ 4.12%

บล.โกลเบล็ก ปรับลดราคาเป้าหมาย COM7 ลงมาอยู่ที่ 20.20 บาท จากเดิมที่ 23.70 บาท เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ฟื้นตัวช้า สะท้อนภาพกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ยังอ่อนแอ อย่างไรก็ตามราคาหุ้น COM7 นับตั้งแต่ต้นปีนี้ยังมี upside มากจากราคาเป้าหมายใหม่ จึงยังคงแนะนำซื้อ

8.VGI บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) ผลตอบแทนราคา YTD ปี 67 คือ -27.98%,ย้อนหลัง 5วันคือ -12.03%, ราคา ณ 7 มิ.ย.67 คือ 1.39 บาท (ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 3.44 / 1.37 บาท),ถ้าเทียบกับราคาสูงสุดรอบปี กับราคาปัจจุบัน ต่างกัน -2.05 บาท หรือ -59.59 %,มาร์เก็ตแคปล่าสุด 15,560.38 ล้านบาท,ค่าP/E- เท่า,งบไตรมาส 1/67 ขาดทุนสุทธิ -3,488.77 ล้านบาท ขณะไตรมาส1/66 ชาดทุนสุทธิ -64.88 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่ม 3,423.89 ล้านบาท,อัตราเงินปันผล YTD ปี 67คือ-%

โบรกฯประเมินภาพรวม VGI อยู่บนทิศทางฟื้นตัว หลังตัดขายหุ้น “เคอรี่ เอ็กซ์เพรส” หมดพอร์ตปลดล็อกการแบกรับผลขาดทุน ดันเงินสดล้นเหลือจนต้องลุ้นจ่ายปันผล ส่วนกำไรสดใสน่าจะได้เห็นช่วงปี 2569

9.KCE บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) ผลตอบแทนราคา YTD ปี 67คือ -24.55%, ย้อนหลัง 5 วันคือ +1.84%, ราคา ณ 7 มิ.ย.67 คือ 41.50 บาท(ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 57.50 / 35.75 บาท),ถ้าเทียบกับราคาสูงสุดรอบปี กับราคาปัจจุบัน ต่างกัน -16.00 บาท หรือ- 27.83%,มาร์เก็ตแคปล่าสุด 49,056.68 ล้านบาท,ค่าP/E 25.96 เท่า,งบไตรมาส 1/67 กำไรสุทธิ515.38 ล้านบาท ขณะไตรมาส 1/66 กำไรสุทธิ 345.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 169.91 ล้านบาท หรือ +49.18%,อัตราเงินปันผล YTD ปี67คือ 3.13%

บล.กรุงศรี เชื่อว่าแนวโน้มของหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์กำลังจะเปลี่ยนกลับไปสู่วัฏจักรขาขึ้นอีกครั้งในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า จากความคาดหวังว่าอุปสงค์ในตลาดโลกจะฟื้นตัวขึ้น ราคาหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์จะฟื้นตัวขึ้นได้ตามการฟื้นตัวของผลประกอบการจากไตรมาส 3/67 เป็นต้นไป

10.BANPU บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ผลตอบแทนราคา YTD ปี 67 คือ -24.26%, ย้อนหลัง 5 วันคือ -6.36%, ราคา ณ 7 มิ.ย.67 คือ 5.15 บาท(ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 9.75 / 5.15 บาท),ถ้าเทียบกับราคาสูงสุดรอบปี กับราคาปัจจุบัน ต่างกัน -4.60 บาท หรือ- 47.18%,มาร์เก็ตแคปล่าสุด 51,597.35 ล้านบาท,ค่าP/E 25.83 เท่า,งบไตรมาส 1/67 กำไรสุทธิ 1,551.53 ล้านบาท ขณะไตรมาส 1/66 กำไรสุทธิ 4,988.02 ล้านบาท ลดลง 3,436.49 ล้านบาท หรือ -68.89%,อัตราเงินปันผลYTD ปี 67 คือ 7.98%

บล.โกลเบล็ก ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ทางฝ่ายวิจัยมีมุมมองเชิงบวกต่อ BANPU แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/67 เนื่องจากราคาถ่านหินเริ่มปรับตัวขึ้นสู่ 143 เหรียญต่อตัน เพิ่มขึ้น 10% ตั้งแต่เริ่มต้นปีจนถึงปัจจุบัน และราคาก๊าซธรรมชาติที่สหรัฐปรับตัวขึ้น 30% ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันสู่ 2.38 เหรียญต่อ 1 BTU เป็นปัจจัยหนุนต่อผลประกอบการ

อย่างไรก็ตาม หุ้นเหล่านี้บางหลักทรัพย์ราคาน่าจะสะท้อนปัจจัยลบไปมากแล้ว หรือบางหลักทรัพย์อาจจะพ้นจากจุดต่ำสุดในปี 2567ไปแล้ว ฉะนั้นในช่วงเวลา 6เดือนเศษที่เหลือของปีนี้ ต้องลุ้นว่าจะมีปัจจัยใดมาหนุนให้หุ้นเหล่านี้ขยับปรับราคาเพิ่มขึ้นมาได้บ้าง?
กำลังโหลดความคิดเห็น