xs
xsm
sm
md
lg

แรงกดดันหุ้นแบงก์กดหุ้นไทยปิดร่วง -1.80 จุด นักลงทุนทยอยปรับพอร์ตรับสงกรานต์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



หุ้นไทยเผชิญแรงกดดันต่อเนื่อง ปิดตลาดร่วง -1.80 จุด นักวิเคราะห์เผยแรงขายกลุ่มแบงก์ออกมาสร้างแรงกดดันต่อภาคตลาดทุนอย่างต่อเนื่อง ตอบรับความกังวลคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) สัปดาห์หน้าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง แต่ยังโชคดีที่มีแรงซื้อเข้าในหุ้นกลุ่มพลังงานเข้าประคองตลาดไว้ ทำให้ดัชนีไม่ปรับตัวลดลงมากนัก มองกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้แนวรับที่ 1,370 จุด และแนวต้านที่ 1,385 จุด

ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 4 เมษายน 2567 ปรับตัวลดลง -1.80 จุด หรือ -0.13% โดยปิดตลาดที่ 1,373.89 จุด มูลค่าการซื้อขาย 30,663.39 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นในวันนี้ดัชนีถีบตัวขึ้นในแดนบวกช่วงสั้นๆหลังเปิดตลาดหลังจากนั้นก็ปรับตัวลดลงเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวันจนกระทั่งปิดตลาด โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,379.41 จุด ในทิศทางกลับกันที่ปรับตัวลดลงต่ำสุด 1,368.80 จุด

ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 150 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 171 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 342 หลักทรัพย์

ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนสถาบัน ขายสุทธิกว่า -1,082.11 ล้านบาท และ นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิกว่า -332.63 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนในประเทศ ซื้อสุทธิกว่า +1,200.60 ล้านบาท และ บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +214.14 ล้านบาท

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,624.89 ล้านบาท ปิดที่ 111.50 บาท ลดลง 1.00 บาท
2.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,406.60 ล้านบาท ปิดที่ 55.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
3.BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,260.84 ล้านบาท ปิดที่ 136.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
4.TISCO มูลค่าการซื้อขาย 1,153.32 ล้านบาท ปิดที่ 98.75 บาท ลดลง 0.50 บาท
5.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,150.68 ล้านบาท ปิดที่ 158.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.BH ปิดที่ 227.00บาท เพิ่มขึ้น 4.00บาท หรือ 1.79%
2.MOSHI ปิดที่ 56.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท หรือ 4.63%
3.SAPPE ปิดที่ 91.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ 2.25%
4.GULF ปิดที่ 43.25บาท เพิ่มขึ้น 0.50บาท หรือ 1.17%
5.MINT ปิดที่ 33.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.50บาท หรือ 1.53%

ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.AEONTS ปิดที่ 154.00บาท ลดลง 2.50บาท หรือ 1.60%
2.EA ปิดที่ 32.25 บาท ลดลง 1.00บาท หรือ 3.01%
3.PTTGC ปิดที่ 40.00บาท ลดลง 1.00บาท หรื 2.44%
4.CBG ปิดที่ 61.50บาท ลดลง 1.00บาท หรือ 1.60%
5.SCB ปิดที่ 111.50 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 0.89%

ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 1,868.10 จุด ลดลง -1.31 จุด หรือ -0.07% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 844.16 จุด ลดลง -0.24 จุด หรือ -0.03% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 397.85 จุด ลดลง -2.68 จุด หรือ -0.67%

นายณรงค์เดช จันทรไพศาล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไอร่า กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ดัชนีปรับตัวลดลงแต่ไม่มาก เคลื่อนไหวทั้งบวก-ลบคล้ายภูมิภาค ไร้ปัจจัยใหม่เข้ามาหนุน นักลงทุนลดความคาดหลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มลดดอกเบี้ยในเดือน มิ.ย.เริ่มมีความไม่แน่นอน แม้เมื่อนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดยังย้ำมุมมองว่าเฟดลดดอกเบี้ยแน่ปีนี้ แต่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐยังแข็งแกร่ง และตลาดยังไม่แน่ใจว่าในปีนี้เฟดจะลดดอกเบี้ยกี่ครั้งกันแน่

"ตลาดบ้านเรายังเผชิญแรงขายกลุ่มแบงก์ออกมากดดันอย่างต่อเนื่อง ตอบรับความกังวลคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) สัปดาห์หน้าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง อย่างไรก็ตาม ยังมีแรงซื้อกลุ่มพลังงานยังประคองตลาดไว้ได้บ้าง"

ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในวันพรุ่งนี้คาดตลาดแกว่งไซด์เวย์ แต่เข้าใกล้ช่วงเทศกาลสงกรานต์แรงซื้อจะเบาบางลง

"นักลงทุนต่างชาติคงขายลดความเสี่ยงก่อนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐในสัปดาห์หน้า โดยมองกรอบแนวรับที่ 1,370 จุด และแนวต้านที่ 1,385 จุด" นายณรงค์เดช กล่าวทิ้งท้าย

กำลังโหลดความคิดเห็น