xs
xsm
sm
md
lg

แสนสิริโชว์ Q1 ยอดขาย 12,000 ล้านบาท เชื่อมั่นมาตรการรัฐ ลุยเปิด 11 โครงการ มูลค่า 1.2 หมื่นล้านบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



SIRI ท็อปฟอร์ม โชว์ยอดขายไตรมาสแรก 12,000 ล้านบาท คิดเป็นกว่า 23% จากเป้าหมายทั้งปี 52,000 ล้านบาท พร้อมโกยยอดโอนสูงถึง 9,700 ล้านบาท Sold Out! รวด 12 โครงการ มูลค่ารวม 12,000 ล้านบาท เผยเชื่อมั่นมาตรการรัฐ หนุนตลาดอสังหาฯ ปี 67 เดินหน้า Speed to Market ลุยต่อไตรมาส 2 เปิด 11 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 12,000 ล้านบาท เน้นตลาดคอนโดฯ

นายอุทัย อุทัยแสงสุข กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) (SIRI) เปิดเผยว่า บริษัทสามารถสร้างยอดขายไตรมาสแรกของปี 2567 ได้สูงถึง 12,000 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายจากโครงการแนวราบ 8,000 ล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียม 4,000 ล้านบาท และคิดเป็น 23% จากเป้าหมายยอดขายทั้งปีที่วางไว้ 52,000 ล้านบาท ความสำเร็จจากความเชื่อมั่นในแบรนด์แสนสิริมากว่า 40 ปี ส่งผลให้ลูกค้าให้การตอบรับที่ดี ทั้งจากการเปิดตัวโครงการใหม่ในไตรมาสแรก 7 โครงการ มูลค่ารวม 9,400 ล้านบาท รวมถึงโครงการที่อยู่ระหว่างการขาย

โดยไตรมาสแรก แสนสิริประสบความสำเร็จสามารถปิดการขาย Sold Out! รวดไปถึง 12 โครงการทั้งแนวราบและคอนโดมิเนียม มูลค่ารวม 12,000 ล้านบาท ทั้งการ Sold Out! “BuGaan Rama 9-Meng Jai” ทันทีภายใน 1 วันแรกที่เปิดจอง รวมถึงปิดการขายโครงการคอนโดมิเนียม เช่น เอ็กซ์ที เอกมัย เป็นต้น รวมทั้งยังสร้างยอดขายหลักได้จากแคมเปญ แสนสิริ เทอร์มินัล ดีลดี โปรดทราบ ที่ปิดยอดขายได้กว่า 800 ล้านบาทในงานมหกรรมบ้านและคอนโด

นอกจากนี้ แสนสิริยังมียอดโอนสูงถึง 9,700 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดโอนจากโครงการแนวราบ 7,500 ล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียม 2,200 ล้านบาท จากโครงการบูก้าน พระราม 9-เหม่งจ๋าย ที่ปิดการขายทันที โครงการนาราสิริ กรุงเทพกรีฑา และเศรษฐสิริ วัชรพล-เทพรักษ์ ที่มียอดโอนเกินเป้า พิสูจน์ความสำเร็จของแบรนด์บ้านเดี่ยวระดับลักชัวรี และซูเปอร์ลักชัวรีจากแสนสิริ รวมถึงโครงการคอนโดมิเนียมที่สร้างยอดโอนได้เกินเป้าหมายจากโครงการเอ็กซ์ที พญาไท และเดอะ เบส ขอนแก่น เป็นต้น

"ภาพรวมตลาดอสังหาฯ ไตรมาส 2 คาดว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐจะเป็นแรงหนุนที่สำคัญของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะแรงหนุนจากการฟื้นตัวของการใช้จ่ายในประเทศ และภาคการท่องเที่ยวที่เติบโตต่อเนื่อง รวมทั้งการผลักดันโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานให้เกิดเป็นรูปธรรมมากขึ้น ขณะที่ในภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ภาคเอกชนรายใหญ่ต่างเริ่มมีความมั่นใจในการช่วยกันขับเคลื่อนอุตสาหกรรม ด้วยการเปิดตัวโครงการใหม่และมอบแคมเปญการตลาดสู่กลุ่มลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ทั้งหมดนี้จะช่วยสร้างความมั่นใจให้อุตสาหกรรมได้เป็นอย่างดี โดยสำหรับแสนสิริ เราให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ Speed to Market พร้อมวิ่งก่อนใคร ผ่านการตลาดที่แข็งแกร่ง รวมถึงการบริหารจัดการพอร์ตสินค้าพร้อมขาย ให้กระจายไปในหลากหลายทำเล เพื่อสร้างโอกาสและความได้เปรียบในการแข่งขัน"

สำหรับไตรมาส 2 วางแผนเปิดตัวโครงการใหม่ราว 11 โครงการ มูลค่ารวม 12,000 ล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบ 5 โครงการ มูลค่า 4,200 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 6 โครงการ มูลค่า 7,800 ล้านบาท เช่น เดอะ สแตนดาร์ด เรสซิเดนซ์ หัวหิน Beachfront Branded Residences แห่งแรกในเอเชีย หรือ “เศรษฐสิริ รวมโชค” บ้านดีไซน์ Modern Classic วิวดอยสุเทพ ที่ชูนวัตกรรมบ้านปลอดฝุ่น สู้ PM 2.5 ราคาเริ่มต้น 20-35 ล้านบาท และ “mekin Haus” (เมคิน เฮาส์) แบรนด์ HAUS โครงการแรกในเชียงใหม่และต่างจังหวัด พร้อมไฮไลต์ “คอนโดเลี้ยงสัตว์ได้แห่งแรกในเชียงใหม่” และ THE MUVE สุขุมวิท 107 พร้อมกับแบรนด์คอนโดน้องใหม่ PYNN Pridi20 (พินน์ ปรีดี 20) เอ็กซ์คลูซีฟ ราคาเริ่มต้น 3.59 ล้านบาท เปิดตัวในเดือนพฤษภาคมนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น