สื่อดังรายงานเสียวหมี่เข้าสู่กระบวนการพัฒนาอีวีรุ่นที่ 2 แล้ว หลังเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกแค่เดือนกว่าๆ โดยจะเป็น SUV ไฟฟ้าเต็มรูปแบบที่ถูกวางตำแหน่งชนกับ Model Y ของเทสลา และจะเริ่มการผลิตอย่างเร็วที่สุดในปี 2025
แหล่งข่าววงในเผยว่า เสียวหมี่ขณะนี้กำลังเร่งเดินเครื่องเต็มประสิทธิภาพเบื้องต้นและเพิ่มกำลังผลิตเพื่อตอบสนองดีมานด์ของลูกค้าที่มีต่อ SU7 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของบริษัทที่เปิดตัวไปเมื่อปลายเดือนมีนาคมและกวาดยอดจองคับคั่งทันที
แหล่งข่าวคนเดิมเพิ่มเติมว่า เสียวหมี่เริ่มพัฒนาอีวีรุ่น 2 แล้วโดยจะเป็น Compact SUV คล้ายกับเทสลา Model Y ปูทางสู่การฟาดฟันระหว่างผู้เชี่ยวชาญด้านสมาร์ทโฟนแห่งนี้กับผู้ผลิตอีวีสัญชาติอเมริกันในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าจีน
SUV ใหม่จะเป็นการเติมฝันครั้งใหญ่ของเสียวหมี่ ออโตโมบิล โปรเจ็กต์รถยนต์ไฟฟ้ามูลค่า 10,000 ล้านดอลลาร์ของเสียวหมี่ บริษัทอิเล็กทรอนิกส์แถวหน้าของจีน ที่ตัดสายสะดือเปิดตัวเมื่อกว่า 3 ปีที่แล้วภายใต้การนำของเหลย จุน นักธุรกิจพันล้านและผู้ร่วมก่อตั้งเสียวหมี่
ปัจจุบัน เสียวหมี่ที่มีรายได้กว่า 60% จากสมาร์ทโฟน กำลังพยายามลดการพึ่งพิงตลาดสมาร์ทโฟนโลกที่ครอบงำโดยแอปเปิล ขณะที่ดีมานด์ในประเทศตกลงเช่นเดียวกัน แม้การกระโจนลงสนามอีวีจะต้องเผชิญการแข่งขันเข้มข้นจากผู้เล่นที่แออัดเต็มตลาด และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการท้าทายผู้นำอย่างเทสลาและบีวายดีก็ตาม
ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนทั้งในส่วนสเปกและราคาของ SUV ใหม่ของเสียวหมี่ สำนักข่าวอีไฉซึ่งเป็นเจ้าแรกที่รายงานเรื่องนี้ระบุว่า แผนการผลิตอีวีรุ่นที่ 2 อาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับความคืบหน้าในด้านกำลังการผลิต
อันที่จริง ตอนที่เสียวหมี่เริ่มระดมสมองคิดการณ์เกี่ยวกับบริษัทอีวีใหม่ในเครือเมื่อ 3 ปีที่แล้วนั้น SUV เป็นส่วนหนึ่งของแผนการเริ่มแรก แต่ท้ายที่สุดบริษัทตัดสินใจโฟกัสกับซีดานไฟฟ้าก่อน ซึ่งดูเหมือนเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องอย่างยิ่ง
SU7 อีวีรุ่นแรกของเสียวหมี่เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 มีนาคม โดยมีให้เลือก 3 รุ่น ได้แก่ สแตนดาร์ด โปร และแม็กซ์ ด้วยราคาเริ่มต้น 215,900 หยวน (1.09 ล้านบาท), 245,900 หยวน (1.25 ล้านบาท) และ 299,900 หยวน (1.52 ล้านบาท) ตามลำดับ
ผลปรากฏว่า ซีดานไฟฟ้าของเสียวหมี่ที่ดีไซน์สวยสะดุดตาพอๆ กับเทสลา Model 3 และปอร์เช่ ไทคานน์ กวาดยอดจองเฉียด 90,000 คันนับจากเปิดขายในจีนเมื่อปลายเดือนมีนาคมจนถึงสิ้นเดือนเมษายน และราคาหุ้นเสียวหมี่พุ่งโด่ง 30% นับจากเปิดตัวอีวีรุ่นนี้
ด้วยยอดจองล้นหลามรวมแล้วกว่า 100,000 คัน เสียวหมี่เริ่มนำความเชี่ยวชาญดั้งเดิมมาช่วยเพิ่มกำลังผลิตเพื่อตอบสนองดีมานด์ โดยในช่วง 32 วันแรก ค่ายรถน้องใหม่แห่งนี้รายงานว่า สามารถผลิต SU7 10,000 คัน และกำลังเดินเครื่องผลิตเพิ่มอีก 90,000 คันให้แล้วเสร็จภายในปลายปีนี้
แหล่งข่าวในเสียวหมี่เผยว่า บริษัทยังไม่มีแผนผลิต SUV ออกมาจำนวนมากอย่างน้อยจนถึงก่อนปลายปีหน้าที่การก่อสร้างโรงงานประกอบในปักกิ่งเฟส 2 จะแล้วเสร็จ ซึ่งจะทำให้บริษัทมีกำลังผลิตปีละ 300,000 คัน และตอนนี้บริษัทกำลังโฟกัสการผลิต SU7 เพื่อตอบสนองยอดสั่งจองก่อน
นอกจากนั้น เมื่อปลายเดือนที่แล้ว 36kr ซึ่งเป็นสื่อท้องถิ่นของจีน ยังรายงานว่า เสียวหมี่มีแผนเปิดตัวรถรุ่นที่ 3 ซึ่งจะเป็นอีวีราคาประหยัด ทว่า ข่าวนี้ยังไม่ได้รับการยืนยันจากทางเสียวหมี่แต่อย่างใด
แฟรงก์ เหอ และสตีเวน หวัง นักวิเคราะห์ของเอชเอสบีซี เฉียนไห่ ซีเคียวริตี้ส์ ระบุในบันทึกเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ธุรกิจอีวีของเสียวหมี่อาจถึงจุดคุ้มทุนในปี 2016 หรือสองปีก่อนเป้าหมายที่ประเมินไว้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากมีการปรับปรุงกำลังการผลิตและได้รับการตอบรับอย่างดีจากตลาด
ทั้งคู่ยังคาดว่า เสียวหมี่จะเพิ่มยอดส่งมอบอีกกว่า 2 เท่าเป็น 240,000 คันในปีหน้า