หายนะของแทร่!! ยอดส่งมอบเทสลาไตรมาสแรกวูบแรง ผลสำรวจชี้ว่าที่ลูกค้าหน่ายพฤติกรรมมัสก์

ยอดส่งมอบเทสลาลดลงเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 4 ปี และต่ำกว่าที่วอลล์สตรีทคาดไว้ นักวิเคราะห์บางคนวิจารณ์ “หายนะของแท้” ที่ฟ้องว่า กลยุทธ์การลดราคาไม่สามารถปั่นดีมานด์ในตลาดอีวีที่มีการแข่งขันสูงได้ นอกจากนั้นยังมีโพลล์ตลอดจนความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญที่ระบุตรงกันว่า พฤติกรรมของมัสก์ส่งผลต่อภาพลักษณ์แบรนด์ของเทสลาและอาจมีส่วนทำให้ว่าที่ลูกค้าหน่ายหนี

ราคาหุ้นเทสลาดิ่ง 5.2% อยู่ที่ 166.08 ดอลลาร์ระหว่างการซื้อขายเมื่อบ่ายวันอังคาร (2 เม.ย.) ฉุดมูลค่าตลาดหายไปทันทีราว 30,000 ล้านดอลลาร์ โดยนับจากต้นปีจนถึงขณะนี้ราคาหุ้นบริษัทอีวีชื่อดังแห่งนี้ตกไปแล้วประมาณ 33%

หลังจากยอดขายโตเร็วมาหลายปีและส่งให้เทสลากลายเป็นบริษัทรถที่มีมูลค่าสูงสุดในโลก แต่สำหรับปีนี้สถานการณ์ค่อนข้างน่าเป็นห่วง อีลอน มัสก์ ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ ออกปากเตือนตั้งแต่เดือนมกราคมว่า ยอดขายปี 2024 อาจชะลอลงอย่างชัดเจนขณะที่บริษัทโฟกัสการผลิตอีวีรุ่นใหม่

วันอังคาร เทสลารายงานว่า ยอดส่งมอบประจำไตรมาสแรกปีนี้ลดลง 8.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว อยู่ที่ 386,810 คัน เทียบกับเป้าหมาย 454,200 คันที่นักวิเคราะห์ในวอลล์สตรีทคาดการณ์ไว้

ทั้งนี้ ครั้งล่าสุดที่บริษัทอีวีแห่งนี้มียอดขายลดลงคือ ไตรมาส 2 ปี 2020 ที่การระบาดของโควิด-19 บีบให้ต้องพักการผลิต

ในส่วนปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 433,371 คัน หรือมากกว่าจำนวนรถที่ขายได้ 46,000 คัน ตอกย้ำดีมานด์ที่ซบเซาลง

สาเหตุมีมากมาย ทั้งการที่เทสลาล่าช้าในการรีเฟรชรถรุ่นก่อนๆ ไหนจะดอกเบี้ยขาขึ้นที่ทำให้ผู้บริโภคไม่ค่อยอยากซื้อของใหญ่ แถมยังต้องฝ่าฟันกับคู่แข่งมากมายในจีนที่ชวนกันส่งอีวีราคาถูกมาแย่งชิงส่วนแบ่งตลาด

คู่แข่งสำคัญในจีน ซึ่งเป็นตลาดรถใหญ่ที่สุดในโลก รวมถึงบีวายดีที่เพิ่งแย่งตำแหน่งผู้ผลิตอีวีใหญ่ที่สุดในโลกไปจากเทสลาเมื่อไตรมาส 4 ปีที่แล้ว และเสียวหมี่ ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนและคอนซูเมอร์อิเล็กทรอนิกส์ชั้นนำที่มูลค่าตลาดพุ่งขึ้นเป็น 4,000 ล้านดอลลาร์เมื่อวันอังคาร หรือเพียง 5 วันหลังเปิดตัวอีวีรุ่นแรกที่ตั้งราคาต่ำกว่าโมเดล 3 ของเทสลา

ทางด้านเทสลาแจงว่า สาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้ยอดส่งมอบช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ลดลงมาจากการที่บริษัทกำลังเตรียมโรงงานในฟรีมอนต์ แคลิฟอร์เนียเพื่อเพิ่มกำลังผลิตโมเดล 3 รวมทั้งการปิดโรงงานในเบอร์ลินซึ่งได้รับผลกระทบจากการที่กบฏฮูตีโจมตีเรือบรรทุกสินค้าในทะเลแดง และการลอบวางเพลิงเมื่อไม่นานมานี้

สำหรับบีวายดี ผู้ผลิตอีวีที่วอร์เรน บัฟเฟตต์ นักลงทุนแถวหน้าของอเมริกาให้การสนับสนุนนั้น มียอดขายรถไฟฟ้าแบตเตอรี่ (บีอีวี) ทั่วโลกเพิ่มขึ้น 13% ในไตรมาสที่ผ่านมา ขณะที่ฮุนได มอเตอร์ของเกาหลีใต้ รายงานว่า ยอดขายไอออนิก 5 และไอออนิก 6 ในอเมริกาทะยานเกือบ 80% เป็น 10,468 คัน

จีน มุนสเตอร์ หุ้นส่วนผู้จัดการดีปวอเตอร์ แอสเส็ต แมเนจเมนต์ วิจารณ์ผลงานล่าสุดของเทสลาว่า “อัปลักษณ์” และบอกว่า เป็นผลจากอัตราดอกเบี้ยและการที่กระแสปลื้มอีวีเริ่มแผ่วลง อย่างไรก็ตาม เขายังเชื่อมั่นแนวโน้มระยะยาวของเทสลา

นอกจากนั้นผลสำรวจยังพบว่า พฤติกรรมที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ของอีลอน มัสก์ รวมถึงทัศนคติการเมืองฝ่ายขวา และการแสดงความคิดเห็นที่จุดชนวนความขัดแย้ง ทำให้ว่าที่ลูกค้าบางคนไม่อยากซื้อเทสลา

การสำรวจความคิดเห็นที่จัดทำโดยบริษัทข้อมูลข่าวกรองการตลาด คาลิเบอร์ ระบุว่า ความสนใจของผู้บริโภคที่มีต่อเทสลาลดฮวบกว่าครึ่งนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2021 และสำทับว่า ชื่อเสียงของบริษัทเกี่ยวโยงโดยตรงกับชื่อเสียงของมัสก์

ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดและยานยนต์หลายคนเห็นด้วยว่า ถ้อยแถลงที่จุดชนวนการวิพากษ์วิจารณ์และการฝักใฝ่การเมืองฝ่ายขวาของมัสก์ ส่งผลต่อภาพลักษณ์แบรนด์ของเทสลาและดีมานด์ที่มีต่ออีวีของบริษัท

ที่ปรึกษาคนหนึ่งในลอนดอนเปิดใจกับรอยเตอร์ว่า ไม่อยากให้เงินแม้แต่เพนนีเดียวกระเด็นเข้ากระเป๋ามัสก์

ทั้งนี้ ตลาดที่ชื่อเสียงของเทสลาเสื่อมลงรวมถึงอเมริกา เนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร และออสเตรเลีย แต่ดีขึ้นในจีน

และสุดท้ายขาลงของเทสลาอาจเป็นผลกระทบจากการที่บริษัทเผชิญปัญหาด้านภาพลักษณ์ ซึ่งรวมถึงการถูกฟ้องร้องและสอบสวนที่เกี่ยวข้องกับระบบช่วยขับขี่ออโต้ไพล็อต

แดน ไอเวส นักวิเคราะห์ของเว็ดบุช ซีเคียวริตี้ส์ บอกว่า ผลงานไตรมาสแรกของเทสลาเป็น “หายนะของแท้”