เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2567 ซึ่งเป็นวันครบรอบปีที่ 127 แห่งการสถาปนากิจการรถไฟ การรถไฟแห่งประเทศไทยได้เปิดช่องทางการชำระเงินสำหรับผู้โดยสารที่สำรองที่นั่งและซื้อตั๋วโดยสารผ่านระบบ D-Ticket ผ่านเว็บไซต์ dticket.railway.co.th และแอปพลิเคชัน D-Ticket สามารถชำระเงินผ่าน QR Code พร้อมเพย์ โดยใช้แอปพลิเคชันธนาคารจ่ายได้ทุกธนาคาร
โดยมีวิธีการก็คือ เลือกระหว่างไป-กลับหรือเที่ยวเดียว เลือกสถานีต้นทาง สถานีปลายทาง วันที่ต้องการเดินทาง และจำนวนผู้โดยสาร เลือกขบวนรถที่ต้องการ เลือกตู้โดยสาร ระบุข้อมูลผู้โดยสาร เลือกที่นั่ง สรุปรายละเอียดการจอง
เมื่อถึงขั้นตอนเลือกช่องทางการชำระเงิน ให้เลือก "ชำระผ่าน QR Code" หน้าจอจะขึ้นว่า "ยืนยันการชำระเงิน ชำระผ่าน QR Code" ให้กด "ใช่" จากนั้นหน้าจอจะแสดง THAI QR PAYMENT Promptpay ให้กด "บันทึก QR Code" จากนั้นเปิดแอปพลิเคชันธนาคาร กดที่ไอคอนรูปภาพ เลือกรูปภาพ QR Code ที่บันทึกไว้ ตรวจสอบข้อมูล กดยืนยัน เป็นอันเสร็จสิ้น
เมื่อชำระเงินเรียบร้อยแล้ว ระบบจะส่งตั๋วรถไฟไปยังอีเมลที่ได้ลงทะเบียนไว้ ให้บันทึกไฟล์ PDF ไว้เพื่อแสดงแก่เจ้าหน้าที่แทนตั๋วรถไฟ และสามารถดูตั๋วรถไฟได้ที่เมนู "ตั๋วของฉัน" แล้วแสดง QR CODE แก่เจ้าหน้าที่เมื่อรถออก หรือตรวจสอบตั๋วรถไฟได้จากแอปพลิเคชัน D-Ticket เมนูด้านล่าง "ประวัติการซื้อ" เลือกแถบ "รายการจองล่าสุด"
การชำระเงินผ่าน QR Code พร้อมเพย์ ผู้โดยสารต้องชำระเงินภายใน 1 ชั่วโมงนับจากขั้นตอนเลือกช่องทางการชำระเงิน หากไม่ดำเนินการชำระเงินภายในเวลาที่กำหนด ระบบจะทำการยกเลิกการจองโดยอัตโนมัติ สำหรับการคืนตั๋วโดยสาร เฉพาะตั๋วที่ชำระเงินผ่าน QR Code พร้อมเพย์ ต้องยกเลิกคืนเงินที่สถานีรถไฟเท่านั้น โดยหักค่าธรรมเนียมก่อนแล้วคืนเป็นเงินสด
ก่อนหน้านี้ ผู้โดยสารที่สำรองที่นั่งและซื้อตั๋วโดยสารผ่านระบบ D-Ticket ทั้งเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน ต้องชำระเงินผ่านบัตรเครดิต หรือเดบิตเท่านั้น เพื่อเปิดให้ผู้โดยสารหรือผู้ที่มีความจำเป็นในการเดินทางได้มีโอกาสจองตั๋วหรือสำรองที่นั่งในวันดังกล่าวได้ ทำให้ผู้โดยสารที่ไม่มีบัตรดังกล่าว และไม่สะดวกที่จะไปซื้อตั๋วโดยสารที่สถานีรถไฟ ไม่ได้รับความสะดวก
เอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า การพัฒนาแพลตฟอร์มจองตั๋วและชำระค่าโดยสารดังกล่าว เป็นไปตามนโยบายของ สุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม ที่ให้การรถไฟฯ พัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการเพื่ออำนวยความสะดวกให้ดีที่สุดแก่ผู้โดยสารอย่างต่อเนื่อง
ทำให้ นิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟฯ ได้มอบหมายให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องนำนวัตกรรม มาพัฒนาระบบการจองตั๋วโดยสาร และชำระค่าตั๋วโดยสารใหม่ เพื่อเพิ่มความสะดวกในการจองและชำระเงินแก่ผู้โดยสาร ได้ทั้งบัตรเครดิต บัตรเดบิต และการสแกน QR Code ผ่าน Mobile Application ของธนาคาร เพื่อก้าวสู่สังคมไร้เงินสดแบบครบวงจร
“การพัฒนาระบบจองตั๋วและชำระค่าโดยสารผ่านทาง QR Code บัตรเครดิต บัตรเดบิต ถือเป็นการเพิ่มทางเลือกใหม่ในการชำระค่าโดยสารแก่ประชาชน อีกทั้งยังสอดรับกับนโยบายการก้าวสู่สังคมไร้เงินสดของรัฐบาล ซึ่งระบบนี้จะมีความสะดวกอย่างมาก ทั้งการชำระค่าตั๋วโดยสาร รวมถึงกรณีเกิดเหตุจำเป็นต้องคืนเงินค่าตั๋ว ซึ่งหากได้ชำระผ่าน QR Code บนแอปพลิเคชันมือถือของธนาคาร จะสามารถรับเงินสดคืนได้ทันทีที่ช่องจำหน่ายตั๋วของสถานีรถไฟทุกแห่ง ส่วนผู้ชำระผ่านบัตรเดบิต หรือบัตรเครดิต จะได้รับค่าตั๋วคืนเข้าบัตรภายใน 45 วัน ที่สำคัญผู้ซื้อตั๋วโดยสารผ่านออนไลน์ สามารถแสดงตั๋วผ่านโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนให้เจ้าหน้าที่บนขบวนรถตรวจสอบได้อีกด้วย” เอกรัช ระบุ
ที่ผ่านมา การรถไฟฯ ได้นำนวัตกรรมเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วยพัฒนาบริการใหม่ๆ ทั้งการพัฒนาแอปพลิเคชันเช็กตารางเดินรถ (SRT TIMETABLE) ตรวจเวลาขบวนรถในเส้นทางที่ต้องการจะเดินทาง แอปพลิเคชันติดตามขบวนรถ (TRAIN TRACKING SYSTEM) ตรวจสอบสถานะ ตำแหน่ง และวางแผนการเดินทางได้อย่างสะดวก สร้างความมั่นใจในการเดินทาง
ระบบการจำหน่ายตั๋วโดยสารและสำรองที่นั่ง D-Ticket เริ่มนำมาใช้เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2563 แทนระบบ STARS-2 ที่ใช้กันมานานถึง 20 ปี พัฒนาโดย บริษัท แอ็ดวานซ์อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) ที่ผ่านมาได้พัฒนาแอปพลิเคชัน D-Ticket ให้ตอบสนองความต้องการของผู้โดยสาร เช่น การนำระบบ Passcode และสแกนใบหน้าในการเข้าสู่ระบบ
ปัจจุบัน ระบบ D-Ticket สามารถซื้อตั๋วโดยสารได้ล่วงหน้าสูงสุด 90 วัน ขึ้นอยู่กับประเภทขบวนรถและระยะทาง โดยมีขบวนรถเชิงพาณิชย์ให้บริการที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ จำนวน 52 ขบวน ได้แก่ สายเหนือ 14 ขบวน สายตะวันออกเฉียงเหนือ 18 ขบวน และสายใต้ 20 ขบวน ส่วนขบวนรถที่ออกจากสถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) ซื้อตั๋วได้เฉพาะขบวนรถนำเที่ยว
ถือเป็นแอปฯ คู่ใจนักเดินทางที่ต้องมีติดเครื่องไว้ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเดินทางด้วยรถไฟโดยเฉพาะ ด้วยจุดเด่นที่ค่าโดยสารถูก มีเส้นทางครอบคลุมทั้งประเทศ เป็นตัวอย่างของการนำเทคโนโลยีมาพัฒนาบริการให้ผู้ใช้บริการสะดวกยิ่งขึ้น
(รีวิวเรื่องราวการตลาด เกาะกระแสเศรษฐกิจ ธุรกิจ ที่ใกล้ชิดผู้บริโภคอย่างตรงไปตรงมา พบกับคอลัมน์ #iBusinessReview เป็นประจำทุกสัปดาห์ ทางเว็บไซต์ ibusiness.co และเฟซบุ๊ก Ibusiness)
