xs
xsm
sm
md
lg

ขสมก.ลุยบริการ 107 เส้นทางตามแผนปฏิรูปรถเมล์ ผุดโครงการประกันเวลาจัดวิ่งเสริมแก้ "รถน้อยคอยนาน" ได้ผล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ขสมก.ลุยบริการ 107 เส้นทางตามแผนปฏิรูป หลังถอนรถจากเส้นทางที่ช่วยเอกชนวิ่งหมด ได้รถคืนเกือบ 300 คัน ทำโครงการ "Just in Time : มาตามเวลา" จัดรถวิ่งเสริมช่วงเร่งด่วน เน้นป้ายคนเยอะ รับนโยบาย "คมนาคม" ฟีดแบ็กดี ไม่มีปัญหารถน้อย คอยนาน

นายกิตติกานต์ จอมดวง จารุวรพลกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ตามแผนปฏิรูปเส้นทางรถโดยสารสาธารณะนั้น ขสมก.จะได้รับใบอนุญาตเดินรถในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 107 เส้นทาง ซึ่งปัจจุบันได้มีการให้บริการตามใบอนุญาต จากกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กำหนด ขณะเดียวกันได้มีการถอนรถโดยสารออกจากเส้นทางที่เอกชน คือไทยสมายล์บัส นำรถเข้าบรรจุแล้ว เพื่อส่งต่อให้เอกชนเข้ามาเดินรถตามใบอนุญาต ในแผนปฏิรูปรถโดยสารประจำทางในเขตกรุงเทพมหานครและจังหวัดที่มีเส้นทางต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 8 เม.ย. 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ ขสมก.ได้รถโดยสารกลับมา ประมาณ 200-300 คัน จึงได้นำมากระจายวิ่งในเส้นทางต่างๆ เพิ่มความคล่องตัวในการบริหารการเดินรถ และมีการโยกย้ายสายรถในเส้นทางมีผู้โดยสารไม่หนาแน่นมาใช้ในเส้นทางของรถโดยสาร NGV 486 คัน โดยเริ่มทดลองในวันที่ 9 เม.ย. 2567

โดยมีตัวชี้วัด คือ จำนวนผู้โดยสาร และการร้องเรียน พบว่าก่อนรถโดยสาร NGV จำนวน 486 คันจอดเสีย และก่อนทำการถอนรถ มีผู้โดยสารที่ใช้บริการรถ ขสมก.ประมาณ 650,000 คนต่อวัน หลังจากรถ NGV จอดเสียและมีการถอนรถ ออกจากเส้นทาง ที่มีเอกชนได้นำรถมาวิ่งตามใบอนุญาต ผู้โดยสาร ขสมก.อยู่ที่ประมาณ 635,000 คนต่อวัน แสดงให้เห็นว่าประชาชนได้รับผลกระทบไม่มาก และไม่มีเรื่องร้องเรียนบริการ ขสมก.ว่า รถน้อย คอยนาน


นายกิตติกานต์กล่าวว่า เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ขสมก.จึงได้ทำโครงการประกันเวลา หรือ Just in Time : มาตามเวลา ซึ่งเป็นไปตามนโยบาย นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม ที่ไม่ต้องการให้ประชาชนรอรถนาน ซึ่ง ขสมก.มีการสำรวจป้ายรถเมล์ที่มีผู้โดยสารรอจำนวนมากๆ เช่น ป้ายรถเมล์ กม.9 ถนนสุขสวัสดิ์ ป้ายก่อนขึ้นทางด่วนจากฝั่งธนบุรี ไปอนุสาวรีย์ชัยฯ และถนนเพชรบุรี มีผู้โดยสารรอใช้บริการจำนวนมากในช่วงเวลาเร่งด่วน

โดยจะแจ้งเวลารถมาถึงแน่นอน ซึ่ง ขสมก.จะจัดรถส่วนหนึ่งของเส้นทางมาจอดรอบริเวณแก้มลิง ซึ่งอาจจะเป็นรถกะบ่าย เพื่อมาเติมในเส้นทางช่วงเร่งด่วนไม่ให้รถขาดระยะ และปรับความถี่ในการเดินรถ ซึ่งผลตอบรับจากโครงการก็คือไม่มีคนร้องเรียน ส่วนกะบ่าย จะมีการตัดเสริม ตัดช่วง ระยะทางสั้นลง สำหรับระยะทางยาว ต้นทาง-ปลายทาง จะจัดรถวิ่งบริการคันเว้นคัน ทั้งนี้ ในการตัดเสริม ตัดช่วงเส้นทางได้รับความอนุเคราะห์จากกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ให้ทำได้เลยค่อยแจ้งภายหลัง จากปกติจะต้องได้รับอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบกก่อนจึงจะวิ่งได้ ทำให้มีความคล่องตัวมากขึ้น

ปัจจุบัน ขสมก.มีรถโดยสารประมาณ 2,884 คัน (รถใช้เครื่องยนต์ดีเซล 2,075 คัน, รถโดยสาร NGV จำนวน 323 คัน และรถโดยสาร NGV ที่จอดเสียรอซ่อมจำนวน 486 คัน) ทำให้เหลือรถวิ่งให้บริการจริงประมาณ 2,398 คัน โดยรถส่วนใหญ่มีอายุใช้งาน 30-33 ปี ดังนั้นรถที่มีอยู่จึงต้องดูแลซ่อมบำรุง เพื่อให้พร้อมบริการ ไม่เกิดการเสีย ขณะที่ต้องพยายามหมุนรถที่มีให้เต็มที่เพื่อไม่ให้กระทบการให้บริการประชาชน ขณะที่ ขสมก.จะเร่งจัดหารับจ้างเหมาซ่อมรายใหม่สำหรับรถ NGV 486 คันโดยเร็ว เพื่อให้สามารถนำรถชุดดังกล่าวมาให้บริการเร็วที่สุด หรือภายในเดือน มิ.ย. 2567
กำลังโหลดความคิดเห็น