xs
xsm
sm
md
lg

สื่อทีวียังไว้ลายยึด 50% คนไทยดูอะไร โฆษณาQ1/67 โต 6%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



การตลาด – สื่อทีวียังไว้ลาย ยังรักษาส่วนแบ่งตลาดไว้มากที่สุดกว่า 50% แม้ว่าจะถุูกสื่ออื่นไล่บี้ไล่เบียด แย่งส่วนแบ่ง และสัดส่วนการใช้งบไปอย่างต่อเนื่องก็ตาม ล่าสุดนีลเส็นเผย มูลค่างบโฆษณาไตรมาสแรกปี2567นี้ มีประมาณ27,721 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 6% หรือเพิ่มประมาณ 1,663 ล้านบาท ขณะที่สื่อทีวีกินงบไปที่ 13,763 ล้านบาท หรือกินสัดส่วนไปเกือบ 50% ของงบทั้งหมด แต่ว่ากลับเป็นสื่อที่เติบโตน้อยที่ 2%


บริษัท นีลเส็น ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยข้อมูลการสำรวจล่าสุด ในประเด็นของพฤติกรรมการบริโภคสื่อทีวีของคนไทย พบว่า จำนวนกว่า 90% ของครัวเรือนไทยมีทีวี โดย 45% พบว่าเป็น Smart TV หรือทีวีที่สามารถเชื่อมอินเทอร์เน็ตและดูคอนเทนต์แบบออนไลน์ได้ สอดคล้องกับข้อมูลสำรวจล่าสุดจาก Cros-platform ratings พบว่าเรตติ้งคอนเทนต์ทีวีในไตรมาสแรก 45% จากรับชม content ผ่านช่องทางสตรีมมิ่ง และ content ผ่านช่องทางทีวีแบบออฟไลน์อยู่ที่ 55% สะท้อนคนไทยยังคงเสพคอนเทนต์ทีวีอยู่ แต่มีการกระจายไปทางช่องทางสตรีมมิ่งหรือออนไลน์มากขึ้น

แล้วคนไทยดูอะไร?

ในไตรมาสแรกปี2567พบว่า รายการที่ได้รับเรตติ้งสูงสุดที่คนไทยดูมากที่สุดเป็นรายการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก นัดไทยเจอกับเกาหลีใต้ ผ่านช่อง Thairath TV ได้รับเรตติ้งสูงทั้งผ่านทีวีและช่องทางสตรีมมิ่ง นอกจากการถ่ายทอดสดกีฬา ละครเย็นช่วง 1 ทุ่มมักจะได้รับเรตติ้งดีเช่นกัน โดยเฉพาะกลุ่มผู้ชมที่อยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัดจะชื่นชอบคอนเท้นต์ละครเย็นเป็นพิเศษ ซึ่งละคนเย็นจะมีเนื้อหาเบา คลายเครียดทำให้เข้าถึงคนไทยได้ง่าย


เมื่อย้อนดูข้อมูลของเทรนด์ของรับชมรายการกีฬา เราพบว่าจริงๆแล้ว รายการกีฬามีฤดูกาลของตัวเอง โดยจากข้อมูลเรตติ้งพบว่าช่วงต้นปีจะเป็นช่วงฤดูกาลของฟุตบอลต่างๆ ในขณะที่ช่วงกลางปีเป็นต้นไปจะเป็นฤดูกาลของการแข่งขันวอลเล่ย์บอล ด้วยความที่คนไทยชอบเชียร์ทีมชาติไทย นัดไหนที่มีทีมไทยเข้าแข่งขันด้วย เรตติ้งมักจะดีเป็นพิเศษ เป็นโอกาสที่นักโฆษณาเข้ามาชิงพื้นที่โฆษณาในช่วงที่มีการถ่ายทอดการแข่งขัน โดยนัดวอลเล่ย์ที่มีการรับชมมากที่สุดในปีที่ผ่านมาคือการถ่ายทอดสดการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงโอลิมปิก2024 รอบคัดเลือกทีมไทยเจอโคลอมเบีย มียอดการเข้าชมสดกว่า 10 ล้านวิว

โดยในปีนี้โปรแกรมการแข่งขันวอลเล่ย์บอลมีความคักขึ้น ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่เดือนเมษายนกับวอลเลย์บอลชิงแชมป์สโมสรเอเชีย และต่อด้วยวอลเลย์บอลเนชันส์ลีก 2024 (VNL 2024) ในเดือนพฤษภาคม และการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน 2024 คาดว่าเม็ดเงินโฆษณาน่าจะมีการสะพัดมากขึ้นในช่วงการแข่งขันที่คนไทยตั้งตารอ

ทั้งนี้สื่อทีวียังคงเป็นสื่อที่มีส่วนแบ่งมากที่สุดไม่ต่ำกว่า 50% จากงบการใช้สื่อทั้งหมด


โดยเม็ดเงินโฆษณาสื่อทีวีในไตรมาสแรกปี2567 สัดส่วนอยู่ที่ 50% สื่อทีวียังเป็นสื่อหลักที่นักโฆษณายังลงใช้ในการเข้าถึงลูกค้า โดยการเติบโตในไตรมาสแรกยังถือว่ามีความต่อเนื่อง โต 2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีที่แล้ว สะท้อนแบรนด์ยังเชื่อมั่นในทีวี และทีวียังเป็นสื่อหลักที่เข้าถึงคนไทยได้ดีที่สุด
แม้ว่าสื่ออื่นจะเริ่มเข้ามาเบียดส่วนแบ่งมากขึ้นก็ตาม รวมทั้งมูลค่าการใช้สื่อประเภทอื่นจะเริ่มเติบโตมากขึ้นด้วยเช่นกัน

สำหรับการใช้งบประมาณทางด้านการโฆษณาและการใช้สื่อโฆษณา ในช่วง3 เดือนแรก ของปี2567 ( ไตรมาสแรก เดือนมกราคม กุมภาพันธ์ มีนาคม ) นีลเส็นระบุด้วยว่า มีมูลค่ามากกว่า27,721 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยรวม 6% หรือเพิ่มประมาณ 1,663 ล้านบาท

ขณะที่ไตรมาสที่สองปีที่แล้วมีมูลค่าการใช้งบรวมทั้งสิ้น 28,963 ล้านบาท และไตรมาสที่สามมีมูลค่ารวมประมาณ 30,485 ล้านบาท ส่วนไตรมาสสุดท้ายปีที่แล้ว มีมูลค่าการใช้งบประมาณโฆษณารวมอยู่ที่่ 31,239 ล้านบาท ซึ่งปกติแล้วจะเป็นไตรมาสที่สี่ที่มีมูลค่ามากที่สุด


ทั้งนี้ หากแยกลงไปในรายละเอียดของแต่ละสื่อ ที่ีมีการใช้งบประมาณโฆษณาช่วงไตรมาสแรกปีนี้ ก็จะพบว่า สื่อโทรทัศน์ยังคงเป็นสื่อที่มีอิทธิพลและมีมูลค่ามากที่สุดอยู่ที่ 13,763 ล้านบาท หรือกินสัดส่วนไปเกือบ 50% ของงบทั้งหมด แต่ว่ากลับเป็นสื่อที่มีการเติบโตน้อยที่สุดอยู่ที่ 2% เท่านั้นเอง เนื่องจากมีสื่ออื่นที่เข้ามาแย่งงบประมาณไปมาก ส่วนสื่อที่มีการเติบโตมากที่สุดคือ สื่ออินเทอร์เน็ตที่เติบโตมากถึง 19% แต่ว่ามูลค่าของการใช้จ่ายอยูในอันดับที่สองด้วยมูลค่ารวม7,890 ล้านบาท ซึ่งสื่ออินเทอร์เน็ตนี้เป็นสื่อที่มีการเติบโตขึ้นมาอย่างรวดเร็ว และเริ่มที่จะแทรกแซงเบียดเอาสัดส่วนไปจากสื่อทีวีมากขึ้นเรื่อยๆ

ส่วนสื่อนอกบ้าน มููลค่า 4,085 ล้านบาท เติบโตเล็กน้อยที่ 6% ซึ่งก็เป็นสื่อที่เข้ามามีบทบาทมากขึ้นในช่วงหลังนี้ สำหรับสื่อวิทยุมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 816 ล้านบาท ติดลบ 0.2% ตามมาด้วยสื่อโรงหนังที่มีมูลค่ารวม 731 ล้านบาท เติบโต 12% โดยที่สื่อที่มีมูลค่าน้อยที่่สุด แต่กลับลดลงมากที่่สุดคือ สื่อสิ่งพิมพ์ ด้วยมูลค่าการใช้งบ 436 ล้านบาท ตกลงถึง 34% ซึ่งเป็นสื่อที่มีแนวโน้มลดลงมาอย่างต่อเนื่อง


นีลเส็น ยังระบุด้วยว่า กลุ่มอุตสาหกรรมหรือกลุ่มสินค้าและบริการที่มีการใช้เม็ดเงินโฆษณามากที่สุด และการเติบโตเป็นอย่างไรอย่างชัดเจนทั้งหมด 20 กลุ่ม

กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการใช้งบประมาณมากที่สุดในไตรมาสแรกปี2567 เทียบกับไตรมาสแรกปี 2566 คือ กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม ด้วยมูลค่า 4,476 ล้านบาท เติบโต 21%

กลุ่มที่มีการเติบโตมากที่สุดคือ กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ใช้งบเพียง 196 ล้านบาท แต่เติบโตถึง 62%
กลุ่มที่มีการลดลงมากที่สุดคือกลุ่มเกษตรกรรม ที่ใช้เพียง 86 ล้านบาท แต่ตกลงมากถึง 22%
กลุ่มที่ใช้งบน้อยที่สุดคือ กลุ่มบันเทิงที่ใช้เพียง 53 ล้านบาทเท่านั้น แต่ก็ยังตกลงอีก 2% อีกด้วย
ทั้งนี้เรียงลำดับ 20 กลุ่มอุตสาหกรรมที่ใช้งบมากที่สุดดังนี้

1. กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม ใช้งบมูลค่า 4,476 ล้านบาท เติบโต 21%
2. กลุ่มของใช้ส่วนตัวและความงาม มูลค่าการใช้งบ 3,544 ล้านบาท ตกลง 1%
3. กลุ่มค้าปลีกและค้าอาหาร มูลค่าการใช้งบ 2,571 ล้านบาท ลดลง 6%
4. กลุ่มเฮลท์แคร์ มูลค่าการใช้งบ 1,636 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28%
5. กลุ่มยานยนต์ มูลค่าการใช้งบ 1,418 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45%
6. กลุ่มสื่อและการตลาด มูลค่าการใช้งบ 1,339 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3%
7. กลุ่มบริการทางการเงิน มูลค่าการใช้งบ 1,268 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% ,
8. กลุ่มของใช้ในครัวเรือน มูลค่าการใช้งบ 836 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38%
9. กลุ่มหน่วยงานราชการ มูลค่าการใช้งบ 733 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33%
10. กลุ่มสื่อสาร มูลค่าการใช้งบ 719 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11%
11. กลุ่มการเดินทาง มูลค่าการใช้งบ 662 ล้านบาท แต่เติบโตถึง 46%
12. กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า มูลค่าการใช้งบ 480 ล้านบาท
13. กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ มูลค่าการใช้งบ 289 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12%
14. กลุ่มเครื่องแต่งกายเสื้อผ้า มูลค่าการใช้งบ 235 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53%
15. กลุ่มวัสดุก่อสร้าง มูลค่าการใช้งบ 196 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 62%
16. กลุ่มพลังงานน้ำมัน มูลค่าการใช้งบ 163 ล้านบาท ลดลง 19%
17. กลุ่มการศึกษา มูลค่าการใช้่งบ 128 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 60%
18. กลุ่มอุปกรณ์ที่ใช้ในครัวเรือน มูลค่าการใช้งบ 126 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34%
19. กลุ่มเกษตรกรรม มูลค่าการใช้งบ ษั ล้านบาท ลดลง 22%
20. กลุ่มบันเทิง มูลค่าการใช้งบ 53 ล้านบาท ลดลง 2%


สำหรับบริษัทที่มีการใช้งบประมาณด้านการโฆษณามากในช่วงไตรมาสแรกปี2567 คือ
1. ยูนิลีเวอร์ ที่ครองตำแหน่งนี้มาโดยตลอด ด้วยงบประมาณที่ใช้ไปในไตรมาสแรกปีนี้ จำนวน1,059 ล้านบาท
2. เนสท์เล่ ใช้งบไปจำนวน 605 ล้านบาท
3. แมส มาร์เก็ตติ้ง ใช้งบไปจำนวน 434 ล้านบาท
4. ลอรีอัล ใช้งบไปจำนวน375 ล้านบาท
5. ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ใช้งบไปจำนวน 371 ล้านบาท
6. พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล ใช้งบไปจำนวน 359 ล้านบาท
7. จีเอ็มเอ็ม ซีเจ โอ ชอปปิ้ง ใช้งบไปจำนวน 358 ล้านบาท
8. โตโยต้า ใช้งบไปจำนวน 347 ล้านบาท
9. ไบเออร์สดร๊อฟ ใช้งบไปจำนวน 327 ล้านบาท
10. โมโน ชอปปิ้ง ใช้งบไปจำนวน 325 ล้านบาท
ส่วนแบรนด์สินค้าที่มีการใช้งบโฆษณามากที่สุด 3 อันดับแรกในช่วงไตรมาสแรกปี 2567 นี้คือ แวนิช ด้วยงบประมาณมากถึง 136 ล้านบาท รองลงมาคือแบรนด์สติงค์ เอเนอร์จีดริ๊งก์ ใช้งบไปประมาณ 109 ล้านบาท และอันดับที่สามคือ แบรนด์ ยาธาตุน้ำขาวตรากระต่ายบิน มูลค่า 86 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น